‘เซเลนสกี’ ลั่น ‘ปูติน’ เชื่อถือไม่ได้ ยังไม่ได้คิดเรื่องพบกัน จนกว่ารัสเซียถอนทหารออกจากยูเครน 

‘เซเลนสกี’ เผยยังไม่คิดเรื่องที่จะพบกับ ‘ปูติน’ ลั่นผู้นำรัสเซียเชื่อถือไม่ได้ จะคุยกันต่อเมื่อรัสเซียถอนทหารออกจากยูเครนทั้งหมดแล้ว 

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ให้สัมภาษณ์กับโวล์ฟ บลิทเซอร์ ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น เกี่ยวกับสถานการณ์สงครามยูเครนที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 ปี และยังไม่มีวี่แววว่าจะจบลงในเร็วๆ นี้ 

ในช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ มีการถามถึงความเป็นไปได้ที่จะพบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อหาทางคลี่คลายความขัดแย้ง โดยประธานาธิบดีเซเลนสกีตอบว่า เขายังไม่คิดเรื่องที่จะพบเจอกับประธานาธิบดีปูติน เพราะไม่มั่นใจในตัวผู้นำรัสเซีย ซึ่งเป็นบุคคลที่เชื่อถือไม่ได้ 

“เราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จะคุยอะไรกับประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย เพราะเขาเป็นคนไม่รักษาคำพูด และเราก็ไม่มั่นใจในตัวเขา” ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าว 

ประธานาธิบดีเซเลนสกีระบุว่า “รัสเซียควรออกไปจากดินแดนของเราก่อน หลังจากนั้น เราจึงจะยินดีที่จะใช้เครื่องมือทางการทูต เมื่อถึงตอนนั้น เราจะสามารถหารูปแบบใดๆ ก็ได้ร่วมกับพันธมิตรของเรา”

นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังเล่าถึงการใช้ชีวิตของครอบครัวภายใต้สถานการณ์สงครามซึ่งล่วงเข้าสู่ปีที่ 2 แล้วว่า “ลูกสาวผมเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่นี่ ลูกชายผมก็เรียนอยู่ในโรงเรียนที่ยูเครน พวกเขาทั้งคู่ยังคงอยู่ในยูเครน เหมือนกับเด็กๆ ชาวยูเครนคนอื่นๆ พวกเขาใช้ชีวิตอยู่กับไซเรน”

“เราต้องการชัยชนะ เราไม่ได้ต้องการสงคราม แต่เราก็คุ้นเคยกับความท้าทาย พวกเราทุกคนต้องการแค่สิ่งเดียว เพื่อที่จะยุติสงคราม” 

สำหรับความคืบหน้าสถานการณ์ในยูเครนขณะนี้ ช่วงเช้าวันนี้ (9 มี.ค.) มีรายงานจากสื่อหลายสำนัก และเจ้าหน้าที่ของยูเครนว่า รัสเซียได้ระดมยิงขีปนาวุธถล่มหลายเมืองทั่วประเทศ รวมถึงในกรุงเคียฟ เมืองท่าโอเดสซา ในทะเลดำ และเมืองคาร์คิฟทางตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้มีเสียงไซเรนดังขึ้นทั่วประเทศตลอดช่วงเช้า 

วิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ โพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า “เกิดระเบิดขึ้นที่เขตโฮโลซิฟกา ทางตอนใต้ของเมือง เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายกำลังมุ่งตรงไปที่เกิดเหตุ” และเสริมว่า แหล่งจ่ายไฟฟ้าในกรุงเคียฟมีการตัดการจ่ายไฟล่วงหน้าไปราว 15% ของผู้อยู่อาศัยในเมือง

ส่วนในภาคตะวันออกของยูเครน มีรายงานว่า เมืองคาร์คิฟ และภูมิภาครอบนอก ถูกถล่มด้วยขีปนาวุธอย่างน้อย 15 ลูก ทำให้อาคารพักอาศัยจำนวนมากได้รับความเสียหาย ตามการเปิดเผยของ โอเลห์ ซีเนียฮูบอฟ หัวหน้าฝ่ายบริหารส่วนภูมิภาคคาร์คิฟ 

“โครงสร้างพื้นฐานสำคัญได้กลายมาเป็นเป้าโจมตีของผู้ยึดครองอีกครั้ง”  ซีเนียฮูบอฟระบุในเทเลแกรม แต่ยังไม่มีการเผยรายละเอียดความเสียหายในเมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครนแห่งนี้ 

ด้าน อีฮอร์ เทอเรคอฟ นายกเทศมนตรีเมืองคาร์คิฟ เปิดเผยบนเทเลแกรมว่า “เกิดปัญหาขึ้นกับระบบการจ่ายไฟฟ้าบางส่วนของเมือง” 

ขณะที่ในภูมิภาคโอเดสซา มักซิม มาร์เชนโก หัวหน้าฝ่ายบริหารของภูมิภาคระบุบนเทเลแกรมว่า โรงไฟฟ้าในเมืองถูกขีปนาวุธจำนวนมากถล่ม ทำให้ไฟฟ้าดับ โดยหน่วยต่อต้านอากาศยานสามารถยิงต้านขีปนาวุธไว้ได้บางส่วน แต่อาจจะมีการโจมตีครั้งใหม่ตามมา จึงขอให้ประชาชนหลบอยู่ในที่กำบัง 

ขณะเดียวกัน มีประกาศออกมาจากการรถไฟยูเครนว่า เกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้รถไฟ 5 ขบวนล่าช้ากว่า 1 ชั่วโมง และอีก 10 ขบวนล่าช้านานกว่า 30 นาที 

ทางด้าน ดีเท็ก (DTEK) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตพลังงานเอกชนรายใหญ่ที่สุดของยูเครน ได้ออกมาระบุว่า มีการปิดระบบไฟฉุกเฉินในกรุงเคียฟ, ภูมิภาคดนิโปรเปตรอฟสก์, โดเนตสก์ และโอเดสซา

นอกจากนี้ ยังมีรายงานเกิดเหตุระเบิดในเมืองเชอร์นิฮิฟ ทางตอนเหนือ และเมืองลวีฟ ทางตะวันตกของยูเครน รวมถึงในเมืองดนิโปร ลุตสก์ ริฟเน ขณะที่สื่อยูเครนรายงานเหตุระเบิดเพิ่มเติมเกิดขึ้นในเมืองอิวาโน-ฟรานคิฟสก์ และเมืองเทอร์โนพิลด้วย 

ที่มา CNN, Al Jazeera