SHARE

คัดลอกแล้ว

ถ้าพูดถึงท้องฟ้าเราจะนึกถึงอะไรได้บ้าง

บางคนคิดถึงก้อนเมฆและความสวยงาม บางคนอาจคิดถึงความกว้างใหญ่หรือความสงบ

เชื่อว่าทุกคนก็คงมีมุมมองและนึกถึงท้องฟ้าแตกต่างกันไป

แล้วท้องฟ้าเกี่ยวอะไรกับโลกของการทำงานและธุรกิจ ?

บทความนี้กำลังจะชวนทุกคนมาสรุปและรับความรู้ไปพร้อมกันกับอีกคอร์สเรียนที่น่าสนใจจากเว็บไซต์ Cariber คือคอร์สที่ชื่อว่า “Win by Rules, Succeed by Design ไขความลับของฟ้า” ที่สอนโดย คุณศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร หรือ คุณเล้ง CEO คนเก่ง แห่ง MFEC  ผู้เริ่มต้นเส้นทางอาชีพหลังเรียนจบวิศวะเป็นพนักงานประจำแต่มีความฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง

ก่อนที่เริ่มศึกษาตำราการตลาดและการบริหารธุรกิจจนสามารถเปิดบริษัทของตัวเองได้ ซึ่งปัจจุบันคือ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC บริษัทมหาชนแนวหน้าของไทยด้านที่ปรึกษา และวางระบบไอทีที่เติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

ความลับของฟ้า ของคุณศิริวัฒน์ หมายถึง ความลับของความสำเร็จ

ฟ้า เปรียบเสมือนความยิ่งใหญ่และความสำเร็จ

ซึ่งปัจจัยความสำเร็จของคุณศิริวัฒน์คือ ‘คน’ และ ‘เครือข่ายคนรอบข้าง’

บทเรียนนี้จึงตกผลึกจากความรู้และประสบการณ์ที่มีจากเบื้องหลังปรัชญาตะวันออกที่เขาสนใจ

ก่อนจะเริ่มค้นหาคำตอบของความลับในบทเรียนนี้ เราก็ต้องเข้าใจแก่นของโลกและธรรมชาติก่อน สิ่งสำคัญคือต้องรู้พื้นฐานประเภทของความรู้ก่อนด้วย ซึ่งความรู้ประกอบด้วย 3 อย่าง ได้แก่

1) ความรู้แท้ คือ ความรู้ที่เป็นจริงตลอดกาล

2) ความรู้เทียมหรือความรู้ที่มีประโยชน์แค่ช่วงเวลาหนึ่ง

3) ความรู้เท็จ คือ ความรู้ผิดๆ หรือเฟคนิวส์

เมื่อเราเข้าใจแก่นโลกแล้ว ต่อมาเราจึงค่อยเริ่มเข้าใจแก่นของปรัชญาชีวิต และแน่นอนว่าในคอร์สนี้คุณศิริวัฒน์พูดถึงปรัชญาจีนที่ยั่งยืนมากว่าพันปี ซึ่งแก่นนั้นก็คือ “มนุษย์ไม่ได้ยิ่งใหญ่ แต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของธรรมชาติ”

อย่างไรก็ดี เราอาจเคยได้ยินคัมภีร์หรือตำราปรัชญาจีนหลากหลายชื่อ ทว่าคัมภีร์ที่เป็นอันดับหนึ่งตลอดกาล คือ ‘เต้าเต๋อจิง’ ซึ่งเป็นปรัชญาในเรื่องโลกและชีวิต

เต้า – เต๋อ – จิง (Tao – the – jing) แปลว่า คัมภีร์แห่งมรรคและอำนาจ

‘เต้า’ หมายถึง วิถีทางแห่งธรรมชาติ ดังนั้นทุกวิธีคิดและการทำงานของคุณศิริวัฒน์ในการสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จยึดหลักเต้าเต๋อจิงเป็นปรัชญาเบื้องหลังมาโดยตลอด ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก เพราะกระแสของโลกธุรกิจในปัจจุบันเรามักจะได้ยินทฤษฎีและวิธีคิดแบบตะวันตกอยู่ตลอด

และขณะเดียวกันในด้านชีวิต ปรัชญาจีนก็ได้สรุปไว้ว่ามนุษย์มี 3 ช่วงที่เราควรรู้และเข้าใจ คือ

1) ช่วง 25 ปีแรก เริ่มต้นจากความว่างเปล่า และสำคัญที่สุดเพราะต้องเริ่มสร้างทุกอย่างขึ้นมาจากศูนย์ 

2) ช่วงที่สอง หรือช่วงอายุ 25-50 ปี เป็นช่วงชีวิตที่ต้องโฟกัส สร้างฐานะ และสะสม

3) ช่วงที่สาม (50 ปีเป็นต้นไป) คือ ช่วงที่ต้องกลับมาสู่ความว่างเปล่า

นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่สุดในบทเรียนที่คุณศิริวัฒน์ถ่ายทอดให้ฟัง ก็คือ ‘ธรรมชาติ’ เป็นสิ่งที่ทรงพลังที่สุดบนโลกใบนี้ และธรรมชาติไม่มีอะไรที่ดีหรือแย่ แต่ธรรมชาติมี ‘ความสมดุล’ เป็นตัวเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน

ดังที่คำคุ้นหูก็คือ ‘หยิน’ และ ‘หยาง’ ซึ่งตัวอย่างที่เล่าให้ฟังในคอร์สนี้คือ หลายคนอาจเคยได้ยินว่าวิธีที่แพทย์แผนจีนส่วนใหญ่ใช้ในการรักษาคนไข้ ก็คือ มักจะมีคำแนะนำก่อนการรักษาด้วยยาเสมอว่า ถ้าอยากสุขภาพดี ให้ทำตรงข้ามกับสิ่งปัจจุบัน เช่น หากอ้วนแต่อยากผอม ก็กินน้อยๆ หรือไม่ชอบออกกำลังกาย ก็ให้เริ่มลองออกกำลังกาย ทั้งหมดเพื่อปรับ ‘สมดุล’ ของร่างกาย หากปรับทุกอย่างให้สมดุลได้ ก็จะทำให้ร่างกายกลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง

แล้วในโลกการทำงาน ถ้าเราจะประสบความสำเร็จได้นั้น เกิดจากอะไร?

มีข้อเขียนเรื่องเคล็ดลับความสำเร็จมากมายในหน้าเว็บไซต์ต่างๆ ทั้งเทคนิคการจัดการเวลา เทคนิคการสื่อสาร หรือ การเสริมสร้างทักษะต่างๆ แต่ในบทเรียนนี้คุณศิริวัฒน์สรุปให้เราฟังว่าคนที่สำเร็จเกิดจากการมี ‘Network’ ที่ดี รวมถึงแรงผลักดันจากความลำบาก ดังนั้นเราจะเห็นว่า คนที่มีพื้นเพเหมือนกัน มีเกรดที่ดี เมื่อต้องออกไปทำงานเป็นเวลา 10 ปีเท่ากัน ก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จเท่ากัน

นั่นก็เพราะเมล็ดพันธุ์ที่ดีต้องการสิ่งแวดล้อม และสิ่งแวดล้อมมีผลต่อความสำเร็จของแต่ละคน 

สุดท้ายจึงกลับมาที่ประโยคจากบทเรียนที่ว่า “ความสำเร็จ 30% จึงเกิดจากตัวเรา และอีก 70% เกิดจากสิ่งแวดล้อม”

และการสร้างเครือข่ายที่ใช่และตรงกับเป้าหมายชีวิตเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะคนเรามักจะเลียนแบบ ‘คน’ หรือ ‘Network’ รอบข้างอย่างไม่รู้ตัว เหมือนกับคำกล่าวที่เราเคยได้ยินกันบ่อยๆ ที่ว่า “เราคือค่าเฉลี่ยของคน 5 คน ที่เราใช้เวลาด้วยมากที่สุด”

มาถึง 3 หัวข้อที่เป็นจุดขายของบทเรียนนี้ ถ้าใครที่อ่านมาถึงตรงนี้อยากให้หยิบปากกามาจด จำ และนำไปปรับใช้ในการทำงาน บริหารคนหรือองค์กร เป็นอย่างยิ่ง

ข้อแรก “ดูคนให้เป็น” หัวใจสำคัญของการดูคนคือ อย่าถาม แต่ดูให้เยอะ และฟังให้มาก นอกจากนี้คนส่วนใหญ่มักจะแสดงออกทางคำพูดหรืออาการ เราจึงต้องหมั่นฝึกสังเกต และสิ่งที่จะช่วยเพิ่มทักษะการดูคน ได้แก่ ใช้ตาดู หูฟัง และอาศัยประสบการณ์

ข้อสอง “ใจดำอำมหิต” คือ ต้องตัดคนออกให้เป็น คุณศิริวัฒน์เล่าไว้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการสร้าง Network คือต้องรู้จัก “ใจดำอำมหิต” ให้ตัดออกให้เป็นก่อนรับมาเพิ่ม ซึ่งบริษัทต้องมีทักษะการไล่คนออก เช่นเดียวกับการรับคน ขณะเดียวกันถ้าคนๆ นั้นเป็นคนที่ไม่ใช่สำหรับองค์กร ก็ต้องรีบตัดออกก่อนที่ Network ที่ดีจะโดนทำลายทั้งหมด

ข้อสาม “ดึงดูดคนให้ได้” โดยคำแนะนำสำหรับวิธีการดึงดูดคน มีดังนี้

1) ดูจังหวะ และเวลาที่เหมาะสม

2) ดูคนที่มีต้นทุน หรือ Core Value เดียวกัน

3) ต้องมีเสน่ห์ในการดึงดูด

ซึ่ง Core Value ที่สำคัญก็คือ การกตัญญูรู้คุณ และ ใจกว้าง ดังที่คุณศิริวัฒน์เน้นย้ำว่า “ไม่มีใครสามารถซื้อใจใครได้ด้วยการใจแคบ” นอกจากนี้สำหรับคนที่กำลังทำธุรกิจหรือมีหุ้นส่วน บทเรียนนี้ยังฝากข้อคิดไว้ด้วยว่าควรเลือกความสัมพันธ์ก่อนผลประโยชน์และเงินทองเสมอ

เราได้เห็นมุมมองการทำงานและวิธีคิดจากคุณศิริวัฒน์ที่เขาสั่งสมมากว่า 25 ปีในโลกธุรกิจ และการจะประสบความสำเร็จได้ ไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวเราเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เกิดจากคนรอบข้างคนอื่นๆ ด้วย

อย่างไรก็ตาม แก่นและบทเรียนจากคอร์สนี้ที่สำคัญมากๆ ก็คือ “กฎธรรมชาติเป็นสิ่งแน่นอน” และ “ความสำเร็จสามารถออกแบบได้”

แม้บทความนี้จะดูเหมือนสรุปบทเรียนทั้งหมดมาเป็นข้อเขียนที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ แต่แอบเชียร์ให้ทุกคนลองหาโอกาสเข้าไปฟังบทเรียนทั้งหมดจากปากของคุณศิริวัฒน์ด้วยตัวเอง เชื่อว่าจะต้องสนุกและได้ประโยชน์มากกว่านี้แน่นอน

สำหรับผู้ที่สนใจคอร์สเรียนดีๆ จากผู้สอนระดับ ‘ที่สุด’ ของประเทศ ยังมีอีกหลายบทเรียนที่ช่วยเปิดโลกความรู้ในแวดวงต่างๆ ทั้งธุรกิจ การสร้างสรรค์ ภาพยนตร์ กีฬา อาหาร และการลงทุน 

สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://www.cariber.co

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า