WINMED จับมือ NRF ดิสรัปตลาดอาหารเสริม ปิดช่องโหว่คนไทยสั่งยาต่างประเทศไม่ได้

WINMED กับ NRF ร่วมมือกันทำธุรกิจอาหารเสริม ประกาศนำเข้าแบรนด์ดังอย่าง Wellpath และ Prime Labs พร้อมเปิดตัวปลายปีนี้ ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ 1% พร้อมปิดช่องโหว่คนไทยสั่งอาหารเสริมผ่านอีคอมเมิร์ซต่างประเทศไม่ได้

บริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ WINMED ผู้นำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์รายใหญ่ของไทย ประกาศร่วมมือกับ บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ผู้นำด้านเทคโนโลยีทางอาหาร (Food Tech) เพื่อขยายธุรกิจไปยังตลาดอาหารเสริม

โดยเฟสแรกจะนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ขายดีระดับโลกติด Amazon Best Seller เช่น แบรนด์ Wellpath และ Prime Labs คาดว่าจะเปิดทดลอง (Soft Lanuch) ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2565

ส่วนเฟสถัดไปมีแผนจะนำเข้าวัตถุดิบบางส่วนเพื่อผลิตอาหารเสริมภายในประเทศ และในอนาคตอาจต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเอง

สำหรับเป้าหมายของ WINMED และ NRF คาดว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของบริษัทจะสามารถครองส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) Food Supplements ในประเทศได้ราว 0.5-0.8% หรือราว 150-240 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดปัจจุบันอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท

แต่ระยะยาวเชื่อว่าส่วนแบ่งตลาดจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1% หรือราว 300 ล้านบาทได้ไม่ยาก เพราะบริษัทเน้นอาหารเสริมที่มีกลุ่มลูกค้าเฉพาะ ซึ่งเดิมลูกค้ากลุ่มนี้อาจซื้อผ่านร้านค้าเล็กๆ ที่ไม่ได้นำเข้าและขอ อย.อย่างถูกต้อง

และแม้ว่าจะเป็น Amazon Best Seller แต่ก็ติดข้อจำกัดด้านกฎหมาย ทำให้ลูกค้าไม่สามารถสั่งซื้อได้จากหน้าเว็บไซต์ Amazon ได้โดยตรง

ส่วนหลังจากที่นำเข้ามาในไทยแล้ว จะนำสินค้าขายผ่านช่องทางของ WINMED ก่อน ไม่ว่าจะเป็นช่องทางค้าส่ง ได้แก่ โรงพยาบาลรัฐและเอกชน วิทยาลัยแพทย์ คลินิก และร้านขายยา

รวมถึงช่องทางค้าปลีก ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อ ไฮเปอร์มาร์เก็ต และช่องทางออนไลน์อย่าง เว็ปไซต์ของ Facebook และ Line@ ของบริษัท รวมถึงอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม เช่น Shopee กับ Lazada

และในเดือน ส.ค.นี้ WINMED เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของตัวเองภายใต้ชื่อ ‘A New Day’ ซึ่งนอกจะขายสินค้าของบริษัทแล้ว ยังมีคำแนะนำในการใช้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ต่างๆ อีกด้วย

สำหรับนักลงทุน NRF เผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปี 2565 และปี 2565 ไม่ต่ำกว่า 50% จากปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมที่ 2,183.15 ล้านบาท

ส่วน WINMED คาดว่ารายได้ปี 2565 จะเติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 558.71 ล้านบาท โดยไตรมาส 2 ที่ผ่านมา พบว่ารายได้ยังคงเติบโตแม้เป็นช่วงโลว์ซีซั่น เพราะยังได้ปัจจัยหนุนจากโควิด-19 ทำให้รายได้ชุดตรวจ ATK และการตรวจ RT-PCR ค่อนข้างเติบโต

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 รายได้รวมจะยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเห็นแนวโน้มรายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ เริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังโควิด-19 คลี่คลาย