SHARE

คัดลอกแล้ว

งานหนักไม่เคยฆ่าใคร งานหนักไม่เคยทำให้คนตาย จริงหรือ รวมเคสเหตุการณ์คนเสียชีวิต-ป่วย เพราะทำงานหนัก จนร่างกายรับไม่ไหว

  • นักจัดผังรายการ ทำงานไม่ได้พักเสียชีวิตคาโต๊ะทำงาน ล่าสุดบริษัทชี้แจงแล้วระบุข้อมูลหลายประเด็นไม่ตรงกับความเป็นจริง  ด้านเพจจอดับ ลบโพสต์ต้นทางแล้ว

5 ก.พ. 2566 เพจจอดับ โพสต์เรื่อง นักจัดผังรายการ วัย 40 กว่า ทำงานหนักมาอย่างต่อเนื่องฟุบเสียชีวิตคาโต๊ะทำงาน ในโพสต์ระบุว่า ผู้เสียชีวิต มีหน้าที่ทำผังรายการคนเดียวควบถึง 2 ช่อง ไม่เคยมีการหาคนมาช่วยกันแบ่งเบา

ซึ่งการทำผังรายการมีรายละเอียดทั้งตัวรายการ ทั้งโฆษณา ที่ต้องคอยปรับแก้ตลอดเวลา โดยเขาทำงานคนเดียว ทำให้ต้องทำงานเกินเวลา และแต่ละสัปดาห์ก็ทำงานเกิน 5 วัน บางสัปดาห์ซัดไป 7 วันรวด พอนานไปร่างกายก็เริ่มแย่ มีอาการป่วย พอลาหยุด ลาป่วยไปได้แค่วันสองวัน ก็โดนโทรตามให้รีบกลับมาทำผังรายการ สุดท้าย เขาก็ตายในหน้าที่ บนโต๊ะทำงาน

เขาฟุบลงกับโต๊ะอย่างเงียบๆ คว่ำหน้าลงกับงานที่เขาแบกรับจนเกินกำลัง มันอ่อนล้าเกินกว่าที่ร่างกายมนุษย์คนหนึ่งจะทนต่อไปได้ คนผ่านมาเห็นก็นึกว่าเขาแค่ฟุบหลับ จึงไม่ได้ปลุก ปล่อยอยู่เช่นนั้น จนข้ามคืน แม่บ้านมาเจอเขาในตอนเช้า จึงได้รู้ว่าร่างนั้นไม่มีลมหายใจแล้ว 

ต่อมาบริษัทต้นสังกัด ออกมาชี้แจงว่า ตามที่ เพจจอดับ ได้เสนอข้อมูลดังกล่าว มีข้อมูลหลายประเด็นที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิด จึงขอชี้แจงดังนี้ 

-“โดนสั่งให้ทำผังรายการคนเดียวควบถึง 2 ช่อง ไม่เคยมีการหาคนมาช่วยกันแบ่งเบา” และ “คนๆเดียว ให้เหมาทำทั้ง 2 ช่อง” ข้อเท็จจริง คือ เฉพาะการทำผังรายการของสถานีไม่ได้มีพนักงานแค่คนเดียว มีการทำงานร่วมกันกับทีมทั้ง 2 ช่อง รวม 5 คน ซึ่งสามารถทำงานทดแทนหมุนเวียนกันได้ ในกรณีพนักงานลาหยุดหรือไม่สามารถปฏิบัติงานได้

-“พอลาหยุด ลาป่วย ไปได้แค่วันสองวัน ก็โดนโทรจิกตามให้รีบกลับมาทำผังรายการ นี่มันสถานีโทรทัศน์หรือโรงงานนรกกันแน่” ข้อเท็จจริง คือ ไม่มีการห้ามลาแต่อย่างใด และมีนโยบายให้พนักงานสามารถ Work from Home ได้ อีกทั้งในวันดังกล่าว พนักงานไม่ได้แจ้งหัวหน้าเรื่องอาการป่วยหรือขอลาพัก เป็นการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และจากการตรวจสอบ หัวหน้างานไม่มีการโทรขอให้เข้ามาทำงานเป็นกรณีพิเศษ 

ขณะที่ทางเพจจอดับ ได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกไปแล้วเช่นกัน

  • หนุ่มควบกะโอที ทำงานไม่พักเสียชีวิตคาห้อง

18 มี.ค. 2564 นายปัญญา มันกลาง อายุ 30 ปี อาชีพเป็นพนักงานโรงงานของบริษัทแห่งหนึ่ง นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอน โดยแขนทับโทรศัพท์มือถือที่ชาร์จแบตเตอรี่คาอยู่ โดยไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และบาดแผลตามร่างกาย คาดเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง 

นางยุพิน เพ็ชรดิษฐ เจ้าของหอพักเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาประมาณ 2 ทุ่ม เห็นนายปัญญาเลิกทำโอทีจากที่ทำงานก็เดินเข้าห้อง จนกระทั่งวันนี้ช่วงบ่ายสามโมงครึ่ง มีเพื่อนที่ทำงานโทรมาให้ช่วยไปดูนายปัญญาให้หน่อย รู้สึกเป็นห่วงมากที่นายปัญญาไม่มาทำงาน เพราะปกตินายปัญญาจะไม่เคยขาดงาน จึงเดินไปเคาะห้อง แต่นายปัญญาก็ไม่ตอบจึงขี่รถจักรยานยนต์ไปตามญาติให้มาช่วยกันเรียกก็ไม่มีเสียงตอบอีก จึงแจ้งกู้ภัยให้มาช่วยกันงัดห้อง พอเข้าไปก็พบว่านายปัญญานอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนแล้ว 

ซึ่งโดยปกตินายปัญญาจะเป็นคนนิ่งๆ ไม่พูด กินเหล้าสูบบุหรี่บ้าง ไม่มีครอบครัว ส่วนตัวสันนิษฐานว่านายปัญญาเป็นคนขยันทำงาน ทำงานตลอดไม่เคยหยุดงานเลย ทำงานตามปกติเสร็จก็ทำโอทีต่อ บางครั้งควบงานสองกะติดต่อกันจนไม่ได้พักผ่อนก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ 

ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตเผยว่า คาดว่านายปัญญาน่าจะเสียชีวิตเพราะพักผ่อนน้อย จนอาจทำให้หัวใจวายเฉียบพลันก็เป็นไปได้

  • พยาบาลวูบเสียชีวิต ทำงานหนักช่วงโควิด-19 ระบาด 

5 เม.ย. 2563 น.ส.มนิสรา ใจบุญ พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จ.เชียงราย ที่เกิดอาการวูบเพราะทำงานหนัก เพื่อรักษาคนไข้จนไม่มีเวลาพัก ในช่วงโควิด-19 ระบาด ก่อนเสียชีวิต ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่

โดยมีอาการวูบ หมดสติ มีเกล็ดเลือดต่ำ ความดันปอดสูง ลิ้นหัวใจรั่ว ไตทำงานหนัก และติดเชื้อในกระแสเลือด แม้ว่าทาง รพ. ได้ขอรับบริจาคเลือดเพื่อช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน ทั้งทีมแพทย์ที่ได้ทำการช่วยเหลือชีวิตอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ 

  • สาวโหมงานหนัก พักผ่อนน้อย สลบไป 3 วัน 

เคสสุดท้ายเป็นเคสผู้หญิงคนหนึ่งโหมงานหนัก สุดท้ายน็อกนอนสลบ 3 วัน หายใจไม่ออก มือสั่น ใช้เครื่องช่วยหายใจ ร่างกายเพลีย ไม่ตอบสนอง สาเหตุมาจากโหมงานหนักพักผ่อนน้อย กินอาหารไม่ตรงเวลา ไม่ดูแลสุขภาพ โพสต์เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ ให้ทุกคนรักษาสุขภาพ อย่าโหมงานหนัก นอนน้อย เพราะไม่รู้เลยว่าวันไหนร่างกายจะทรุด

วันที่ 10 ส.ค. 65 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์อุทาหรณ์ หลังตัวเธอโหมงานหนัก พักผ่อนน้อย นอนไม่พอ กินอาหารไม่ตรงเวลา และไม่ดูแลสุขภาพ สุดท้ายร่างกายไม่ไหว น็อกจนต้องหามส่งโรงพยาบาล นอนสลบไป 3 วัน

โดยระบุเนื้อหาว่า “บันทึกไว้เตือนสติตัวเอง 3 สิงหา 65 เข้าโรงพยาบาล สลบไปเป็นเวลา 3 วัน ทุกคนในครอบครัวเป็นห่วง บินมาจากเชียงใหม่ แม่ร้องไห้ 05.00 น. ใจสั่น สลบอยู่ที่ผับ ดีมี รปภ. เห็น เกือบตาย อ้วก หัวแตกเย็บไป 9 เข็ม มือเกร็ง สั่น ชัก เลือดอาบเต็มเสื้อ 06.00 น. หายใจไม่ออก มือสั่น ใช้เครื่องช่วยหายใจ ร่างกายเพลีย ไม่ตอบสนอง

พอเช้าวันที่ 8 ลืมตาตื่นขึ้นมา เข้าห้องเอกซเรย์ปอดไป 3 รอบ สำลักควันบุหรี่ที่ผับ เนื้อตัวมีแต่รอยเจาะน้ำเกลือเต็มไปหมด เจ็บไปหมดทั้งร่างกาย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ไอเจ็บหน้าอก อยู่โรงพยาบาลจนถึงตอนเย็น ขอย้ายออกโรงพยาบาลมาพักรักษาตัวที่คอนโดฯ ยังมีอาการหมดแรง ยังไปพบหมอตลอดเพื่อตรวจตามหมอนัด 

รอเวลาตัดไหม วันที่ 11 (เสียค่ารักษาไปแสนเจ็ด) ขนาดมีประกันชีวิตยังเสียเพิ่ม นี่ยังคิดถ้าไม่มีเงินจะทำอย่างไร สุดท้ายนี้คือทำงานหนักเพื่อมารักษาตัวเองจริงๆ

ทั้งหมดนี้เกิดจาก นอนไม่พอ โหมงานหนัก ทานอาหารไม่เป็นเวลา แทบไม่กิน ไม่รักษาสุขภาพ ดื่ม ไม่ออกกำลังกาย ซึ่งร่างกายมันเตือนมานานแล้วว่าต้องพักผ่อน อย่าโหมงานหนัก

สุดท้ายนี้อยากเตือนให้ทุกคนรักษาสุขภาพ อย่าโหมงานหนัก นอนน้อยเพราะไม่รู้เลยว่า วันไหนร่างกายจะทรุดลงแบบนี้ ถ้ามาส่งโรงพยาบาลไม่ทัน ไม่อยากคิดเลยว่าจะได้มานั่งแชร์เรื่องราวครั้งนี้ไหม จะดูแลตัวเองให้กลับมาปกติให้เร็วที่สุด เพราะอยากอยู่กับครอบครัวและคนที่รักไปนานๆ”

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า