SHARE

คัดลอกแล้ว

สำนักข่าว VOA รายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์แห่งธนาคารโลก หรือ World Bank ระบุว่า ในท้ายที่สุดแล้ว มหาเศรษฐีของไทยอาจต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้น เพื่อให้รัฐบาลมีเงินไปชำระหนี้สินจำนวน 4.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ที่กู้ยืมมาในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะที่ไทยกำลังประสบปัญหาอย่างหนักในเรื่องของการจัดหาวัคซีนให้ประชาชนเพื่อลดการระบาดของโรค

ทั้งนี้ ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเท่าเทียมกันน้อยที่สุดในเอเชีย โดยเป็นประเทศที่มีมหาเศรษฐีถึง 52 คน (จากการจัดอันดับของ Hurun Rich List) ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งยังมากกว่าจำนวนมหาเศรษฐีในอิตาลี, ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ด้วยซ้ำ

ไม่เพียงเท่านั้น แต่มหาเศรษฐีไทยหลายคนยังร่ำรวยขึ้นในช่วงที่โควิดระบาดด้วยซ้ำ เช่น เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในไทยจากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes ในปี 2564 ก็มีทรัพย์สินสุทธิสูงถึง 1.81 หมื่นล้านเหรียญ

ในทางกลับกัน คนไทยหลายล้านคนกลับอยู่ในสภาวะตกงาน หนี้ครัวเรือนพุ่งสูงขึ้นเป็น 90% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP แล้ว

ทว่าประเทศไทยยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำ อย่างเช่นภาษีนิติบุคคลก็เก็บเพียง 20% เท่านั้น ขณะที่เพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียเก็บ 24% ฟิลิปปินส์เก็บมากถึง 30% และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเพียงสิงคโปร์และบรูไนที่เก็บในอัตราที่ต่ำกว่าไทย นอกจากนี้ไทยยังไม่เก็บภาษีจากกำไรที่ได้จากการขายสินทรัพย์อีกด้วย

ด้วยหนี้จำนวนมหาศาลของรัฐบาล และความเสี่ยงที่จะเจอกับโควิดสายพันธุ์ใหม่ๆ รวมถึงการบริหารจัดการวัคซีนที่ติดขัด ทำให้ธนาคารโลกเตือนว่ารัฐบาลไทยอาจต้องกลับไปหาธนาคารและสถาบันการเงิน เพื่อกู้เงินสดเพิ่มเพื่อป้อนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

คิม เอ็ดเวิร์ดส์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสแห่งธนาคารโลก กล่าวว่า ในการที่จะหยุดกู้หนี้ยืมสินเพิ่ม รัฐบาลอาจต้องหันไปหา ‘กลุ่มบุคคลที่มีรายได้สูง’ เพื่อฟื้นฟูและเยียวยาเศรษฐกิจ

“การเก็บภาษีบุคคลธรรมดาอาจพยุงเศรษฐกิจได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นการเพิ่มอัตราภาษีในคนที่มีความมั่งคั่งสูงที่สุด รวมถึงเพิ่มอัตราภาษีที่ดินและภาษีจากกำไรการขายทรัพย์สิน อาจเป็นวิธีที่ช่วยบรรเทาปัญหางบประมาณขาดดุลของรัฐบาลได้”

ทั้งนี้ ในบทวิเคราะห์เรื่อง ‘Thailand Economic Monitor – the Road to Recovery’ ของธนาคารโลก ระบุว่า หากรัฐบาลสามารถแก้ไขสถานการณ์โควิดได้ เศรษฐกิจของประเทศไทยอาจเติบโตได้ 2.2% ในปีนี้ แต่หากโควิดยังระบาดต่อเนื่อง เศรษฐกิจไทยปีนี้ก็อาจเติบโตเพียงแค่ 1.2% เท่านั้น

ที่มา : https://www.voanews.com/east-asia-pacific/tax-hike-rich-may-be-needed-pay-thailands-pandemic-debt-world-bank-says?fbclid=IwAR1qSSj-bSYK2FCU80FWdVtUEKCuqZfiIpu9hqjXfSDqA11PoS9mRT7P820

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า