SHARE

คัดลอกแล้ว

กฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร

ค้มเข้มสินค้าเลี่ยงภาษี! กรมศุลกากรสั่งซื้อเครื่องตรวจเอ็กซเรย์เพิ่มตรวจสินค้าอีคอมเมิร์ซป้องกันการหลบเลี่ยงภาษี หลังพบคนไทยสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศจำนวนมาก

วันที่ 21 พ.ค. 2562 วานนี้นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ประชุมกำหนดแนวทางการพัฒนาระบบ customs to home ที่จะใช้ในกระบวนงานศุลกากรไปรษณีย์ระหว่างประเทศร่วมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด โดยจะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บ และป้องกันการหลบเลี่ยงภาษีการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ (อีคอมเมิร์ซ) และจัดส่งมาทางไปรษณีย์จากต่างประเทศ ตลอดจนการอำนวยความสะดวกในการชำระภาษีให้กับผู้สั่งสินค้าอีคอมเมิร์ซให้สะดวกยิ่งขึ้น โดยกรมฯ จะสั่งซื้อเครื่องตรวจเอกซเรย์สินค้าอีคอมเมิร์ซ เพื่อไปติดตั้งที่ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่เพิ่มเติม เพื่อให้รองรับการตรวจสินค้าอีคอมเมิร์ซ์ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น

ปัจจุบันเครื่องเอกซเรย์มีไม่เพียงพอทำให้ตรวจของที่ส่งมาทางไปรษณีย์จากต่างประเทศ จึงทำได้เพียงร้อยละ 40 แต่อนาคตเมื่อกรมฯ ซื้อเครื่องเอกซเรย์มาติดตั้งเสร็จจะทำให้ตรวจสินค้าอีคอมเมิร์ซที่ส่งมาเป็นพัสดุตามกล่องได้ 100% รวมถึงยังสามารถตรวจสอบกล่องพัสดุที่ผิดกฎหมาย ยาเสพติด หรือสินค้าต้องห้ามว่าด้วยอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) ได้ด้วย

อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ทุกวันนี้คนไทยนิยมสั่งซื้อสินค้าอีคอมเมิร์ซจากต่างประเทศเข้ามามาก วันหนึ่งเพิ่มขึ้นมาเป็นแสนชิ้น และพบว่ามีความพยายามหลบเลี่ยงภาษีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยแจ้งสำแดงราคาหน้ากล่องไม่ถึง 1.5 พันบาทเพื่อเลี่ยงเสียภาษี เพราะตามกฎหมายมีการยกเว้นเก็บภาษีขาเข้า และภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่เมื่อตรวจแล้วพบว่าสินค้าที่ส่งมาส่วนใหญ่มีราคาเกินด้วยกันทั้งนั้น บางครั้งพบสินค้าแบรนด์เนม เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้า รองเท้าซึ่งมีราคาสูงกว่าหลายเท่า

ทั้งนี้ เมื่อกรมศุลฯ ซื้อเครื่องเอกซเรย์มาติดตั้งเพิ่มมั่นใจว่า จะช่วยแก้ปัญหาการหลบเลี่ยงเพราะเครื่องนี้จะสามารถสแกนเห็นรายละเอียดสินค้าที่อยู่ในกล่องพัสดุ ทำให้รู้ทันทีว่าสินค้าเป็นไปตามที่แจ้งสำแดงไว้หรือไม่ และหากพบผิดสังเกตก็จะมีการแจ้งให้มาตรวจค้นเพื่อให้เสียภาษีอย่างถูกต้อง ซึ่งคาดว่าจะสามารถติดตั้งและสแกนพัสดุอีคอมเมิร์ซได้ครบทั้ง 100% ภายใน 3 เดือนข้างหน้า

นอกจากนี้ กรมศุลฯ ยังได้หารือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อจัดทำระบบให้สามารถชำระภาษีสินค้าอีคอมเมิร์ซได้ล่วงหน้า โดยต่อไปหากใครสั่งซื้อสินค้าเข้ามาและรู้ว่าจะต้องเสียภาษีเท่าไรก็สามารถมาติดต่อชำระภาษีล่วงหน้าได้เลย จากนั้นเมื่อสินค้าถูกจัดส่งมาถึงก็จะถูกจัดก ลุ่มให้มีความเสี่ยงต่ำ และจะส่งต่อไปถึงมือผู้รับทันที โดยวิธีนี้เพียงนำใบชำระเงินมาแจ้งกรมศุลฯ เพื่อคิดคำนวนการเสียภาษีและสามารถชำระเงินผ่านธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้การนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บภาษีปี 2562 คาดว่าจะเก็บภาษีได้ 1.06 แสนล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป็นเป้าหมายที่แจ้งไว้ถึง 6 พันล้านบาท และยังเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการจัดเก็บภาษีปีก่อนด้วย

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า