SHARE

คัดลอกแล้ว

แม้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะลดลงและความผันผวนทางเศรษฐกิจมหภาคยังคงดำเนินอยู่ แต่สำหรับครอบครัวคนไทย ก็ยังมองว่าการศึกษาต่างประเทศเป็นเรื่องที่ดีและเปรียบเสมือนการลงทุนระยะยาวให้ลูกหลาน

มีอินไซต์จาก  YouTrip บอกว่า ยอดการชำระค่าเล่าเรียนผ่าน YouTrip เพิ่มขึ้นถึง 70% เมื่อเทียบกับปีก่อน หรือพูดง่ายๆ ว่ามีนักเรียนไปเรียนต่อต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น

โดยมีนักเรียนไทยเข้าศึกษาต่อในสถาบันที่มีชื่อเสียงต่างๆ เช่น

          • สหรัฐอเมริกา: Berklee College of Music, UCLA, MIT และ Harvard Business School
          • ออสเตรเลีย: RMIT University, Swinburne University, Macquarie University, University of Queensland, University of Sydney และ Monash University
          • แคนาดา: Douglas College, Centennial College และ Langara College

ไม่เพียงแต่การศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่พวกโปรแกรมแลกเปลี่ยนระยะสั้น หรือ Summer School เป็นอีกจุดหมายในเอเชียที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีนมีจำนวนนักเรียนไทยเข้าร่วมเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น หลักสูตรระยะสั้นของ Zhongnan University (Wuhan), South China University of Technology และ Zhejiang University

[ ค่าเรียนหลักล้าน แต่พ่อแม่คนไทยก็ยอมจ่าย ไม่รวมค่าครองชีพหลักแสน ]

อย่างไรก็ตาม การส่งลูกหลานไปศึกษาต่างประเทศก็ต้องยอมรับว่าค่าเล่าเรียนสำหรับปีการศึกษาค่อนข้างสูง เรามาดูตัวเลขค่าเล่าเรียนที่ผู้ปกครองยอมจ่ายกัน ในปี 2025/2026 ระดับปริญญาตรีเต็มเวลาที่ Harvardในสหรัฐอเมริกา มีค่าใช้จ่ายโดยประมาณอยู่ที่ 2.8 ล้านบาท 

ขณะที่ King’s College Londonในสหราชอาณาจักร ประมาณ 2.4 ล้านบาท และที่ South China University of Technologyในจีน ประมาณ 900,000 บาท

อีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้ปกครองและนักเรียนต้องพิจารณาอย่างรอบด้านคือ ค่าครองชีพ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการวางแผนงบประมาณตลอดระยะเวลาที่ศึกษา

คาดการณ์ค่าครองชีพรายปีสำหรับนักเรียนที่ไปศึกษาต่อแต่ละประเทศ แบ่งออกเป็นดังนี้

          •  สหรัฐอเมริกา ประมาณ 540,000 – 670,000 บาท/ปี
          • สหราชอาณาจักร ประมาณ 330,000 – 580,000 บาท/ ปี
          •  จีน ประมาณ 332,000 บาท/ปี

[ นักเรียนนอกเผชิญค่าครองชีพสูง เน้นทำอาหารทานเอง เอาเงินไปจุ่ม Pop Mart ]

สำหรับพฤติกรรมการใช้จ่ายของนักเรียนสะท้อนวิถีชีวิตในต่างแดนและแรงกดดันด้านค่าครองชีพที่สูงขึ้น สำหรับนักเรียนไทยแต่ละเดือนมักหมดเงินไปกับ

          • ค่าสาธารณูปโภค (10%)
          • ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด (4%)
          • ช้อปปิ้ง (42%)
          • การท่องเที่ยวและ ความบันเทิง (8%) 
          • ร้านสะดวกซื้อ (15%)
          • ค่าอาหาร (21%)

จะเห็นได้ว่า “การช้อปปิ้ง” เป็นหมวดค่าใช้จ่ายสำคัญของนักเรียนไทยในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาสิ่งของเข้าที่พัก ไปจนถึงการให้รางวัลตัวเองด้วยสินค้าแบรนด์เนมหรือของสะสมยอดนิยมอย่าง Pop Mart ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในทุกประเทศที่นักเรียนไทยไปเรียน 

โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักรที่นักเรียนมีแนวโน้มใช้จ่ายกับสินค้าหรูมากกว่าประเทศอื่น เนื่องจากราคาที่ดึงดูดใจและอยู่ใกล้ศูนย์กลางการช้อปในยุโรป แม้จะมีการใช้จ่ายเพื่อความเพลิดเพลิน แต่นักเรียนไทยส่วนใหญ่ยังคงระมัดระวังในการใช้จ่าย มักเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าท้องถิ่นเพื่อความประหยัด และสินค้าที่ไม่มีในประเทศไทย

รองจากหมวดช้อปปิ้ง ค่าใช้จ่ายที่พบได้บ่อย คือการรับประทานอาหารนอกบ้านและการซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันไปตามวิถีชีวิตของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะค่าอาหารและความบันเทิงทั้งในแง่ราคาและพฤติกรรมการใช้จ่าย ที่สะท้อนค่านิยมและสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

แต่สำหรับนักเรียนไทยที่เรียนในสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียมีแนวโน้มที่จะเลือกทำอาหารรับประทานเองมากขึ้น เนื่องจากค่าครองชีพโดยเฉพาะค่าอาหารนอกบ้านมีราคาสูง 

ในเมืองใหญ่อย่างลอนดอนและซิดนีย์ การไปรับประทานอาหารในร้านอาจมีค่าใช้จ่ายสูงเป็นสองเท่าของการซื้อวัตถุดิบจากซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น เช่น Tesco (สหราชอาณาจักร) และ Coles (ออสเตรเลีย) เพื่อมาประกอบอาหารเองที่บ้าน

ในทางตรงกันข้าม นักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะทำอาหารเองและรับประทานอาหารนอกบ้านในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน เนื่องจากมีร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดชื่อดังมีราคาเข้าถึงง่าย เช่น Shake Shack และ In-N-Out 

นอกจากนี้ วัฒนธรรมการให้ทิปในสหรัฐอเมริกา เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้นักเรียนส่วนใหญ่เลือกบริโภคอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดมากกว่าการนั่งร้านอาหาร เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

อีกหนึ่งพฤติกรรมที่พบเหมือนกันในทุกประเทศปลายทาง คือความรักในอาหารไทยและอาหารเอเชียของนักเรียนไทย ซึ่งนำไปสู่การแวะเวียนหาร้านอาหารเอเชีย เช่น Panda Express ซึ่งเป็นรสชาติที่คุ้นเคยระหว่างการใช้ชีวิตในต่างแดน

และก็ต้องยอมรับว่าการเรียนต่อต่างประเทศยังเปิดโอกาสให้นักเรียนได้สำรวจสิ่งใหม่ๆได้ประสบการณ์ที่หลายคนให้ความสำคัญ อาทิ ในสหราชอาณาจักร สามารถใช้ประโยชน์จากส่วนลดนักเรียนและการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรี ช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายด้านความบันเทิงได้, ในออสเตรเลียและแคนาดา นักเรียนมักใช้เวลาว่างไปกับกิจกรรมกลางแจ้งที่มีต้นทุนต่ำ เช่น การเดินป่าในอุทยานแห่งชาติ หรือการท่องเที่ยวชายหาดธรรมชาติ ตอบโจทย์ทั้งในด้านประสบการณ์และความคุ้มค่า

ในทางตรงกันข้าม นักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกาจำนวนไม่น้อยมีค่าใช้จ่ายด้านกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศอื่นเกือบสองเท่า เช่น ราคาบัตรเข้า Disneyland ในสหรัฐฯ สูงกว่าทัวร์ Great Ocean Road แบบครบวงจรในออสเตรเลียมากกว่าสองเท่า

ขณะที่ประเทศจีนถือเป็นจุดหมายปลายทางที่นักเรียนมีค่าใช้จ่ายรวมต่ำที่สุด ปัจจัยสำคัญมาจากค่าครองชีพที่ไม่สูง และค่าท่องเที่ยวที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้นักเรียนสามารถใช้ชีวิตและท่องเที่ยวได้อย่างประหยัดกว่าประเทศอื่นอย่างเห็นได้ชัด

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า