ผู้หญิงขอขึ้นเงินเดือนได้ยากกว่าผู้ชาย ? 6 คำแนะนำเจรจาต่อรองเงินเดือนให้ดีที่สุด

มีข้อสงสัยว่าทำไมพนักงานหญิงถึงไปเจรจาหัวหน้า-เจ้านาย ขอขึ้นเงินเดือนได้ยากกว่าพนักงานผู้ชาย ?

เรื่องนี้จริงหรือไม่ มีผลสำรวจพนักงานหญิงในต่างประเทศ รวมทั้งประเทศในเอเชีย คือญี่ปุ่น สิงคโปร์ และอินเดีย ส่วนประเทศไทยไม่ได้ถูกระบุอยู่ในผลสำรวจนี้

CNBC รายงานว่า มีสถิติรวบรวมไว้ว่าผู้หญิงมากกว่าครึ่งหนึ่งทั่วโลก ไม่เคยขอขึ้นเงินเดือนมาก่อน จากการศึกษาโดย Indeed แพลทฟอร์มจัดหางานทำการสอบถามเรื่องนี้ ปรากฎว่า 61% ของผู้หญิงทั่วโลกมีความเชื่อว่า ‘ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อให้ได้รับการยอมรับมากกว่าผู้ชาย’ นี่เป็นผลสำรวจผู้หญิงมากกว่า 14,500 คน ใน 11 ประเทศ

เรามาดูตารางที่สะท้อนให้เห็นจำนวนเปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงที่ขอเพิ่มเงินเดือนในแต่ละประเทศที่ทำแบบสำรวจกัน

จะเห็นว่าในเอเชีย ผู้หญิงในอินเดียมีความมั่นใจมากที่สุด โดย 65% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าพวกเธอเคยขอขึ้นเงินเดือนจากเจ้านายมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจเผยให้เห็นว่าผู้หญิงในญี่ปุ่นและสิงคโปร์มีความมั่นใจน้อยที่สุดเมื่อต้องขอขึ้นเงินเดือน ผู้หญิงในญี่ปุ่นมีเพียง 13% และสิงคโปร์ 32% ที่เคยขอขึ้นเงินเดือน

ผู้หญิงทั่วโลกที่ตอบแบบสำรวจ 24% กล่าวว่า ขาดโอกาสที่จะถามขอขึ้นเงินเดือน ในขณะที่ 28% กล่าวว่า กลัวผลที่ตามมาด้านลบ

นอกจากนี้ ผู้หญิง 28% กล่าวว่าพวกเขาไม่มีความมั่นใจที่จะหยิบยกบทสนทนาเรื่องขอขึ้นเงินเดือนขึ้นมาพูดคุยกับหัวหน้า เจ้านาย

‘ไอลีน ตัน’ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของเอไอเอ สิงคโปร์ กล่าวว่า โดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงพบว่ามันเป็นเรื่องท้าทายมากกว่าในการสนับสนุนตนเองให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งหรือขึ้นเงินเดือน ซึ่งการมีแรงผลักดัน และความทะเยอทะยานเป็นสิ่งสำคัญหากคุณต้องการสร้างความสำเร็จในอาชีพการงาน

และนี่เป็นเคล็ดลับ 6 ข้อ ในการเจรจาต่อรองเงินเดือนให้ดีที่สุด ตามที่ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคลแนะนำไว้

1.ค้นคว้าก่อน

ก่อนที่จะเริ่มการสนทนาเรื่องขอขึ้นเงินเดือน สำคัญสุดอย่างแรกต้องค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเกณฑ์มาตรฐานเงินเดือนในบทบาทหน้าที่ของตัวเองก่อน โดยเข้าไปหาข้อมูลได้ทางออนไลน์ รวมทั้งหารือกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ดีที่สุดก่อน เพื่อจะได้กรอบความคิดที่ชัดเจนว่าค่าตอบแทนของตัวเองควรจะเป็นเท่าไหร่ก่อนจะไปเริ่มเจรจา

2.มีความมั่นใจ

แม้ว่าการไปเจรจาเรื่องเงินเดือนอาจเป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่ท้ายที่สุดแล้วการเตรียมตัวมาอย่างดีจะช่วยให้พบความมั่นใจในระหว่างการเจรจา โดยอาจฝึกฝนกับเพื่อนสนิทหรือเพื่อนที่เป็นที่ปรึกษาก่อนเพื่อสร้างความมั่นใจ

สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าหัวหน้า เจ้านาย และบริษัทใส่ใจอะไร และคำนึงถึงสิ่งนั้นตลอดการเจรจา ท้ายที่สุดแล้วประเด็นของการเจรจาขอปรับเงินเดือน คือการบรรลุผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน

3.เตรียมการนำเสนอ

ก่อนเริ่มเจรจาต้องเตรียมพร้อมก่อน สิ่งสำคัญคือต้องมีการระบุถึงความสำเร็จที่คุณได้ทำไว้อย่างเฉพาะเจาะจง ชัดเจน และเตรียมรับมือกับข้อโต้แย้งจากหัวหน้าและเจ้านายไว้ด้วย

4.กำหนดวันเวลาให้แน่นอน

ต้องมีการกำหนดวันเวลาที่แน่นอนไว้ล่วงหน้าให้ชัดเจนว่าคุณต้องการไปพูดคุยหารือเกี่ยวกับเงินเดือน ค่าตอบแทน และความก้าวหน้าทางอาชีพ อย่าให้มีลักษณะพูดขึ้นมาโดยไม่คาดคิดหรือไม่ได้ตั้งใจ รวมทั้งต้องมองหาจังหวะเวลาที่เหมาะสมด้วยไม่ควรไปพูดในจังหวะที่ทีมมีงานยุ่งหรือกำลังต้องเร่งทำงานกันอย่างเต็มที่

5.แสดงคุณค่าของคุณ

การเจรจาต่อรองเงินเดือนให้พิจารณาว่า Show, don’t tell คือต้องยกตัวอย่างว่าคุณเคยช่วยแก้ปัญหาและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อการทำงานที่ผ่านมาอย่างไร ไม่ว่าจะงานหรือผลลัพธ์ต่างๆ ที่คุณขับเคลื่อน การระบุจำนวนตัวอย่างด้วยตัวเลขก็สามารถช่วยได้ในระหว่างการเจรจา นอกจากนี้ควรจะเชื่อมโยงกับวัตถุประสงค์ของบริษัทและทีมของคุณ

6.เป็นมืออาชีพ

จงมีความกระตือรือร้น แต่อย่าใช้อารมณ์ แม้การพูดคุยเรื่องนี้อาจทำให้อารมณ์เสียได้ แต่จำเป็นต้องรักษาความเป็นมืออาชีพไว้ตลอดการสนทนา และตระหนักถึงการเปิดรับข้อเสนอแนะจากหัวหน้า เจ้านายไว้ด้วย

และต้องหลีกเลี่ยงคำพูด เช่น ‘ฉันสมควรได้รับมัน’ หรือ ‘สิ่งนี้ไม่ยุติธรรม’ เป็นต้น