SHARE

คัดลอกแล้ว

เมื่อ 1 ปีก่อน ‘ลูกอมครูเพ็ญศรี’ ถือเป็นหนึ่งในสินค้าที่สร้างสีสันใหม่ๆ ในเฉดที่ไม่ได้พบเห็นมานานให้กับวงการลูกอม แต่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่า ลูกอมเคี้ยวหนึบที่มีคาแรคเตอร์ของ ‘ตุ๊กกี้-สุดารัตน์’ จากละครซิทคอมเรื่องหกฉากครับจารย์วางอยู่บนฉลาก เกิดจากการจับมือทางธุรกิจระหว่างสองยักษ์ใหญ่จากสองอุตสาหกรรมอย่าง ‘WORKPOINT’ และ ‘SAPPE’

ผ่านมาเป็นเวลาราว 1 ปีหลังลูกอมครูเพ็ญศรีวางจำหน่าย ล่าสุด ‘WORKPOINT’ และ ‘SAPPE’ ประกาศจับมือกับตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อ ‘WOPE’ (ออกเสียงว่า โวป) เพื่อลุยเข้าสู่ตลาดอาหารและเครื่องดื่ม Functional Drink

คำถาม คือ ทำไมสองยักษ์ใหญ่จากสองอุตสาหกรรมถึงตัดสินใจมาจับมือกันสร้าง ‘WOPE’

‘ลูกอมครูเพ็ญศรี’ ถอดโมเดลความสำเร็จ

40 ล้าน คือ ยอดขายของ ‘ลูกอมครูเพ็ญศรี’ ในปีที่ผ่านมา

แม้ว่าจะผู้บริหารจากทั้ง ‘WORKPOINT’ และ ‘SAPPE’ จะมองว่า “ยังไปได้อีก” และมีความตั้งใจจะผลักดันเพิ่มช่องทางการขายปลีกมากขึ้น แต่ถ้าพูดถึงแบรนด์ลูกอมที่เปิดตัวมาได้เพียง 1 ปี สามารถเป็นที่รู้จัก สร้างการจดจำในหมู่ลูกค้าในวงกว้าง ก็ต้องบอกว่า ลูกอมเคี้ยวหนึบตัวนี้ยังคงมีอนาคตอีกไกลในตลาดลูกอมที่มีมูลค่ากว่า 1.1 หมื่นล้านบาทและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

จึงไม่น่าแปลกใจที่หลังความสำเร็จของโปรเจ็กต์วัดใจวัดตลาดอย่าง ‘ลูกอมครูเพ็ญศรี’ ทั้งสองบริษัทจะตัดสินใจขยับจากพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจมาจับมือกันตั้งบริษัท เพื่อลุยตลาดอาหารและเครื่องดื่ม Functional Drink ด้วยเป้าหมายจะเป็นแบรนด์ Eatertainment หรือแบรนด์ที่สร้างสีสันใหม่ๆ ให้กับวงการต่อไปในอนาคต

ยักษ์ใหญ่วงการอาหาร อยากขยายพอร์ตในประเทศ

ในปี 2564 ‘SAPPE’ มีรายได้จากยอดขายที่สูงที่สุดนับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทฯ

ในไตรมาสที่ 1/2565 มีรายได้จากยอดขายรายไตรมาสสูงที่สุดนับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทฯ

ในไตรมาสที่ 2/2565 มีรายได้จากยอดขายรายไตรมาสสูงที่สุดนับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทฯ

เรียกว่า ‘SAPPE’ สามารถทำ All Time High ต่อเนื่องมาหลายไตรมาส จากยอดขายในตลาดต่างประเทศที่เติบโตสูง โดยมีเรือธงอย่างเครื่องดื่มผสมวุ้นมะพร้าวแบรนด์โมกุ โมกุ (Mogu Mogu) และเครื่องดื่มผสมว่านหางจระเข้เซ็ปเป้อโลเวร่า ดริ้งค์

แต่ในเวลาเดียวกันรายได้จากการขายในประเทศกลับปรับตัวลงเล็กน้อยจากปัจจัยการบริโภคในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวดี และการทุ่มเทกำลังการผลิตในการตอบรับตลาดต่างประเทศ จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ‘SAPPE’ อยากจะกระตุ้นตลาดด้วยสินค้าใหม่ๆ ที่แตกต่างจากสินค้าเดิม พร้อมๆ กับขยายพอร์ตฟอลิโอของสินค้าในประเทศให้สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด

‘ปิยจิต รักอริยะพงศ์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SAPPE อธิบายว่า หนึ่งใน Innovation Strategy ของ SAPPE คือการหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพ ทำให้เราเติบโตได้แม้ในสถานการณ์ท้าทาย อย่างสถานการณ์เงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภคโดยตรง

ยักษ์ใหญ่บันเทิง อยากกระจายช่องทางรายได้

อีกอย่าง คือ แม้ WORKPOINT มีธุรกิจหลักๆ อยู่ 4 ธุรกิจ คือ ธุรกิจรายการโทรทัศน์ ธุรกิจการรับจ้างจัดงาน ธุรกิจคอนเสิร์ตและละครเวที และธุรกิจอื่นๆ ในเครืออย่างเช่นธุรกิจให้บริการพื้นที่โรงละคร ธุรกิจบริหารศิลปิน ธุรกิจภาพยนตร์ ฯลฯ แต่ปัจจุบันรายได้หลักกว่า 80% ของ WORKPOINT เป็นรายได้ที่มาจากธุรกิจรายการโทรทัศน์ที่เป็นธุรกิจที่แข็งแกร่งที่สุดของบริษัท

ในขณะที่ ‘ธุรกิจการรับจ้างจัดงาน’ กับ ‘ธุรกิจคอนเสิร์ตและละครเวที’ ที่สร้างรายได้รองลงมาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในปี 2564 ที่ผ่านมา มีรายได้ลดลงจากปี 2563 ราว 43% ทั้งสองธุรกิจ แม้ว่าจะค่อยๆ พลิกฟื้นรับรายได้มากขึ้นใน 2 ไตรมาสที่ผ่านมาของปีนี้แล้ว แต่ก็ไม่แปลกที่บริษัทบันเทิงชั้นนำของเมืองไทยอย่าง WORKPOINT จะอยากกระจายช่องทางสร้างรายได้ รุกหารายได้จากธุรกิจอื่นๆ นอกจากธุรกิจหลัก

‘ธนศักดิ์ หุ่นอารักษ์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานพัฒนาธุรกิจ ของ WORKPOINT เองก็บอกว่า บริษัทมีบทเรียนจากการทำธุรกิจในอุตสาหกรรม FMCG (Fast-moving consumer goods) มาแล้วว่าจำเป็นจะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการคลังสินค้า ช่องทางจำหน่าย และอื่นๆ ร่วมกับจุดแข็งของ WORKPOINT ในด้านคอนเทนต์ งานประชาสัมพันธ์ และงานการตลาด

ปัจจุบัน WORKPOINT มีผู้ติดตามในสื่อจำนวนมหาศาล

ในเพจ Facebook มีผู้ติดตาม 17 ล้านคน

ในช่อง Youtube มีผู้ติดตาม 20 ล้านคน

และเป็นเจ้าของช่อง TV Digital ที่มีอันดับเรตติ้งโดดเด่นมาโดยตลอด

บริษัท โวป จำกัด (WOPE Co.,Ltd.) มี Sappe Holding ถือหุ้น 60% ส่วนทาง WORKPOINT ส่งบริษัทในเครือ THAI BROADCASTING ถือหุ้น 40% คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 50 ล้านบาท 

จนถึงตอนนี้ ‘WOPE’ ยืนยันแล้วว่า กำลังอยู่ระหว่างพัฒนาสินค้า 2 กลุ่ม แน่นอนแล้วว่าจะมี ‘กาแฟสำเร็จรูป’ ที่แตกต่างจากกาแฟตัวอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาดปล่อยออกมาภายในปีนี้ ส่วนอีกตัวนั้นยังไม่บอกว่าจะเป็นสินค้าในกลุ่มไหน แต่จะแตกต่างจากสินค้าที่มีอยู่ในตลาดแล้วแน่นอน

โดย ‘WOPE’ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 200 ล้านบาทภายในสองปี

เป้าหมาย 200 ล้านบาทอาจไม่ยากเมื่อมาอยู่ในมือยักษ์ใหญ่สองอุตสาหกรรมที่ต่างมีจุดแข็งที่ส่งเสริมกันได้ดียิ่ง แต่ ‘WOPE’ จะสร้างความแปลกใหม่อะไรให้กับวงการคงต้องร่วมกันจับตาดู

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า