1 ปี YouTube Shorts สรุปเส้นทาง เมื่อเจ้าตลาดคลิปยาว หันมาทำคลิปสั้น

เผลอแปปเดียว YouTube Shorts ฟีเจอร์คลิปสั้นของ YouTube ก็มีอายุครบ 1 ปีแล้ว 

การเปิดตัว YouTube Shorts ออกมานั้น มีเหตุผลเรียบง่าย คือให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้ใช้ที่นิยมดูคลิปสั้น และนิยมสร้างคลิปสั้นเพื่อแสดงความเป็นตัวเองมากขึ้น ซึ่งคนที่ประสบความสำเร็จในตลาดนี้แล้วคือ TikTok และ Instagram Stories

แต่ถ้าพูดถึงแพลตฟอร์มวิดีโอแบบ long form ก็ปฏิเสธไม่ได้อีกว่าคนที่ประสบความสำเร็จ คือตัว YouTube เองนั่นแหละ

ในโอกาสครบรอบ 1 ปี TODAY Bizview ได้ร่วมวงแถลง YouTube Shorts Roundtable นำโดย Neal Mohan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ YouTube และ Lyor Cohen หัวหน้าฝ่ายธุรกิจเพลงของ YouTube มีเกร็ดข้อมูลน่าสนใจใน 10 ข้อ

1. YouTube Shorts มีผู้ใช้งานที่ล็อกอินเข้าชมมากกว่า 1.5 พันล้านคนต่อเดือนแล้ว (สถิติทั่วโลก)

2. ทาง YouTube บอกด้วยว่า ยูทูเบอร์ที่ทำเนื้อหาลง Shorts ควบคู่ไปกับเนื้อหาปกติ มีโอกาสเพิ่มยอดผู้ติดตามได้ด้วย โดยเวลาในการรับชมโดยรวมของช่องที่มีการอัปโหลดทั้งวิดีโอ Shorts และวิดีโอแบบยาวเพิ่มมากขึ้น และจำนวนผู้ติดตามก็เพิ่มสูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่องที่อัปโหลดวิดีโอยาวเพียงอย่างเดียว 

3. ข้อดีของ YouTube Shorts สามารถดัดแปลงเอาวิดีโอแบบยาว มาคัทเป็น Shorts ได้ โดยใช้ฟีเจอร์ Cut และฟีเจอร์ Green Screen สำหรับแอปพลิเคชัน YouTube บน iOS (และจะเปิดตัวบน Android เร็วๆ นี้)

4. ในเดือนเมษายน 2565 วิดีโอ Shorts ที่สร้างด้วยเนื้อหาจากวิดีโอแบบยาวมียอดชมมากกว่า 1 แสนล้านครั้ง (สถิติทั่วโลก)

5. ตอนนี้ยังไม่มีระบบทำเงินให้ครีเอเตอร์ ที่ผ่านมามีแค่ระบบการให้รางวัลซึ่งจัดสรรโดย YouTube เอง รวมถึงกองทุน 100 ล้านดอลลาร์ ดึงครีเอเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ มาใช้งาน Shorts  กันมากขึ้น 

6. มีข้อมูลด้วยว่า 40% ของครีเอเตอร์ ที่ได้รับกองทุน  Shorts ไม่เคยเข้าร่วม YouTube Partner Program มาก่อน พูดง่ายๆ คือเป็นหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในวงการนี้ ซึ่ง YouTube มีแผนจะทำระบบทำเงินของ Shorts ในอนาคต ซึ่งจะแตกต่างจาก YouTube หลัก เพราะเป็นเนื้อหาคนละแบบ ต้องใช้โมเดลธุรกิจคนละแบบ

7. การดึงคนดังระดับบิ๊กเนมของโลกมาร่วมงานกับ Shorts มีส่วนช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้ ที่ผ่านมา YouTube ได้วง BTS มาทำคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟ เช่น ชาเลนจ์  #PermissiontoDance และ  #MyBTStory ชวนแฟนๆ สร้างคลิปชาเลนจ์ร่วมกัน และจะมีคนดังอื่นอีกในอนาคต
8. หนึ่งใน pain point ที่คลิปสั้นกำลังเจอคือ toxic content หรือชาเลนจ์ที่เป็นอันตรายอย่างที่เกิดขึ้นบน TikTok (Black out challenge) ทาง YouTube บอกว่าบนแพลตฟอร์มหลักมีไกด์ไลน์คอนเทนต์ ซึ่ง YouTube Shorts ยึดไกด์ไลน์นี้ด้วยเช่นกัน

9. หนึ่งในคำถามน่าสนใจคือ YouTube แฮปปี้หรือไม่ถ้าอนาคตจะได้ชื่อว่าเป็นแพลตฟอร์มคลิปสั้น YouTube มองว่าอยากให้คนอื่นมองเข้ามาว่า YouTube เป็นแพลตฟอร์มแบบมัลติฟอร์แมทมากกว่า คือมีทั้งคลิปยาว คลิปสั้น และไลฟ์ 
10. เมื่อถามว่าอะไรคือจุดแข็งของ YouTube Shorts เทียบกับคู่แข่ง TikTok และ Reels ทาง YouTube บอกว่า จุดแข็งคือ มันสร้างบน YouTube ที่มีทรัพยากรให้ทั้งคลิปยาว นำมารีมิกซ์เป็น Shorts ได้ คือมันสนุก และมันง่ายในการสร้างสิ่งใหม่ และเราสามารถรู้ได้ว่า คลิปต้นทางมาจากไหน