SHARE

คัดลอกแล้ว

“การเลือกตั้งท้องถิ่นต่างกับระดับชาติ  มีปัจจัยของบ้านใหญ่ ระบบอุปถัมภ์  การใช้ ‘กระสุน’ มีบทบาทมากกว่าเลือกตั้งอื่น ถ้าหากมีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งน้อย จะตัดสินกันด้วยคะแนนจัดตั้ง ใครมากกว่าชนะไป”

 

ข้อวิเคราะห์ ของ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ อาจช่วยให้หลายคนถึงบางอ้อ ว่าทำไมกับแค่เลื่อนเลือกตั้งขึ้นมาวันเดียว ถึงไม่ควรเป็นเรื่องปกติ

“สัปดาห์หนึ่งมี 7 วัน ก็ต้องเอาวันที่คนส่วนใหญ่สะดวกที่สุด วันเสาร์เป็นวันหยุดราชการ แต่เอกชนจำนวนมาก ยังไม่หยุด ดังนั้นถ้าจะเอาวันที่คนสะดวกมากที่สุด ก็เป็นวันอาทิตย์”

นี่เลยกลายเป็นเหตุผลเบื้องต้นที่ทำให้ การเลือกตั้งที่ไม่เพียงแต่ในประเทศไทย เกิดขึ้นในวันอาทิตย์เกือบทั้งหมด อ.ปริญญา อธิบายว่า นับตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดให้ ‘การเลือกตั้งเป็นหน้าที่’ จึงตามมาด้วยบทลงโทษ ว่าถ้าไม่ไปใช้สิทธิ จะถูกตัดสิทธิบางประการ ตามที่รู้กัน คือ การลงสมัคร สส. สว. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการการเมือง รวมถึงไม่สามารถร่วมเข้าชื่อ 

อ.ปริญญา กล่าวว่า คนทั่วไปอาจมองว่าไกลตัว แต่การเลือกตั้ง สว. ครั้งที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ เมื่อผู้สมัครหลายคน ที่ลงสมัครเพื่อให้ได้ร่วมโหวต ถูกตัดสิทธิ จากเหตุที่ไม่ได้ไปเลือกตั้งท้องถิ่น

“การที่ กกต. มาเลือกวันเสาร์ เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นปัญหา เราไม่เคยมีการเลือกตั้งวันเสาร์มาก่อน อย่างน้อยเท่าที่ผมค้นมา ประเทศไทยมีการย้ายทะเบียนบ้านน้อย ทะเบียนบ้านอยู่ต่างจังหวัด แต่ตัวอาจจะอยู่กรุงเทพฯ เมืองใหญ่ เราถึงได้เห็นช่วงปีใหม่ สงกรานต์ คนกลับบ้านเยอะ เพราะคนย้ายที่ทำงานที่เรียน แต่ไม่ได้ย้ายบ้าน จึงจำเป็นต้องมีการกลับไปเลือกตั้ง”

[แนวโน้มเลือกตั้งปีนี้ ผู้ใช้สิทธิน้อยกว่าเดิม]

อ.ปริญญา ระบุว่า ย้อนกลับไปในการเลือกตั้ง สส. ครั้งที่ผ่านมา มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ราว 75% ขณะที่การเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อ 20 ธันวาคม ปี 2563 มีผู้มาใช้สิทธิ เฉลี่ย 62% ทั้งประเทศ 

และเหตุสำคัญก็มาจาก การที่ไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า รวมถึงเลือกตั้งนอกเขต ถึงไม่แปลกที่จะมีการคาดการว่า การเลือกตั้งวันเสาร์ อาจมีแนวโน้มให้มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยลง “ขนาดปี 63 เลือกตั้งล่วงหน้าไม่มีแต่เลือกวันอาทิตย์ คนยังไป 62%”

แล้วจัดเลือกตั้งล่วงหน้า ไม่ได้จริงหรือ? คำถามตัวโตๆ ที่ใครหลายคนสงสัยมาตลอด อาจารย์นักกฎหมายรายนี้ ชี้ว่า ทำได้ และกฎหมายก็เปิดช

ตามพระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ในมาตรา 76 ระบุว่า การออกเสียงลงคะแนน ให้กระทำได้โดย 2 วิธีการ คือ โดยใช้บัตรเลือกตั้ง และโดยวิธีอื่นที่มิใช่การใช้บัตรเลือกตั้ง

ข้อที่ 2 นี่เอง ที่ทำให้ อ.ปริญญา ระบุว่า การเลือกตั้งล่วงหน้าเกิดขึ้นได้ในสนามท้องถิ่น ขอเพียงแต่ยังคงอยู่ภายใต้เงื่อนไข 3 ประการ คือ

  • ป้องกันการทุจริตการเลือกตั้งอย่างมีประสิทธิภาพ
  • วิธีการที่สะดวกและคุ้มค่าเรื่องค่าใช้จ่าย
  • ประชาชนเข้าถึงได้โดยสะดวก 

“คิดง่ายๆ เร็วๆ และทำได้เลย  คือมีพื้นที่เลือกตั้งกลางของแต่ละจังหวัดในวันนั้น ถ้าเกิดเลือกตั้งวันเสาร์แล้วมีสิ่งนี้เกิดขึ้น ก็สามารถชดเชยกันได้ หรือจะออนไลน์เลย มาตรา 76 ก็เปิดช่อง เพราะใช้คำว่าการลงคะแนนโดยวิธีอื่น”

[เลือกตั้ง ‘โมฆะ’ จริงไหม ถ้าเลือกวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ.]

ย้อนกลับมาที่ เหตุผลที่ กกต. เลือกจัดการเลือกตั้งวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เคยชี้แจงเอาไว้ในวงเสวนา โดยยกเงื่อนไขสำคัญว่า อาจสุ่มเสี่ยงให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ   

“เป้าหมายก็คือวันอาทิตย์ตามที่ตั้งไว้ แต่เมื่อมาพิจารณาเรื่องข้อจำกัด และการรักษาการเลือกตั้ง ให้อยู่รอดตลอดไปจนจบไม่มีปัญหา วันเสาร์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ไม่มีความเสี่ยงในข้อกฎหมาย เราคำนึงถึงสิทธิ ของประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งก็เป็นงานของ กกต. ยิ่งคนมาเลือกตั้งเยอะ ก็นับเป็นความชอบธรรมของระบบการมีส่วนร่วมของประชาชน”

“ไม่อยากบอกว่าทุกคนต้องเสียสละ เพราะเสาร์ยังเป็นวันทำงานของภาคเอกชนอยู่ แต่อย่างที่บอก การเลือกตั้งท้องถิ่นชี้อนาคตประเทศไทย เมื่อได้กำหนดวันเสาร์แล้ว คงจะเปลี่ยนอะไรไปไม่ได้แล้วล่ะครับ เพียงแต่จะต้องช่วยกัน” เลขาธิการ กกต. กล่าวไว้

อ.ปริญญา ขยายความในเรื่องนี้ ว่าที่เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงนั้น คือ มาตรา 11 ของ พ.ร.บ. เลือกตั้งท้องถิ่น ที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วันนับตั้งแต่หมดวาระ เมื่อการเลือกตั้ง อบจ. ครั้งก่อนหน้าเกิดขึ้นเมื่อ 20 ธันวาคมปี 2563 ตามวาระ 4 ปี และนับต่อ 45 วัน จำเป็นต้องจัดการเลือกตั้งวันสุดท้าย คือ 2 ก.พ. นี้

นั่นเองที่ทำให้ กกต. กังวลว่า หากการเลือกตั้งยืดเยื้อ หรือติดจัดจนต่อเนื่องไปถึงเช้าถัดไป จะทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ แต่ในมุมมองของอาจารย์นักกฎหมาย ย้ำชัดว่าฟังไม่ขึ้น และไม่ถูกต้อง

อ.ปริญญา อธิบายว่า ถ้อยคำในมาตรา 11 เขียนชัดเจนว่า ‘ให้จัดการเลือกตั้ง’ ครั้งใหม่ภายใน 45 วัน ไม่ได้ระบุว่า ต้องเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ หรือประกาศผลภายใน 45 วัน อีกทั้งวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ. ก็ยังอยู่ในขอบเขต 

“หาก กกต. ไม่มีประสิทธิภาพ จนเลือกไม่สำเร็จเป็นปัญหาที่ใคร ก็อยู่ที่ กกต. เอง พูดไปพูดมาก็ยังกลับมาเรื่องเดิม คือกฎหมายให้จัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน”

อ.ปริญญา แสดงความเห็นว่า ต้องตั้งหลักกับการทำงานขององค์กรอิสระเสียใหม่ ไม่ใช่อิสระจากกฎหมายและประชาชน แต่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน และเอาประชาชนเป็นเป้าหมายในการทำงาน “เราไม่ได้พูดเพื่อให้เลื่อนวัน เพราะเลือกตั้งพรุ่งนี้แล้ว แต่ให้รู้ว่า เลือกตั้งวันเสาร์ จากนี้ไปอย่าจัดอีก ถ้าไม่พูดจะลามไปถึงเลือกตั้ง สส. หรือไม่คราวหน้า”

“ประชาชนมีหน้าที่ไปเลือกตั้ง แล้ว กกต. ไม่มีหน้าที่ต้องทำให้การเลือกตั้งสะดวกหรือ?” อ.ปริญญา ตั้งคำถามทิ้งท้าย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า