‘หมอยง’ ยกเคสโรคระบาดในอดีต ชี้วัคซีนคือทางออก ยิ่งฉีดมาก โรคยิ่งสงบเร็ว

‘หมอยง’ ชี้วัคซีนคือทางออกในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เปรียบวัคซีนเหมือนทำให้ติดโรค ฉีดแล้วร่างกายสร้างภูมิต้านทานเอง ยกตัวอย่างโรคระบาดที่เคยเกิดขึ้นในอดีต กว่าจะสงบต้องมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากจนเกิดภูมิต้านทานหมู่

วันที่ 12 พ.ค. 2564 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุว่า เมื่อมองย้อนไปในอดีต การระบาดใหญ่ของโรค ตั้งแต่อหิวาตกโรค ในสมัย ร.2 มีคนเสียชีวิตจนเผาศพไม่ทัน ต้องไปทิ้งให้แร้งกิน โรคสงบเอง เพราะผู้ที่ติดเชื้อจำนวนมาก ทำให้เกิดภูมิต้านทานกลุ่ม โรคสงบเอง

ในสมัย ร.6 พ.ศ. 2461 เกิดไข้หวัดใหญ่ สเปน ระบาดในประเทศไทย เราไม่มียา ไม่มีวัคซีน โรคระบาดเต็มที่ ขณะนั้นประเทศไทยมีประชากร 8.5 ล้านคน เสียชีวิตไป 80,233 คน หรือ 1% ของประชากรไทย (ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 36 หน้า 1193) โรคระบาดใช้เวลา 2 ปี ก็สงบเอง โดยมีคนติดเชื้อที่รายงานประมาณ 2.3 ล้านคน แต่จริง ๆ แล้ว น่าจะติดเชื้อไปกว่าครึ่ง หรือ 4 ล้านคน ก็เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ โรคก็สงบ และไข้หวัดใหญ่สเปนก็กลายเป็นโรคประจำฤดูกาลไป เพราะประชาชนส่วนใหญ่ มีภูมิต้านแล้ว

ทำนองเดียวกัน โควิด-19 ระบาดในประเทศไทย ถ้าไม่ทำอะไรเลย ปล่อยตามธรรมชาติ ก็จะมีการติดโรคกันกว้างขวาง และเชื่อว่าจะใช้เวลา 2 ปี โรคก็จะสงบลงเอง แต่เราจะมีการเจ็บป่วยมากมาย และจะสูญเสียชีวิตอย่างน้อย 1% หรือ 7 แสนคน โรคก็จะสงบเอง ซึ่งเราไม่สามารถยอมรับได้ จึงมีมาตรการต่าง ๆ ที่ยื้อเวลา จนมีวัคซีนเพื่อมาทดแทนการติดโรค

วัคซีนจึงเปรียบเสมือนทำให้เราติดโรคและไม่มีอาการ แต่จะสร้างภูมิต้านทานให้เหมือนกับติดโรคไปแล้ว ถ้าเราให้วัคซีนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันเหมือนกับเคยเป็นโรคมาแล้วจำนวนมาก โรคก็จะสงบ ควบคุมได้ ชีวิตก็จะได้กลับมาสู่ภาวะปกติ เด็กจะได้ไปโรงเรียน อยากไปไหนก็จะได้ไป วัคซีนจึงเป็นทางออกในการควบคุมการระบาดของโรค และยุติวิกฤตการณ์ครั้งนี้ที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลากว่าปีแล้ว