ตัวอย่างการตลาดคริปโต ทำยังไงให้คนเห็นเยอะๆ

การตลาดธรรมดาก็ว่าดุเดือดแล้ว แต่การตลาดในธุรกิจคริปโตเคอเรนซีถือว่าดุเดือดกว่า แต่ละบริษัทต่างก็เล่นใหญ่เพื่อที่จะดึงดูดความสนใจนักลงทุนรายใหม่ที่อยากเข้าวงการคริปโตที่กำลังมาแรง 

อย่างที่ใกล้ตัวเราที่สุดก็คือป้ายโฆษณาบิทคับ เพราะไม่ว่าเราจะไปไหน ทั้งถนนหนทาง ทางด่วน รถไฟฟ้า หรือแม้แต่ลิฟต์ในคอนโดก็เป็นต้องเจอป้ายโฆษณาบิทคับเข้ามาเตะตาเราเสมอ 

ในโพสต์นี้ TODAY Bizview จะมาฉายภาพให้เห็นชัดขึ้นว่าแต่ละบริษัทเทรดรายใหญ่ ทั้งไทยและต่างประเทศ เขาลงทุนการตลาดด้วยวิธีใดบ้าง 

1) Bitkub อย่างที่กล่าวไปแล้วคือ กุลยุทธ์การตลาดของบริษัทเน้นที่การทำโฆษณาผ่านป้ายต่างๆ ไม่ว่าจะไปที่ไหน 

ซึ่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว (2020) Bitkub ประกาศกลยุทธ์ขึ้นป้ายโฆษณาทั่วกรุงเทพฯ ภายใต้แคมเปญ “นึกถึง Bitcoin คิดถึง Bitkub” ด้วยการขึ้นป้ายโฆษณาทั้งในรูปแบบป้าย Billboard, จอ LED บนรถไฟฟ้า BTS และรถไฟใต้ดิน MRT รวมถึงป้ายอัพเดทราคา Bitcoin กันแบบรายวันตามจุดสำคัญต่างๆทั่วกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ตัวผู้ก่อตั้ง Bitkub หรือ ทอป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ยังมีส่วนช่วยให้ Bitkub เป็นที่รู้จักในตลาดมากขึ้นด้วยการสร้างตัวตนหรือ personal branding เป็นอินฟลูเอนเซอร์ในวงการคริปโต 

อีกความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของ Bitkub คือไปร่วมมือกับโรงเรียนอัสสัมชัญ สอนความรู้ในเรื่องคริปโตและบล็อคเชน จัดเต็มตลอดภาคเรียนที่ 2/2654 ให้กับนักเรียนระดับชั้น ม.ปลาย ที่สนใจ เป็นการสร้างความรับรู้แก่คนรุ่นใหม่

2) Zipmex เป็นอีกผู้ทำธุรกิจให้บริการด้านการลงทุนและสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ทำการตลาดในไทยหนักด้วยการพยายามเข้าไปจับมือกับพาร์ทเนอร์ที่เก่งเรื่องโฆษณาอย่าง Plan B เปิดตัวโฆษณาสื่อนอกบ้านในรูปแบบ 3 มิติ บนหน้าจอ Out of Home Screen ลานพารากอน และ  แสดงโฆษณาในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ในไทยกว่า 80 หน้าจอ เพื่อฉลองการเปิดตัว Zipmex Day อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกเมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว 

Zipmex ยังร่วมมือกับสยามพิวรรธน์ เจ้าของห้างพารากอน จัดอีเว้นท์พิเศษ Crypto Arcade และ Experience Center เกี่ยวกับคริปโตกลางห้าง เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ให้แก่ผู้ที่เดินผ่านไปมา 

3) Binance ขึ้นชื่อว่าเป็นแพลตฟอร์มเทรดรายใหญ่ของโลก ก็จะมีแต่ความเคลื่อนไหวที่ไม่ธรรมดา ล่าสุดคือ ลงทุนใน Forbes นิตยสารเก่าแก่เป็นมูลค่าร่วม 200 ล้านดอลลาร์ หรือตีเป็นเงินไทยกว่า 6 พันล้านบาท 

ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ทรงพลัง เพราะ Forbes เองก็มีความโดดเด่นเรื่องคอนเทนต์การเงินการลงทุนอยู่แล้วด้วย ซึ่งคาดว่า Binance จะใช้  Forbes เป็นช่องทางในการเข้าถึงคนได้อีกมากจากฐานผู้อ่านที่มีอยู่ทั่วโลก 

4) FTX บริษัทเทรดคริปโตในสหรัฐฯ เล่นใหญ่ด้วยการประกาศสุ่มแจกบิทคอยน์ให้ผู้โชคดี ในการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลประจำปีของสหรัฐหรือซูเปอร์โบวล์ 

โดยมีเงื่อนไขคือ ต้องเป็นพลเมืองอเมริกาโดยถูกกฎหมาย ยกเว้นชาวเมืองนิวยอร์ก, ต้องรีทวีตโพสต์ที่ FTX ปักหมุดไว้บนทวิตเตอร์ ระหว่างที่โฆษณาของ FTX ออกอากาศในการแข่งขัน, รับรางวัลผ่านบัญชีที่เปิดกับ FTX โดยจะเปิดก่อนหรือหลังประกาศรางวัลก็ได้

FTX ใช้กลยุทธ์ทุ่มเงินมหาศาลในวงการกีฬา เพื่อสร้างชื่อให้ตัวเองเป็นที่รู้จักมากขึ้น อย่างก่อนหน้านี้ก็เคยดึงดารา NFL อย่าง ‘ทอม เบรดี้’ มาใช้โฆษณา, เป็นสปอนเซอร์ให้กับการแข่งขัน Major League Baseball ด้วย 

5) Crypto.com เป็นอีกแพลตฟอร์มเทรดที่มีผู้ใช้หลักล้าน มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ โดยแนวทางการตลาดของบริษัทใช้แนวดึงอินฟลูเอนเซอร์ในหลากหลายวงการมาแสดงโฆษณา 

ล่าสุดดึงตัวนักบาสชื่อดังอย่าง LeBron James มาแสดงโฆษณาภายใต้ชื่อ “The Moment of Truth” โดยเซตฉากให้เป็น James คุยกับตัวเองในสมัยเด็ก พูดถึงแนวคิดในการตัดสินใจชีวิตตัวเอง ตัวโฆษณายังฉายในช่วงพักของซูเปอร์โบวล์ที่มีราคาแพง แต่สามารถเข้าถึงคนชมกีฬาทั่วโลก 

ก่อนหน้านี้ Crypto.com ยังดึง Matt Damon ดาราฮอลลีวูดมาแสดงโฆษณา “Fortune Favors the Brave” ที่มีการเปรียบเทียบการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลกับการสำรวจอวกาศด้วย

นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งของการตลาดในวงการคริปโตทั้งในไทยและต่างประเทศ ที่ทุ่มทุนในการตลาดอย่างหนัก เพื่อช่วงชิงพื้นที่จากนักเทรดทั้งหน้าใหม่ หน้าเก่า ท่ามกลางเทรนด์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มากขึ้น รวมถึงความผันผวนก็มากขึ้นด้วย 

ที่มา : Bitkub, Adweek, Workpoint TODAY 1, 2