Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

จับความเคลื่อนไหว ปมวาระการดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี 8 ปี เกิดกรณี “เอกสารหลุด” ว่อนโซเชียลมีเดียซึ่งอ้างเป็นความเห็นของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 60 และล่าสุดก็มีเอกสารหลุดที่อ้างว่าเป็นคำชี้แจงของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เผยแพร่ออกมาอีก จนทำให้แวดวงการเมืองมีแรงกระเพื่อม จับจ้องมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

workpointTODAY LIVE ได้ชวน ผศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา มาวิเคราะห์ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น โดย อ.โอฬาร ให้ความเห็นเรื่องเอกสารหลุดว่า ถ้ามองแบบเด็กๆ ป.4 ถือว่ากระบวนการทางเอกสารของศาลรัฐธรรมนูญไร้ประสิทธิภาพ ทำให้เอกสารเหล่านี้หลุดได้

“แต่ถ้ามองอย่างมีชั้นเชิงการเมือง ไม่มีความบังเอิญในทางการเมือง ทุกอย่างล้วนแต่เจตนาเพื่อจะโยนสิ่งนี้ให้สังคมกดดันและตั้งคำถามต่อแนวทางการพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ โยนมาเพื่อจะให้เห็นว่า ไม่ว่าจะไปในทิศทางใด สังคมกำลังจับตามองอยู่นะว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่มีสถานะทางสังคม กำลังเล่นแร่แปรธาตุอะไรกัน มีคนเจตนาปล่อยเพื่อให้สังคมเห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น

อ.โอฬาร ยังตั้งข้อสังเกตว่า เอกสารหลุดทุกชิ้น โดยเฉพาะเอกสารที่อ้างว่าเป็นความเห็นของ นายมีชัย “ช่างสอดคล้อง” กับสิ่งที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย พูดว่า มติที่ประชุมนั้นไม่มีผล อีกทั้ง “ช่างบังเอิญสอดคล้อง” กับคำแก้ต่างของพล.อ.ประยุทธ์ ตนย้ำว่า “ไม่มีอะไรบังเอิญในทางการเมือง” ทำไมมันสอดคล้องกันอย่างนี้  มองว่าคนที่ตั้งใจเจตนาปล่อยต้องการให้สังคมดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเอาอย่างไร ในเมื่อทั้งหมดให้การไปในทิศทางเดียวกัน แต่การที่ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งเรียกบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 501

“ทำให้เห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญเริ่มเอะใจอะไรบางอย่าง เพราะก่อนหน้านี้ อ.มีชัย บอกว่า มีแค่ 500 ปรากฏว่า มีการประชุมครั้งที่ 501 ที่รับรองมติการประชุมเมื่อครั้งที่ 500 สมมุติว่าหลักฐานที่หลุดมาเป็นของจริง มันทำให้เราเห็นว่าในกรณีการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ มันเกิดสิ่งที่เรียกว่า “เจตนารมณ์ต่างกัน” คนๆ เดียวกัน “เวลาเปลี่ยนเจตนารมณ์เปลี่ยน” สิ่งที่ อ.มีชัย ประชุมเอาไว้เมื่อตอนปี 57 เจตนารมณ์เพื่อที่จะไม่ให้เกิดการสืบทอดอำนาจที่ต่อเนื่องยาวนาน แต่วันนี้ไม่เกี่ยวแต่ปรากฏว่าหลักฐานในรายมาตราก็ดี หรือเจตนารมณ์ทางกฎหมายก็ดีมันเกี่ยวเนื่อง นี่แหละครับเวลาเปลี่ยนเจตนารมณ์เปลี่ยน อันนี้เลยทำให้ศาลรัฐธรรมนูญต้องหาเจตนารมณ์ที่แท้จริงว่าอันไหนของจริง อันไหนของที่เมคสร้างขึ้นมาใหม่”

อ.โอฬาร ยังให้ความเห็นว่า ส่วนตัวคิดว่าต้องไปดูเจตนารมณ์แรก เพราะเราไม่รู้อนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่อำนาจเปลี่ยน เจตนารมณ์เปลี่ยน ต้องไปดูที่เจตนารมณ์แรก เราไม่รู้ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะมาถึงขนาดนี้ แต่อีกด้านหนึ่งมองในทางการเมือง เราเห็นว่าแนวทาง 3-4 แนวทางของ 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องแล้วแต่ศาลว่าจะตัดสินในทางไหน แต่การที่ปล่อยเอกสารหลุดเป็นการ “โยนหิน” อะไรบางอย่างทางการเมืองเพื่อที่จะส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ เพราะถ้าออกไปทางที่เริ่มนับตั้งแต่ปี 60 ถามว่าคนรับได้หรือไม่ “รับไม่ได้ แต่มันมีชุดคำอธิบายทางการเมืองระดับหนึ่ง ก็คือ 1. หาทางลงให้ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าท่านอยู่ได้ 2 ปี หลังจากนี้ ซึ่งถ้าอยู่ได้ 2 ปีจากนี้ พรรคใดจะเสนอชื่อท่านก็คิดหนักแล้ว เพราะถ้าเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ไป ท่านได้เป็นต่อ มี ส.ว. ยกมือให้ก็จริง แต่ไปได้เพียงแค่ 2 ปี เพราะต้องหมด ปี 68 ซึ่งมองว่า พรรคพลังประชารัฐก็จะไม่กล้าเสนอชื่อท่านแล้วเพราะรู้ว่า ท่านได้ไปไปได้แค่ 2 ปี มันก็เป็นการเปิดทางให้ นายกรัฐมนตรีตัวจริง ที่นั่ง “รักษาการ” แทนอยู่ได้สามารถดำรงตำแหน่งได้อย่างเปิดเผยสักทีหนึ่ง”

“จุดชี้ขาด-เปลี่ยนภูมิทัศน์การเมือง”

อ.โอฬาร แสดงความเห็นด้วยว่า ตัวชี้ขาดในการเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการเมืองหรือไม่นั้น คิดว่าต้องดูผลคำพิพาษาของศาลรัฐธรรมนูญ ตอนนี้คิดว่ามีการขยับ การดูภูมิทัศน์ต้องดูตั้งแต่ “การวางภูมิทัศน์ก่อนจะเห็นดอกเห็นผล” เราเริ่มเห็นการขยับของกลุ่มพลังอำนาจทางการเมือง เช่น 1. พรรคภูมิใจไทยที่เริ่มเปิดตัวหาเสียง พยายามที่จะบอกว่าตัวเองมีจุดเด่นอะไร เริ่มเว้นระยะห่างมากขึ้น  2. เริ่มเห็นกองเชียร์ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่มีลักษณะเชียร์อย่างชัดเจนที่ต้องการให้พล.อ.ประวิตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เราเห็นเพจของพล.อ.ประวิตร ขยับอย่างมีนัยสำคัญ 3. สัญญาณจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เริ่มมีสัญญาณกลับพรรคพลังประชารัฐ นี่คือภูมิทัศน์เริ่มกลับมา

ทั้งนี้เชื่อว่า กลุ่มชนชั้นนำทางการเมืองหวังไว้กับพล.อ.ประวิตร ที่จะทำให้เกิดการต่อรองอะไรบางอย่างกัน แม้จะไม่ผ่านพล.อ.ประวิตร แต่อาจผ่านคนใกล้ชิด โดยเฉพาะการวิพากษ์วิจารณ์จากพรรคฝ่ายค้าน ตนคิดว่า วิจารณ์พล.อ.ประวิตร วิจารณ์อย่างทะนุถนอมอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับการถล่มพล.อ.ประยุทธ์ เหมือนกับว่า ในสมการภูมิทัศน์ทางการเมืองที่จะเกิดขึ้น  หลังคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ หลายๆ กลุ่มชนชั้นนำทางการเมืองไม่ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในสมการ

คลิปสัมภาษณ์เต็ม (อ.โอฬาร ตั้งแต่นาทีที่ 48.20)

workpointTODAY ร่วมกับมูลนิธิฟรีดริช เนามัน ชวนร่วมกิจกรรม Thailand Talks เพื่อพูดคุยกับคนเห็นต่างในหลากหลายประเด็น ตอบคำถามด้านล่างเพื่อลงทะเบียน

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า