Yacht Quarantine เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์เก็บเล็กผสมน้อย หลังวิกฤตโควิด
คาดการณ์กันว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะกลับมาเป็นปกติในปี 2023 เป็นอย่างเร็ว ทำให้การเก็บเล็กผสมน้อยนี้จำเป็นอย่างมากก่อนจะไปถึงเส้นชัยในปี 2023
กลุ่มหนึ่งที่เป็นเป้าหมายที่น่าสนใจคือกลุ่ม “มหาเศรษฐี” ที่นิยมเรือยอทช์ จึงกลายเป็นที่มาของการทำ Yacht Quarantine
กลุ่มมหาเศรษฐีที่ว่านี้คือมีความร่ำรวยแบบที่เราคิดไม่ถึงจริงๆ ยกตัวอย่างพฤติกรรมการบริโภคที่จะสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศเช่น
– เรือยอทช์ที่เดินทางมานี้ มหาเศรษฐีใช้วิธีให้ลูกน้องออกเดินเรือมาจากถิ่นของเขา เช่นออสเตรเลียหรือยุโรป เรือยอทช์เหล่านี้สปีดการเดินทางไม่ได้เร็วมาก ก็จะใช้เวลาสัก 30-45 วัน บวกกับเมื่อมาถึงต้องกักตัวอีก 14 วัน ทำให้รวมๆ แล้วกว่าจะพร้อมให้ “เจ้าของเรือ” มาอยู่ก็กินเวลาราวๆ 2 เดือน
– มหาเศรษฐีจะใช้วิธีบินมาจากประเทศของตน ส่วนใหญ่เครื่องบินส่วนตัว เพื่อมากักตัวที่เรือยอทช์นี้ 14 วัน หลังจากกักตัวเสร็จ ก็จะเข้าไปพักผ่อนที่ฝั่งภูเก็ต และเมื่อพวกเขาใช้เวลาเดินทางนาน ก็จะใช้เวลากับพื้นที่นาน บางคนอยู่อาศัย 3-4 เดือน ก่อนจะย้ายไปที่อื่น
– เมื่อมากักตัว มหาเศรษฐีเหล่านี้พร้อมใช้เงินมหาศาลระหว่างอยู่ในไทย เช่นการซื้ออาหารสด ของใช้ต่างๆ รวม 2-3 ล้านบาทระหว่างการกักตัว การยอมจ่ายเงินหลักแสนเพื่อจ้างหมอมาดูแล เมื่อเข้าฝั่งก็จับจ่ายใช้สอยด้วยเม็ดเงินจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะถูกฉีดเข้าไปในระบบเศรษฐกิจของไทย
เม็ดเงินมหาศาลที่หมุนเวียนในเศรษฐกิจ
– หลังจากเปิดให้มีการทำ Yacht Quarantine แล้วมีเม็ดเงินกว่า 500 ล้านบาทหมุนเวียนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย จากนักท่องเที่ยวประมาณ 150 คน คิดแล้วตกคนละ 4.5 ล้านบาท
– นี่คือตัวอย่างที่เห็นภาพที่ชัดเจนของการทำ Premium Tourism ซึ่งว่ากันว่ารายได้ต่อหัวนั้นสูงกว่า Mass Tourism แบบที่บูมขั้นสุดในปี 2016-2019 มากกว่า 10 เท่าตัว
– และจะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการพยุงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ไปรอดหลังจากวิกฤตโควิด
ทะเลไทยจะเอาชนะคู่แข่งได้อย่างไร
– ไทย มัลดีฟส์ ฟิจิ บาหลี 4 ประเทศนี้คือคู่แข่งในการแย่ง “มหาเศรษฐี” เหล่านี้ในการเดินทางในประเทศของตน ซึ่งไทยได้เปรียบหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของความเพียบพร้อมในการท่องเที่ยว เพราะเรามีห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงพยาบาล โรงแรม ที่ตัวเลือกหลากลาย มีทะเลให้เลือก งานบริการเราก็ไม่แพ้ใครอยู่แล้ว
– แต่จุดอ่อนที่เราต้องรีบปิดคือการขอวีซ่า ที่ทำได้ยากกว่าประเทศคู่แข่ง และระยะเวลาในการอาศัยอยู่ในประเทศสั้นกว่า ทำให้มหาเศรษฐีหลายคน ที่ต้องลงทุนเดินทางมาไกล และกักตัวอีกนาน มองว่าไม่คุ้มถ้าจะต้องรีบออกจากประเทศโดยเร็ว
การท่องเที่ยวคืออุตสาหกรรมที่บาดเจ็บที่สุดจากโควิด-19 เม็ดเงินทุกบาทจึงมีความสำคัญในการช่วยต่อลมหายใจ ให้ทุกส่วนของระบบ
