Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

หลังกลางดึกของวันที่ 26 มิ.ย. 2564 รัฐบาลออกประกาศห้ามรับประทานอาหารในร้าน 30 วัน เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. 2564 นั้น

บุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ TODAY Bizview ว่าไม่เห็นด้วยกับมาตรการล่าสุดของรัฐ เนื่องจากมองว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับศูนย์การค้า เพราะหากลองเทียบกับดูกับคำสั่งในช่วง มี.ค. – เม.ย. ปีก่อน ที่คำสั่งออกมาคือปิดเลย ทำให้ผู้ให้เช่าพื้นที่ไม่สามารถคิดค่าเช่าจากร้านอาหารได้ พนักงานก็ใช้สิทธิประกันสังคมในการเยียวยา

“แต่วันนี้ผมทำอย่างไร คำสั่งมาแบบนี้ ไม่ได้ปิดร้านอาหาร แล้วผมปิดร้านได้ไหม ปิดร้านได้แต่ถ้าปิด ห้างบังคับผมให้จ่ายค่าเช่าเต็ม แต่ถ้าผมอยู่ต่อ ห้างไม่ลดให้ผม หรือลดให้ผม 60-70% ผู้ประกอบการก็โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง”

บุญยงกล่าวอีกว่า “รัฐบาลคิดอย่างไรถึงเอาคำสั่งนี้มา แล้วก็ให้ผู้ประกอบการร้านอาหารเดือดร้อน ร้านอื่นๆ (ในศูนย์การค้า) ก็เดือดร้อนตามเรานะ เพราะว่าร้านอาหารดึงคนเข้าศูนย์ฯ สังเกตดูวันเสาร์-อาทิตย์คนเดินพลุกพล่านเลย ถามว่าเขามาซื้อของไหม เปล่า เขามากินข้าวแล้วค่อยไปซื้อของ”

“ฟู้ดคอร์ทไปปิดเขาทำไม ได้ไปดูหรือเปล่าว่าวันนี้เขาตั้งแผ่นกั้นหมดแล้ว รัฐบาลไปเดินดูบ้างหรือเปล่าว่าร้านอาหารเขาทำแบบนี้หมดแล้ว เรามีระยะห่าง เรามีปริมาณทราฟิกไม่ได้เต็มเหมือนเมื่อก่อน แต่รัฐบาลกำลังจินตนาการว่าร้านอาหารเราคือคลับหรือเปล่า หรือว่าเป็นพวกอิซากายะที่ดื่ม พูดคุย สังสรรค์ กินเหล้า มันไม่ใช่แบบนั้น”

บุญยงกล่าวต่อว่า ร้านอาหารมีหลายแบบ และผู้บริโภคเองก็มีการปรับตัว คือไม่ใช่นั่งแช่ แต่กินเสร็จแล้วก็กลับ ทั้งยังใส่หน้ากากอนามัยทันทีตามมาตรการที่บังคับ ขณะที่พนักงานก็ได้รับวัคซีนกันเกือบครบแล้ว ลูกค้าที่เข้าร้านหลายคนก้ได้รับวัคซีนแล้วเช่นกัน

“ผมคิดว่าออกมาตรการแบบนี้ ผมว่าทำให้ผู้ประกอบการล้มทั้งยืน เพราะเราไม่รู้ว่าจะไปทำอย่างไรต่อ เนื่องจากว่าปัญหาคือปิดคำสั่งแบบนี้ปุ๊บ รายได้เราหายไป 70-80% เพราะโมเดลบางโมเดลอย่างรายที่ขายบุฟเฟ่ต์ จะทำอย่างไร อย่างของผม มีบางโมเดลที่สามารถทำเดลิเวอรี่ได้ แต่บุฟเฟ่ต์ผมทำไม่ได้เลย”

บุญยงระบุว่า สำหรับการปรับตัวเพื่อรองรับมาตรการดังกล่าวของเซ็น คอร์ปอเรชั่น แบ่งออกตามโมเดลของร้านอาหารและทำเลที่ตั้งของสาขา โดยปิดให้บริการรูปแบบร้านที่เป็นบุฟเฟ่ต์ ส่วนร้านเขียงซึ่งเป็นร้านที่โมเดลรองรับเดลิเวอรี่อยู่แล้วก็เปิดตามปกติ

ขณะที่ร้านอื่นๆ นั้นดูเป็นสาขาไป เนื่องจากแต่ละสาขามีทราฟิกไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับโลเคชั่นของสาขานั้นๆ ซึ่งหากสาขาใดไม่คุ้มค่าก็จะปิดให้บริการ ซึ่งมองว่าเชนอื่นๆ น่าจะคิดเหมือนกัน และหากร้านอาหารปิดหมด ศูนย์การค้าก็จะเดือดร้อน เพราะเมื่อไม่มีร้านอาหาร คนก็จะไม่เดินห้างสรรพสินค้า สุดท้ายก็จะเหมือนล็อกดาวน์ไปในตัว

“ผมต้องดีไซน์แบบนี้ ระลอกก่อนๆ มาตรการที่ออกมาระยะมันแค่สั้นๆ เราก็ยังประคับประคองเปิดร้านได้ แต่ประกาศครั้งนี้ 30 วัน แล้วมาตรการช่วยเหลือไม่มี แต่ค่าใช้จ่ายมันรออยู่แล้ว แต่รายได้หายไป 80% คนก็ล้มทั้งยืนหมด ธุรกิจร้านอาหารนี่ผมว่าถ้าเป็นรายเล็กจริงๆ เขาไปก่อนเลย เพราะสภาพคล่อง รายใหญ่แบบเรา 2-3 เดือนก็ไปแล้ว ผมว่าเราอยู่ได้แค่ 2 เดือน ถ้าปิดร้านแบบนี้ เพราะฉะนั้นเดือนหน้าอาจต้องวางแผนเงินกู้ เพราะเราไม่มีหนี้ มันกระทบเป็นสเต็ปๆ ไป”

บุญยงยังกล่าวถึงกรณีมาตรการเยียวยาที่เพิ่งออกมาล่าสุดด้วยว่าไม่ช่วยอะไรได้เท่าไหร่นัก เนื่องจากเซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป มีพนักงานกว่า 3,000 คน ขณะที่รัฐบาลเยียวยาให้สูงสุด 200 คนเท่านั้น ดังนั้น มาตรการเยียวยานี้จึงส่งผลดีกับผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่ได้อยู่ในศูนย์การค้ามากกว่า ดังนั้น รัฐจึงควรออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในศูนย์การค้า และนำโมเดลธุรกิจมาพิจารณาด้วย

“ผมว่าวันนี้เราไม่ต้องการเอาเงิน แต่เราต้องการให้ช่วยเราเยียวยาในเรื่อง fix cost, ค่าเช่า, ค่าแรง พวกนี้ต่างหาก เอาเงินมาจะเอาไปทำอะไร เพราะไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย เรามีคนอยู่ทั้งหมด 3,000 กว่าคน แต่ให้เรา 200 คน เราจะไปช่วยใคร ช่วยแค่ 200 คน แต่ที่เหลือไม่ช่วย มันทำไม่ได้ ผมว่ารัฐบาลเกาไม่ถูกที่คัน”

บุญยงยังทิ้งท้ายถึงอีกว่า “รัฐบาลคงต้องเข้าใจผู้ประกอบการ การตัดสินใจต้องมีเวลาให้เราปรับตัวบ้าง ให้เราเตรียมตัว วางแผน อย่าลืมว่าทุกธุรกิจมันมีเรื่องของคน เรื่องสินค้าที่เราเอามาขาย เราอยากให้รัฐบาลมองเห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น”

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า