สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน มีแผนที่จะเดินทางเยือนรัสเซีย เพื่อพบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ภายในสัปดาห์หน้า
แผนการเดินทางเยือนจีนของประธานาธิบดีสี มีขึ้นหลังจากที่จีนเสนอแผนสันติภาพเพื่อคลายวิกฤตความขัดแย้งในยูเครน ท่ามกลางความกังขาของชาติตะวันตก ซึ่งออกมาตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำจีนและผู้นำรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีปูติน เปิดเผยว่ามีการตกลงเกี่ยวกับแผนการเดินทางเยือนรัสเซียของประธานาธิบดีสีแล้ว แต่ไม่ได้ระบุช่วงเวลาที่แน่ชัด ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล ออกมารายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่า ผู้นำจีนอาจจะเดินทางเยือนรัสเซียในช่วงเดือน เม.ย. – พ.ค.
อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์สระบุในรายงานว่า ได้สอบถามถึงเรื่องการเดินทางเยือนรัสเซียของประธานาธิบดีสีไปยังไปยังกระทรวงต่างประเทศจีน แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันใดๆ กลับมา
ขณะเดียวกัน รัฐบาลรัสเซียก็ยังคงปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ให้เหตุผลว่า “ตามกฎแล้ว การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการมาเยือนของผู้นำต่างประเทศอย่างเป็นทางการ จะต้องมีการประสานงาน และตกลงร่วมกันระหว่างทั้งสองฝ่าย” และกล่าวว่า เมื่อถึงเวลาที่พร้อม จะแจ้งให้ทราบ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ขณะที่แหล่งข่าวที่เปิดเผยเรื่องดังกล่าวกับรอยเตอร์ส ก็ไม่ได้ให้ความชัดเจนว่าแผนการเยือนรัสเซียของประธานาธิบดีสี ตอนนี้อยู่ในกระบวนการใด หรือมีปัญหาติดขัดในเรื่องใด
แต่แหล่งข่าวอีกรายได้ระบุกับรอยเตอร์สว่า การเดินทางเยือนรัสเซียของ นายหวัง อี้ นักการทูตระดับสูงของจีน เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นการเตรียมการสำหรับการเยือนรัสเซียของประธานาธิบดีสี
ทั้งนี้ จีนและรัสเซียได้บรรลุความร่วมมือโดยไร้ขีดจำกัดร่วมกันมาตั้งแต่เดือน ก.พ. 2565 ในระหว่างที่ประธานาธิบดีปูติน เยือนปักกิ่งเพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว และไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น รัสเซียก็ได้เปิดฉากบุกยูเครน ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายยังคงยืนยันว่าจะรักษาความสัมพันธ์แนบแน่นระหว่างกันไว้ต่อไป
ประธานาธิบดีสีเคยพบกับประธานาธิบดีปูตินแบบตัวต่อตัว 39 ครั้ง นับตั้งแต่รับตำแหน่งประธานาธิบดี โดยการพบกันครั้งล่าสุดมีขึ้นเมื่อเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว ในระหว่างเข้าร่วมการประชุมสุดยอดในเอเชียกลาง
ส่วนการเดินทางเยือนรัสเซียครั้งนี้ นับเป็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีสี ได้รับการรับรองจากที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีน เป็นสมัยที่ 3 ส่งผลให้เขาเป็นผู้นำที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดียาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์จีนสมัยใหม่
ที่มา Reuters