คนไทยถือว่าเป็นกลุ่มที่ชอบทานของอร่อยตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่ม อย่างขนมประเภท ‘ทาร์ตไข่’ ซึ่งเป็นหนึ่งในขนมที่ครองใจคนไทยมานาน ทั้งที่หิ้วตรงจากฮ่องกง หรือทาร์ตไข่ฝีมือคนไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ในตลาดมีเพียงไม่กี่เจ้าเท่านั้น
แต่ย้อนไปเมื่อ 4 เดือนก่อนต้องพูดว่า ‘YOLK’ (โยล์ค) เข้ามาเป็นตัวเลือกของคนไทยอีกหนึ่งราย การันตีรสชาติและคุณภาพด้วย ‘The Holiday Group’ ภายใต้การปลุกปั้นโดย 2 ผู้บริหารไฟแรงที่คนไทยคุ้นหน้า ‘สาริน รณเกียรติ และ วสุวัส คูหาเปรมกิจ’
เผยข้อมูลน่าสนใจว่า ผลตอบรับตลอด 4 เดือนที่ผ่านมาดีเกินคาด โดย อิน-สาริน ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า 4 เดือนตั้งแต่ที่เปิดตัว YOLK กลายเป็นกระแสฟีเวอร์ที่ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติสนใจ ซึ่งทำยอดขายได้แล้วกว่า 100,000 ชิ้นต่อเดือน (2 สาขารวมกัน)
จุดเด่นของทาร์ตไข่ YOLK จะรู้เลยว่าแตกต่างจากที่อื่นหลายจุด เช่น แป้ง ที่ทำมาจากแป้งครัวซองต์, เป็นทาร์ตไข่ที่ฉ่ำไม่แห้ง ที่สำคัญคือ มีไส้คัสตาร์ดหวานกำลังดีแทรกซึมอยู่ชั้นล่างของแป้ง
ปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าอยู่ที่คนไทย 60% และต่างชาติ 40% ส่วนหนึ่งเพราะได้อานิสงส์จากโลเคชั่นร้านสาขาบรรทัดทองและเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวและกลุ่มคนหลายเจนรวมตัวกัน
[ ทาร์ตไข่ = ขนมคลาสสิกเทรนด์ ]
อิน-สาริน เล่าเกี่ยวกับเทรนด์ความนิยมของคนไทยและต่างชาติว่า เทรนด์ขนมต่างๆ อันดับแรกคือ ต้องแยกให้ออกว่าอันไหนคือ ไวรัลเทรนด์ และอันไหนคือคลาสสิกเทรนด์
‘ทาร์ตไข่’ คือ คลาสสิกเทรนด์ ที่อยู่มานานและก็ยังเป็นความนิยมตลอดกาล ไม่ใช่แค่กับคนไทย แต่หลายๆ ชาติในเอเชีย เช่น จีน ฮ่องกง เกาหลี และญี่ปุ่น ก็เข้าใจในรสชาติของทาร์ตไข่และยังชื่นชอบที่จะทาน
“เหตุผลที่เลือกแตกแบรนด์ใหม่ และเลือกเมนูทาร์ตไข่ มองว่าเป็นขนมที่ค่อนข้างคลาสสิกสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของทุกคน เราเชื่อในพลังของการเป็นเทรนด์เซ็ตเตอร์ เพราะที่ผ่านมา The Holiday Group ก็เคยสร้างปรากฏการณ์ให้เมนูขนมหลายเมนูเป็นกระแสมาแล้ว”
“พอจะปั้นแบรนด์ใหม่ เราเล็งเห็นว่าทาร์ตไข่เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด และสําหรับตลาดเมืองไทย ก็ยังมีโอกาสทางการตลาดสําหรับขนมประเภทนี้”
“เราค่อนข้างมั่นใจว่า ทำรสชาติถูกปากคนไทยมากกว่า คนไทยไม่ได้ชอบรสหวานมากเกินไป แต่ชอบรสชาติกลมกล่อม คนไทยทานรสจัด ไม่ใช่รสชาติใดรสชาติหนึ่ง”
[ อนาคตกับการสร้างอาณาจักรขนมในไทย ]
นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงเอกลักษณ์ของ YOLK ซึ่งจุดเด่นก็คือความกรอบของแป้งครัวซองต์ ทางร้านจึงใช้วิธีการแบ่งรอบอบขนมทุก ๆ 30 นาที เพื่อให้ขนมมีความสดใหม่มากที่สุด รวมถึงมีการปรับสูตรให้คงความกรอบได้นาน ซึ่งจะต่างกับทาร์ตไข่ของฮ่องกงเล็กน้อย
อิน-สาริน ได้พูดถึงกลยุทธ์การตลาดที่มีลูกค้าต่อคิว มองว่า อาจจะเป็นการตลาดที่น่าสนใจ แต่การรันคิวได้ไวก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งมุมมองของเขาคิดว่า การต่อคิวประมาณ 15-20 นาทีเพื่อซื้อสินค้าเป็นเวลาที่เหมาะสม หากนานกว่านั้นจะทำให้เสียประสบการณ์ลูกค้า และเป็นผลเสียต่อแบรนด์ระยะยาว
จากการปั้นแบรนด์ Holiday Pastry มา 5 ปีเต็ม ครั้งนี้ของ YOLK เรียกว่าเป็นการเติมพอร์ตขนมให้กับแบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้น โดยวางตำแหน่งให้เป็น ‘อาณาจักรขนมหวาน’ ซึ่งจะมีทั้งขนมที่อยู่ในกระแสไวรัล เช่น ช็อกโกแลตดูไบ และขนมที่เป็นคลาสสิกเทรนด์อย่าง ‘ทาร์ตไข่’ รวมกัน เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับแบรนด์
“เราเชื่อว่า specialty is a new normal ยิ่งลูกค้ามีตัวเลือกเยอะ ยิ่งต้องทำแบรนด์ดิ้งให้ชัด นอกจากโพรดักส์ต้องแข็งแรง อร่อย ยังต้องสื่อสารตัวตนให้ชัดตั้งแต่วันแรก ในทุกช่องทางทั้งออนไลน์ และออฟไลน์”
ในปีนี้มีแผนจะขยายสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มเติมอีกประมาณ 5 สาขา และทุกๆ 2 เดือนจะเห็นรสชาติใหม่ค่อยๆ ออกมาสู่ตลาด รวมไปถึงจะมีเมกะโปรเจ็กต์ Collaboration อีกประมาณ 3 แบรนด์ที่เป็นของคนไทยแน่นอน
ถามว่าในอนาคตจะมีแพลนขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศหรือไม่? อิน-สาริน เปรยๆ ว่ามีไปแน่นอนแต่อาจจะไม่ใช่เร็วๆ นี้ เพราะการขยายสาขาอยากจะเริ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั่วถึงในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดก่อน
อิน-สาริน ได้พูดถึงการทำธุรกิจในยุคนี้ว่า “ธุรกิจที่ตัวเล็กกว่า อาจจะขยับตัวเร็วหน่อย จะมีเทรนด์อะไรมาต้องรีบคว้า แต่ก็ต้องเข้าใจรสชาติที่คนไทยชอบด้วย”
และในยุคที่ธุรกิจส่วนใหญ่ใช้กลยุทธ์การสื่อสารแบบ ‘Storytelling’ สำหรับธุรกิจอาหาร หรือขนมสำหรับ อิน-สาริน มองว่า อาหารเป็นกลุ่มที่มีคนทานทุกวันอยู่แล้ว ดังนั้น การใช้ Storytelling ในการเล่าเรื่อง ‘โลกของขนม’ มีความจำเป็นมากกว่า เพราะทราฟฟิกของยอดซื้อค่อนข้างขึ้น-ลง ชัดเจนกว่ามาก
นอกจากนี้ ในปัจจุบัน SMEs ไทยต้องรับมือกับความท้าทายรอบด้าน เพราะเพื่อนๆหลายแบรนด์ที่เห็นกันก็ค่อยๆ ล้มหายไปจากตลาด F&B อาจจะถึงเวลาแล้วที่แบรนด์ไทยจะจับมือกันโต
“เราอยากให้แบรนด์ YOLK เข้ามาช่วยยกระดับมาตรฐานแบรนด์ขนมของคนไทย เป็นหนึ่งในแม่เหล็กที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้อยากมาไทย เมื่อไหร่ที่คิดถึงทาร์ตไข่ต้องคิดถึงประเทศไทย”
ในอนาคตมีโอกาสที่จะเห็นนักธุรกิจไทยปั้นยอดขายทาร์ตไข่แตะระดับ ‘หลักล้านชิ้น’ ได้ เพราะ YOLK เองก็มีเป้าใหญ่ที่จะขยายให้ครบ 7 สาขา เพื่อเสิร์ฟทาร์ตไข่ทะลุ 1 ล้านชิ้นเช่นกัน