3 ปีผ่านไป ทำไม ‘สามย่านมิตรทาวน์’ เติบโตดี มีคนเดินตลอดปีสุดๆ

แม้ว่าจะอยู่ใกล้สยามสแควร์ แต่ ‘สามย่านมิตรทาวน์’ ดูเหมือนจะไม่ใช่ห้างใหญ่ใจกลางเมืองที่คนทั่วไปคุ้นเคยเท่าไรนัก แม้ว่าตัวห้างจะตั้งอยู่ติดกับพื้นที่ MRT สามย่านที่เป็นสถานีที่มีทราฟิกสูงที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร

ถึงอย่างนั้น ‘สามย่านมิตรทาวน์’ กลับมีผู้คนหลั่งไหลเข้าไปไม่ขาดสาย แม้ว่าจะเริ่มเปิดให้บริการในช่วงโควิด-19 ช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ก่อนโควิด-19 มีทราฟิกกว่า 55,000 คนต่อวัน ขณะที่ในเดือน ก.ค.- ก.ย. ปีนี้มีทราฟิกเพิ่มขึ้นกว่า 35% กลยุทธ์ของ ‘สามย่านมิตรทาวน์’ คืออะไร TODAY Bizview สรุปให้อ่าน

หนึ่ง ทำเลทอง ทำเลใจ

แน่นอนว่าทำเลของ ‘สามย่านมิตรทาวน์’ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองในย่านสามย่าน ติดกับพื้นที่ MRT สามย่านที่เป็นสถานีที่มีทราฟิกสูงที่สุด 10 แห่งของกรุงเทพมหานคร ใกล้กับสถานศึกษามากมาย ไม่ว่าจะเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนเตรียมอุดม โรงเรียนสาธิตปทุมวันฯลฯ และเป็นย่านที่มีชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมในพื้นที่เป็นหนึ่งในคีย์ความสำเร็จของสามย่านมิตรทาวน์

สอง กลุ่มลูกค้าต่าง ไม่ซ้ำใคร ไม่แย่งชิงตลาด

และเพราะลักษณะพิเศษของทำเลนั่นเอง ทำให้กลุ่มลูกค้าของสามย่านมิตรทาวน์แตกต่างกับศูนย์การค้าอื่นๆ ในเส้นพระราม 4 รวมถึงในเขตปทุมวัน เพราะกว่า 50% ของลูกค้าสามย่านมิตรทาวน์เป็นกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา และ 40% เป็นกลุ่มคนทำงานจากออฟฟิศของสามย่านมิตรทาวน์เองและออฟฟิศอื่นๆ บนเส้นพระราม 4 ส่วนอีก 10% เป็นกลุ่มครอบครัวที่มีเด็กด้วยซึ่งเดิมอยู่นอกเหนือความคาดหวังของสามย่านมิตรทาวน์

สาม แตกต่างโซน ดึงคนหลากไลฟ์สไตล์

นอกจากนั้น สามย่านมิตรทาวน์ยังมีจุดเด่นอีกหนึ่งอย่าง คือ มีโซนหลากหลาย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่แตกต่างกันชัดเจน คือ ถูกออกแบบมาให้มีโซนอาหาร โซนการเรียนรู้ โซน 24 ชั่วโมง และโซน Co-Op ที่เป็นพื้นที่ Co-Learning Space ที่มีการเติบโตกว่า 30% จึงทำให้มีลูกค้าหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาในศูนย์การค้าตลอดทั้งวัน เพื่อมากินข้าว มาเรียน และมาใช้พื้นที่ศูนย์การค้าในการทำงานและประชุม

สี่ มิกซ์ยูสดันทราฟิกสม่ำเสมอ 

อีกหนึ่งข้อที่ทำให้สามย่านมิตรทาวน์มีทราฟิกสม่ำเสมอ คือ ลักษณะของโครงการมิกซ์ยูส เพราะสามย่านมิตรทาวน์เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่พื้นที่ถูกใช้งานเกือบเต็มทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมที่ขาดหมด 100% โรงแรมที่มีอัตราการเข้าพัก 90% ออฟฟิศที่มีอัตราการใช้พื้นที่ 95% และศูนย์การค้าที่มีอัตราการเช่าพื้นที่ 98% ทำให้ผู้ใช้งานทุกโครงการหมุนเวียนกันเข้ามาใช้บริการศูนย์การค้าด้วย

นอกจากนั้น สามย่านมิตรทาวน์ ยังถือเป็นศูนย์การค้าที่ค่อนข้างโดดเด่นในด้านโปรแกรมการตลาดและอีเว้นท์ โดยใช้กลยุทธ์เข้าถึงลูกค้าที่ลื่นไหล สร้างความรู้สึกร่วม และเปิดพื้นที่

โดย ‘ธีรนันท์ กรศรีทิพา’ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจรีเทล เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้

คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) ผู้บริหารสามย่านมิตรทาวน์ คาดว่าในเดือน ต.ค. – ธ.ค. นี้ ทราฟิกของสามย่านมิตรทาวน์จะเพิ่มขึ้นอีก 10% หรือทะลุ 8 หมื่นคนต่อวัน

ทราฟิกในช่วงวันธรรมดามากกว่าวันหยุดสุดสัปดาห์ราว 10% ส่วนค่าใช้จ่ายต่อบิลในช่วงทำ Sales Promotion จะเฉลี่ยราว 3,500 บาทต่อใบเสร็จ ส่วน Spending Time ในพื้นที่ 24 ชม. เพิ่มจากก่อนโควิดราว 20% ปัจจุบันเฉลี่ยราว 3 ชั่วโมง

พร้อมคาดว่า เทรนด์ของค้าปลีกในปี 2023 จะเห็นการขยายตัวอยู่ แต่เป็นการขยายอย่างละเอียดรอบคอบ ระมัดระวัง ไม่เน้นขนาดใหญ่ แต่เน้นพื้นที่ที่ยืดหยุ่นมากขึ้น นอกจากนั้น จะเห็นแบรนด์ท้องถิ่นเติบโตเข้ามามีหน้าร้านในศูนย์การค้าต่างๆ มากขึ้น รวมถึงกลุ่มค้าปลีกจะต้องออกแบบการปล่อยเช่าพื้นที่ในรูปแบบที่หลากหลายผสมผสาน จะไม่ใช่โมเดลเดียว สเกลเดียวแบบเมื่อก่อน

ส่วนของสามย่านมิตรทาวน์ได้พูดคุยเรื่องสัญญากับพาร์ทเนอร์ไปแล้ว โดยมีการต่อสัญญาไปแล้วเกือบ 100% มีผู้เช่าไม่ต่อสัญญาราว 5% โดยเชื่อว่าตอนนี้เป็นยุคของการทำงานร่วมกัน ไม่ใช่ยุคที่แลนด์ลอร์ดจะเก็บค่าเช่าเพียงอย่างเดียว

ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบัน คนหันไปเรียนและทำงานจากที่ไหนก็ได้มากขึ้น ในช่วงปลายปีนี้สามย่านมิตรทาวน์จึงเตรียมจะออกโปรโมชันและอัดอีเวนท์ต่อเนื่อง เริ่มต้นจากงาน SAMYAN MITRTOWN 3 rd ANNIVERSARY MITRDAY MITRLOVE FESTIVAL ฉลองครบรอบสามปีสามย่านมิตรทาวน์ก่อนเป็นงานแรก

“ความท้าทายของปี 2022 ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2023 สำหรับวงการค้าปลีก คือ ไม่สามารถทำตามตำราได้อีกแล้ว ตอนนี้ผู้ประกอบการค้าปลีกต้องรีแอ็คเร็ว ต้องรีแอคไว เพราะเราต้องดูแลทั้งร้านค้าและลูกค้า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเราต้องรับมือกับปัญหาได้ สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจะเกิดขึ้นอีกมาก”