SHARE

คัดลอกแล้ว

เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่เก๋าวงการ สำหรับ ป๋าเต็ด ยุทธนา บุญอ้อม มากความสามารถในการเป็นผู้จัดคอนเสิร์ตระดับแถวหน้าของเมืองไทย กรรมการและคอมเมนเตเตอร์รายการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น The Mask Singer, I can see you voice และอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากงานหน้าจอทีวีแล้ว ป๋าเต็ดยังสวมบทบาทเป็นนักเขียน ในหนังสือเล่มล่าสุด “ป๋าเต็ด TALKS วัยรุ่นเอ๋ย ป๋าเคยมาก่อน” ที่ชวนคุยเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กฝึกงานที่เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ และมองคำว่า  “เด็กฝึกงาน” เป็นคำมหัศจรรย์  ล่าสุดเป็นครั้งแรกที่ป๋าเต็ด ได้ลองเปลี่ยนบทบาทของตัวเอง มาเล่นละครเวทีครั้งแรก ในละครเวที “ชายกลาง เดอะมิวสิคัล” ซึ่งป๋าเต็ดมองว่า การเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในละครเวทีครั้งนี้ เป็นการฝึกหัดให้ตัวเองให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ เราสามารถเป็นเด็กฝึกงานได้ตลอดชีวิต ณ ตอนนี้ เห็นตัวเองเป็นเด็กฝึกงานในละครเวที

เด็กฝึกงาน โอกาสสำคัญในชีวิต

“ผมว่าการเป็นเด็กฝึกงานมันสำคัญมาก คือคำว่าเด็กฝึกงาน มันเป็นคำมหัศจรรย์นะ มันเป็นคำที่เชื่อมเด็กกับงานเข้าด้วยกัน เด็กก็จะมีโลกอีกแบบหนึ่งใช่ไหม  มันจะเป็นความที่ไม่ต้องซีเรียส  งานนี่มันเต็มไปด้วยความซีเรียสอ่ะ งานที่แบบนิดๆหน่อยๆก็ไม่ได้  ไปทำงานสายก็มีสิทธิโดนไล่ออกได้ ถ้าเกิดบริษัทนั้นซีเรียสจริง  แต่เด็กฝึกงานมันเป็นคำที่เชื่อมสองสิ่งนี้เข้าด้วยกัน  ไม่ได้เชื่อมแค่คำ การที่คุณเป็นเด็กฝึกงานแปลว่า ในภาวะที่คุณเป็นเด็ก ที่ทุกคนพร้อมให้อภัยคุณทุกอย่าง แต่คุณได้เข้าไปอยู่ในสถานที่ที่เขาทำงานกันจริงๆ คุณได้เห็นของจริง เมื่อคุณเข้าไปอยู่ตรงนั้น มันอยู่ที่คุณแล้ว ว่าคุณจะทำตัวอย่างไร บางคนอาจจะรู้สึกว่า ก็ไม่เห็นได้ทำอะไรเลยอ่ะ เขาก็ให้ชงกาแฟ ถ่ายเอกสาร ผมก็อยากจะบอกว่า คุณอย่าสำคัญตนขนาดนั้น ไม่ใช่หน้าที่ของเขาเลยที่จะสอนคุณ”

“จริงๆการที่คุณได้โอกาสเข้าไปนั่งอยู่ที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตามนะ มันเป็นสิทธิพิเศษของคุณแล้ว ไม่ใช่ทุกคนนะ  ที่จะได้เข้าไปนั่งอยู่ในตำแหน่งที่คุณนั่งอยู่ โอกาสที่คุณจะได้เรียนรู้มันเกิดจากการที่คุณต้องสังเกต และต้องถาม ผมมั่นใจว่า คุณถามไม่มีใครที่ออฟฟิศนั้นไม่อยากตอบ และไม่ใช่หน้าที่ของเขาด้วย การที่เขาให้พื้นที่คุณ ให้โอกาศคุณไปอยู่ตรงนั้น เป็นเรื่องที่วิเศษที่สุดแล้วนะ อันนี้คือข้อแรกที่เกี่ยวข้องกับเด็กฝึกงาน ที่ผมอยากจะบอกว่า คุณจงฉกฉวย ช่วงเวลานั้นให้เต็มที่ จงตั้งใจซื้อโอเลี้ยงทุกถุง ให้เจ้านายของคุณอย่างดีที่สุด จงถ่ายเอกสารทุกแผ่นอย่างดีที่สุด แล้วก็จงใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ที่สุด สงสัยทุกข้อ ถามทุกข้อ อีกประเด็นหนึ่งก็คือ เมื่อคุณผ่านพ้นจากชีวิตช่วงเด็กฝึกงานมาแล้วเนี่ย  แต่จริงๆแล้วคุณสามารถเป็นเด็กฝึกงานได้ตลอดชีวิตเลยอ่ะ เพราะว่าคำว่าเด็กฝึกงานมันแปลว่า การได้ทดลองทำในเรื่องที่คุณไม่เคยทำมาก่อน ทดลองไปอยู่ในภาวะที่คุณไม่เคยไปอยู่มาก่อน  แม้กระทั่งผมทุกวันนี้ อย่างวันนี้ผมมาเล่นละครเวที ผมก็เป็นเด็กฝึกงานของการเป็นดารา เป็นนักแสดงของละครเวที”

จังหวะและความโชคดีในชีวิต

“ผมถือว่า ชีวิตช่วงนั้นของผมมันวางรากฐานทุกอย่าง ในการทำงานของผมมาจนถึงทุกวันนี้   ตอนนั้นผมเรียนอยู่ที่นิเทศฯ จุฬาฯ ผมโชคดีที่ได้ไปฝึกงานกับพี่เล็ก บุษบา ดาวเรือง เนื่องจากสามีพี่เล็ก คุณ สันติสุข จงมั่นคง เป็นรุ่นพี่ที่คณะ เขากลับมาดูละครเวทีของคณะ บังเอิญเรื่องที่เขามาดู เป็นเรื่องที่ผม เขียนบท ช่วยกำกับ แล้วก็แสดงอยู่ด้วย เขาก็ชอบ เขาก็เลยเรียกทั้งทีมเลย เขาบอกเนี่ยทีมงานละครเรื่องนี้  ช่วยมาคุยที่แกรมมี่หน่อยว่าใครอยากฝึกงานอะไร เขาพร้อมให้ฝึกหมดเลย แล้วด้วยความที่หน้าที่ผมเป็นคนเขียนบท คนกำกับ

โอกาสในการได้ฝึกงานกับพี่เล็ก บุษบา ดาวเรือง

“เขาก็เลยให้ไปฝึกกับพี่เล็ก บุษบา ในช่วงเตรียมงานคอนเสิร์ต แบบเบิร์ดเบิร์ด ตอนจะบินไปให้ไกลสุดขอบฟ้า เพราะว่าหน้าที่ของพี่เล็กก็คือ ทั้งเขียนบท ทั้งกำกับ ทั้งเป็นครีเอทีฟ การไปฝึกกับพี่เล็กเนี่ยก็คือการไปเป็นเบ๊ คำว่าเป็นเบ๊ในที่นี้ก็คือ ก็ตามติดพี่เล็กไปทุกที่ พี่เล็กใช้ให้ทำอะไรก็ทำ ซึ่งส่วนใหญ่เบื้องต้น มันก็จะเป็นงานเบสิคที่เด็กฝึกงานส่วนใหญ่จะต้องเจอ ใช้ไปซื้อของ ใช้ถ่ายเอกสาร ใช้จดงาน แต่ว่าในความที่เราอยู่กับพี่เล็ก ซึ่งเป็นหัวใจของคอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดเนี่ย เราก็เลยโชคดีที่ได้ตามพี่เล็กไปทุกที่ แล้วก็อยู่ในทุกกระบวนการของการทำคอนเสิร์ต  เราก็มีหน้าที่นั่งอยู่ข้างๆพี่เล็ก  ถึงแม้พี่เล็กไม่ได้หันมาบอกเราสักคำนะว่า เต็ด นี่กำลังจะบรีฟโปรดักชั่นดีไซน์เนอร์นะ การบรีฟโปรดักชั่นดีไซน์เนอร์มีดังต่อไปนี้ หนึ่ง สอง สาม สี่  ไม่มีใครมาบอกคุณอย่างนี้หรอกนะ แต่ก็เรานั่งอยู่ตรงนั้นแล้ว เราก็ฟัง และเราก็เห็น และอันไหนที่เราสงสัยเราก็ถาม เมื่อถึงเวลาที่ควรจะถาม เราก็ได้คำตอบทุกอย่าง จริงๆจะว่าไปแล้วผมแทบไม่ได้ถามเลย เพราะว่า คือสิ่งที่เราได้เห็นอยู่มันชัดเจนมาก หลังจากที่เราทำอย่างนี้อยู่ประมาณสอง สาม เดือน เตรียมงานจนในที่สุดแล้ว มันเป็นวันแรกที่จะเป็นการประชุม ทีมงานทั้งหมดของแบบเบิร์ดเบิร์ดตอนนั้น แล้วเป็นวันแรกที่ หลังจากที่คุยทีละทีมมาสามเดือน วันนี้เป็นวันที่แบบทุกคนจะมานั่งอยู่ด้วยกัน และจะเล่าให้ฟังทั้งหมด ซึ่งก็จะเป็นหน้าที่ของพี่เล็กที่จะต้องบอก แต่ว่าพอทุกคนนั่งรวมกัน ผมก็เตรียมจดเหมือนเดิมทุกครั้ง บันทึกการประชุม พี่เล็กก็หันมาทางผม แล้วก็บอกว่า เต็ด เล่าไปเลยว่าคอนเสิร์ตนี้มันคืออะไรบ้าง ผมก็แบบโอโห ไม่ได้เตรียมกันเลย แต่ด้วยความที่เราอยู่กับสิ่งนี้มาตลอด อยู่ทุกกระบวนการ ผมก็เล่าทุกอย่างไปตามขั้นตอนที่เรารู้ว่ามันต้องเป็นยังไงบ้าง เท่าที่เรารู้ แต่ปรากฎว่า เมื่อเล่าเสร็จปั๊ป  พี่เล็กเขาก็ไม่ได้แก้อะไร เขาบอก เออ โอเค ดีมาก คือภาวะตอนนั้นเนี่ย แบบที่เค้าเรียกกันว่า ถูกโยนลงน้ำเนี่ย แล้วให้พยายามตะเกียกตะกาย เอาชีวิตรอด แล้วก็จะเรียนรู้การว่ายน้ำไปเองโดยธรรมชาติ มันเป็นอย่างงั้นนั่นเอง”

เด็กฝึกงานที่มีประสิทธิภาพที่สุด

“จนถึงวันนี้ สิ่งที่ผมเรียนรู้จากไอ้สามเดือนแห่งการเป็นเบ๊ให้กับพี่เล็กนั่นหนะ ผมยังใช้ไม่หมดเลย มันเกิดจากการที่เรา คือผมไม่เคยมั่นใจนะ ว่าผมเป็นคนที่ฉลาดที่สุด เก่งที่สุด ทำคอนเสิร์ตเก่งที่สุดเลย ผมไม่มั่นใจเบอร์นั้น แต่ผมโครตมั่นใจว่าผมเป็นเด็กฝึกงานที่มีประสิทธิภาพที่สุด อันนี้ผมสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า ณ วันที่ผมเป็นเด็กฝึกงาน ผมตั้งใจฝึกงานมาก แล้วผมก็อยากถ่ายทอดไอ้ความรู้สึกแบบนี้ ให้กับน้องๆว่ามันสำคัญนะ”

ยุคใหม่ เด็กไม่ง้อบริษัท

“สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนมากนะ สำหรับผมตอนนี้ก็คือ คนที่ทำบริษัททั้งหลายอย่าได้มั่นใจนะ ว่าเด็กอยากมาทำงานกับคุณ ต่อให้คุณจะเจ๋งแค่ไหนก็ตามที ผมว่าความรู้สึกแรกของเด็กวันนี้ก็คือ ทำยังไงที่เขาจะต้องไม่มาเป็นลูกน้องใครมากกว่า ดังนั้นเนี่ย คุณต้องดูตัวเองก่อนเลย ว่าคุณเจ๋งพอที่เขาจะมาทำงานกับคุณหรือเปล่า คุณมีอะไรให้เขาบ้าง คำว่ามีอะไรให้เขาบ้าง ไม่ได้หมายถึงว่า เรื่องเงินหรือตำแหน่งอะไรนะ แต่ว่าการมาทำงานกับคุณ มันดีกว่าการที่เขาเปิดยูทูปแชลแนล ของตัวเอง  แล้วทำอะไรก็ได้ หรือแบบเขาได้ท่องเที่ยวไปทั่วโลก แล้วยังได้เงินอีกด้วยจากการท่องเที่ยวนั้น และอะไรอีกมากมาย ที่เขาไม่ได้ต้องการจากบริษัทคุณเลย

“ถ้าคุณตอบคำถามนี้ได้ คุณถึงจะเริ่มมองไปว่า แล้วคราวนี้ฉันจะรีครูทใคร ฉันมองหาคนที่มีคุณสมบัติ ลักษณะยังไง มันต้องเริ่มมองตัวเองก่อน คือผมไม่ได้บอกว่าบริษัทผมเนี่ยมีครบแล้ว ทุกวันนี้ผมยังต้องมอง ทุกวันนี้ รับสมัครพนักงานไปเนี่ย ไม่ใช่ว่าจะมีคนเดินมาสมัครแบบมืดฟ้ามัวดินแล้วเรานั่งเลือกได้ มันไม่ใช่เลย ทุกวันนี้เรากำลังแข่งกับความเชื่อของเด็กๆ ที่ว่าเขาไม่จำเป็นต้องมีเจ้านาย เขาสามารถเป็นหัวหน้าตัวเองได้ และเขาสามารถมีชีวิตได้ ในรูปแบบที่ไม่เห็นต้องเหมือนกับคนรุ่นก่อนหน้าเขาเลย”

 ชายกลางเดอะมิวสิคัล การ “ฝึกงาน” ในวงการละครเวทีของป๋าเต็ด

“ใช่ครับ คือถ้าไม่นับละครสมัยนักศึกษา ซึ่งมันเป็นละครสมัครเล่น แล้วมันทำกันแบบบ้าบอคอแตกมาก แต่ว่าอันนี้มันคือโปรดักชั่นแบบ โปรเฟสชั่นแนล เรื่องแรกที่ได้มามีส่วนร่วมเลยหละ แล้วก็โชคดีที่ได้รับบทที่ค่อนข้างสำคัญทีเดียวในเรื่อง ดังนั้นมันเลยทำให้ อย่างแรกเนี่ยตื่นเต้น รู้สึกสนุกมาก ตื่นเต้นมาก ตอนที่น้องเขาชวนมาก็เรียกว่าแทบไม่คิดมากเลย พุ่งเข้าใส่เลยทันที และยิ่งว่ารู้ว่า มันเป็นละครที่เราเคยดูมาก่อน เนื่องจาก ชายกลาง อันนี้เป็นการทำเป็นครั้งที่สามแล้ว รอบแรกตอนเป็นละครสถาปัตย์ ตอนนี้ไม่ได้ดู เป็นละครนิสิตสถาปัตย์ แต่ว่ารอบสองที่เอามาทำเป็นแบบ  โปรเฟสชั่นแนล โปรดักชั่นเนี่ย ได้ดู ตอนนั้นไม่ได้เป็นมิวสิคัล เป็นคุณโน้สเล่น ซึ่งก็ได้ไปดูและรู้สึกชอบมาก คือชอบเนื้อหา และก็ชอบวิธีการเปรียบเทียบ ระหว่างเรื่องจริง ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริงกับชีวิตในนิยาย ที่มันน้ำเน่าเปรียบเทียบกัน แล้วก็มีมุกเสียดสี มีมุกล้อเลียน  ซึ่งสนุกสนานมาก ฮามาก แต่ว่า

มิวสิคัล โอกาสได้ทำอะไรใหม่ๆ

“พอมาเที่ยวนี้มาทำเป็นมิวสิคัลด้วยเนี่ย โอโห อันนี้ยิ่งอยากเล่นใหญ่เลย ทั้งๆที่เขายังไม่ได้บอกเลยด้วยซ้ำไปนะ ว่าจะได้ร้องเพลงหรือเปล่านะ แต่รู้สึกว่าแบบผมเป็นคนชอบดูมิวสิคัลมาก แล้วฝันอย่างหนึ่งตั้งแต่เด็กเลยก็คือ ได้มีบทในมิวสิคัลอ่ะ นิดนึงก็ยังดี ก็โชคดีที่เขาให้ร้องด้วย ดังนั้นระหว่างที่ทำงานอยู่กับโปรดักชั่นของชายกลางเนี่ย มันคือการฝึกงาน การทำละครเวทีเลย คือจริงๆ เคยทำละครเวทีมาก่อน  แต่ก็อย่างที่บอก มันไม่ใช่โปรดักชั่นแบบโปรเฟสชั่นแนล อาจจะเคยทำคอนเสิร์ตแบบจริงๆมาก่อน ทำมิวสิคเฟสติวัลมาก่อน แต่ว่ามันก็ไม่เหมือนกับละครเวที มันเป็นอีกศาสตร์หนึ่ง ก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง บางเรื่องมันไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ แต่ว่ามันเปลี่ยนบทบาทเรา เพราะว่าอย่างตอนที่เราทำคอนเสิร์ตเราไม่ได้เป็นร้องเพลงไง เราเป็นคนอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นมุมมองของเราที่มีต่อโปรดักชั่นมันจะเป็นแบบหนึ่ง แต่พอมาเรื่องนี้ เราเป็นนักแสดง เราเป็นคนยืนข้างหน้า”

 

ติดตามทีเด็ด “ป๋าเต็ดร้องเพลง” ในโชว์

“สำหรับคนที่สงสัยนะครับว่า พอมาอยู่ในมิวสิคัลแล้วเนี่ย ผมต้องร้องเพลงด้วยไหม ก็เฉลยก่อนว่า ร้องครับ ร้องแบบจริงจังมาก อันนี้พูดไปเลยว่าเป็นหนึ่งในเพลงที่ยากที่สุด  ตั้งแต่เคยร้องมา เคยร้องเพลงตามงานรับน้องบ้าง งานคืนสู่เหย้าบ้าง แต่ไม่เคยร้องเพลงยากมากขนาดนี้มาก่อน แล้วยิ่งภูมิใจมากกว่านั้นเมื่อถามคนทำเพลง ซึ่งคนทำเพลงก็ไม่ใช่ธรรมดานะ คุณทฤษฎี ณ พัทลุง อย่างงี้ คุณพิซซ่า นี่ก็เป็นคอมโพสเซอร์ มืออันดับต้นๆ ของเมืองไทย ก็ยังพูดเลยว่า เพลงที่เขาแต่งมาให้ฉากที่ผมต้องร้อง มันเป็นหนึ่งในเพลงที่ยากที่สุดที่เขาเคยแต่งมาเช่นกัน ดังนั้นร้องแน่นอนครับ แล้วก็ไม่สามารถร้องให้ฟังได้ ณ วันนี้ เพราะว่ามันเป็นเพลงที่สำคัญมากครับ คุณต้องมาดูในละครเท่านั้นนะ มันสำคัญพอๆกับฉากจบ Endgame  หรือว่าฉากสำคัญของ Game of Thrones มันไม่สามารถเล่าให้ฟังก่อนได้ครับ”

 

ละครเวที “ชายกลาง เดอะมิวสิคัล”  ละครเพลงจากชีวิตจริงสุดโศกและโลกนิยายสุดฮา ที่รวมทุกความน้ำเน่าของนิยายไทยมาไว้ที่นี่ กำกับการแสดงโดย สังข์ ธีรวัฒน์ อนุวัตรอุดม  และนักแสดงนำอย่าง ชิน ชินวุฒ, ซาร่า นลิน, ป้าไก่ อัญชุลีอร, ลูกหว้า พิจิกา, ตุ๊กตา จมาพร, ป๋าเต็ด ยุทธนา บุญอ้อม และ พีท ปิติพงษ์  เตรียมมาพบกับความสนุกสนาน เรื่องราวอลเวงพร้อมกับความรักและความซึ้งใจ ไปกับพวกเขาเหล่านี้ ในวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม ถึง วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน 2562 จำนวน 8 รอบเท่านั้น ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ สยาม สแควร์วัน ชั้น 7 จองบัตรได้แล้ววันนี้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา โทร. 02-262-3456 หรือที่ www.thaiticketmajor.com

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า