ไม่ใช่แค่จีนบุกไทย ธุรกิจโฆษณาไทยก็ไปเจาะตลาดจีนได้ แชร์มุมมองน่าสนใจจาก ‘Yell Advertising’

ที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีแบรนด์จีนที่บุกตลาดไทยมากมาย ซึ่งไม่ได้มีแค่ ‘หม่าล่า’ แต่หลายแบรนด์ที่เข้ามาและเป็นของคนจีนมีค่อนข้างมาก อย่างเช่น MINISO, ANTA, Mixue, BYD, SINOPEC แต่ธุรกิจไทยที่สามารถเปิดในจีนได้ ทั้งยังเป็น ‘บริษัทโฆษณา’ ด้วยถือว่ามีน้อยมากๆ และ Yell Advertising ได้มาแชร์ความยากและโอกาสในตลาดจีนบนเวที AdPeople ที่ผ่านมา

“ในจีนมีกฎแรงมากๆ สำหรับเรื่องการโฆษณา ยิ่งกว่านั้นแค่เฉพาะในเซี่ยงไฮ้ที่เดียว มีเอเจนซี่โฆษณามากถึง 40,000 บริษัท นี่แหละคู่แข่งที่ธุรกิจไทยต้องรับมือ” โอห์ม – ดิศรา อุดมเดช ผู้ก่อตั้งและ CEO บริษัท Yell Advertising

[ คนจีนชอบโฆษณาไทยจนยอมซื้อตั๋วไปชมในโรงหนัง ]

Yell Advertising บริษัทโฆษณาของคนไทย 100% ที่ โอห์ม – ดิศรา เคยใฝ่ฝันที่อยากจะเปิดธุรกิจในตลาดต่างประเทศด้วย อยากให้ธุรกิจมีความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล จนตอนนี้สามารถเปิดบริษัทโฆษณาของคนไทยที่ ‘สาขาปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้’ เป็นที่เรียบร้อย

โอห์ม – ดิศรา แชร์บนเวทีว่า “โฆษณาไทยกลายเป็นสิ่งที่คนจีนซื้อตั๋วเข้าไปชมในโรงหนัง เพราะมีการรวมโฆษณาไทยแล้วเอามาฉายในโรงหนัง และผลตอบรับดีมากๆ”

“สำหรับคนจีนเขาไม่ได้มองว่านั่นคือโฆษณา แต่พวกเขามองว่า โฆษณาของคนไทยเป็นเหมือน ‘short flim’ ที่มีหลากหลายอารมณ์ ชอบกันมาก”

ขณะที่ผลงานของ Yell Advertising เป็นที่รู้จักกันมากขึ้นในกลุ่มคนจีน จากตัวโฆษณาที่ชื่อว่า “จีบได้แฟนตายแล้ว” ค่อนข้างฮอตมากๆ ในจีน ขนาดที่ว่ามีคนติดต่อขอซื้อเนื้อเรื่องไปทำเป็นภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ ซึ่งก็เป็นใบเบิกทางให้คนจีนรู้จัก Yell มากขึ้นนับแต่นั้น

[ สรุปสิ่งที่น่าสนใจบนเวทีจาก Yell Advertising ]

3 เคล็ดลับที่ โอห์ม – ดิศรา ยกมาพูดบนเวทีชี้ทางรอดว่า เป็น 3 เรื่องที่จะช่วยให้ธุรกิจไทยเข้าถึงใจกลุ่มคนจีนมากขึ้น ในฐานะที่เป็นประเทศใหญ่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 รองจาก ‘อินเดีย’ ตามหลังกันนิดเดียวแค่ 1.44 พันล้านคน กับ 1.42 พันล้านล้านคน

เรื่องที่ 1 ‘จังหวะที่ถูกต้อง’

• ถ้าเรารู้ช่วงเวลา ก็จะรู้ว่าคนต้องการเราตอนไหน
• จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของไทย 2.9 ล้านล้านบาท ส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้นตลอด อย่างปีล่าสุดเพิ่ม 6%
• เมื่อก่อนคนจีนไม่ดูโฆษณาไทย แต่ตอนนี้มองว่าเป็นหนังสั้นคุณภาพ
• เมื่อรู้ว่าจีนรู้จักเราดีพอ และเข้าใจคุณภาพของผลงานเรา จังหวะการไปตลาดจีนจึงเกิดประโยชน์
• ใช้ความรู้จักเราดี สร้างผลงาน และการเจรจาต่อรองกับจีนให้เกิดผลลัพธ์
• เขายกตัวอย่างคนขายเสื้อกันฝนที่กำแพงเมืองจีน เป็นที่ต้องการมากๆ ในวันฝนตก โอกาสทองก็เหมือนกันเราต้องค้นหาให้เจอ

เรื่องที่ 2 ‘โลเคชั่นที่ดี’

• จงอย่ามองว่าจีนเป็นที่ราบ เพราะมีพื้นที่ วัฒนธรรม และภาษาที่แตกต่างกัน
• อย่าเหมารวมว่าจีนทั้งประเทศจะ ‘เศรษฐกิจไม่ดี’ เหมือนกัน เพราะประเทศใหญ่มาก
• Yell แนะนำให้ธุรกิจมองภาคเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ มากกว่าทั้งประเทศ
• เซี่ยงไฮ้มีเอเจนซี่โฆษณา 40,000 แห่ง เราสามารถเลือกไปเมืองและแข่งขันให้ถูกจุดได้
• การสังเกตคู่ค้าดีที่สุด เช่น ข้อห้ามในลิฟต์ ซึ่งคนจะเคร่งครัดมาก สะท้อนว่าหลายพื้นที่แอบแฝงอาจเป็นพื้นที่โฆษณาที่ดีได้ในวันหนึ่ง
• จีนมีคำเซนซิทีฟในโฆษณาเยอะมากกว่า 600 คำต้องศึกษาดีๆ
• คนจีนมีข้อห้ามในการทำโฆษณา เช่น การเมือง, คอนเทนต์ผิดกฎหมาย, การจูงใจใช้ของลักชัวรี่

เรื่องที่ 3 ‘ผู้คน’

• พื้นฐานการทำธุรกิจในทุกประเทศ ‘ความซื่อสัตย์’ สำคัญที่สุด
• การให้เกียตริระหว่างกันเป็นสิ่งที่คนจีนให้ความสำคัญในเชิงธุรกิจ
• การเข้าใจวัฒนธรรม หรือสิ่งที่คนจีนชอบ ณ ช่วงเวลานั้นๆ
• เช่น คนจีนค่อนข้างอินกับเรื่องราวที่มี ‘สตอรี่’ ชัดเจน
• การเล่าเรื่องแบรนด์ในเชิงสร้างวัฒนธรรมร่วม อาจจะไม่เจาะจงประเทศใดประเทศหนึ่ง

โอห์ม – ดิศรา ได้พูดถึงความท้าทายและความเสี่ยงที่คนจีนเซนซิทีฟมากๆ ธุรกิจไทยจำเป็นต้องศึกษาให้ดี เช่น ระบบเซนเซอร์ที่เคร่งมาก, การแปลสคริปต์ที่ต้องมีการรับรองจากรัฐบาลจีน, นักแสดงในเรื่องต้องมีเอกสารรับรอง และตรวจเช็คได้ทุกคน เป็นต้น

บางทีการที่มีธุรกิจหรือเนื้อหาอะไรเจ๋งๆ อาจจะไม่เพียงพอต่อการวางกลยุทธ์ธุรกิจแล้ว เพราะองค์ประกอบเล็กๆ อย่าง 3 เรื่องที่เล่ามาเป็นสิ่งพื้นฐานก็จริง แต่ไม่ใช่ทุกบริษัทจะสามารถทำได้ และประสบความสำเร็จอย่าง Yell Advertising และนี่คือทั้งหมดจากสิ่งที่เจ้าของบริษัทมาแชร์