จับแล้ว ! คนขับกระบะซิ่งชน จยย. ลากไกลกว่า 50 ม. จนเสียชีวิต

ประเด็นคือ – ตำรวจจับคนขับรถกระบะซิ่งชนจักรยานยนต์แล้วลากยาวกว่า 50 เมตร จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ได้แล้ว หลังไปหลบซ่อนตัวที่บ้าน

จากกรณีที่เมื่อเวลา 00.54 น. ของวันที่ 20 ก.ย. 60 ที่ผ่านมา บนโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอรถกระบะแต่งซิ่งสีขาว โหลดเตี้ย ที่ขับออกมาจากสถานบันเทิงด้วยความเร็ว โดยมี นายชาญณรงค์ คล่องรับ อายุ 38 ปี เป็นคนขับ ได้ชนเข้ากับรถมอเตอร์ไซค์ที่ขี่มาจากหอเพื่อจะไปสถานบันเทิงใน อ.เชียงราย จนทั้งคนขี่ (คือ นายชินดนัย หน่อหล้า อายุ 20 ปี) และคนซ้อนมอเตอร์ไซค์ (ชื่อ น.ส.เนติกานต์ ต้าวก๋า อายุ 20 ปี) ติดอยู่กับกระบะที่ไม่จอดรถลงมาดูความเสียหาย ซ้ำยังลากร่างคนทั้งคู่ไปไกลกว่า 50 เมตร จนสุดท้ายคนซ้อนท้าย (น.ส.เนติกานต์) กระเด็นตกจากรถเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถและถูกรถกระบะทับและลากไปจนเสียชีวิตในเวลาต่อมาขณะนำตัวส่งโรงพยาบาล

นายชาญณรงค์ คร่องรับ ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 

ล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา (20 ก.ย. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.สุภาพ เขื่อนแก้ว รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย ได้นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายชาญณรงค์ คร่องรับ อายุ 38 ปี ชาว จ.เชียงราย ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ชนและหนี มาทำการสอบปากคำ

โดยการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากที่ตำรวจได้สืบทราบว่า รถกระบะคันดังกล่าวถูกนำไปจอดไว้ที่บ้านเลขที่ 120 ม.8 ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย จึงได้นำกำลังไปยังบ้านหลังดังกล่าว  และได้พบกับ นายโทน คร่องรับ ซึ่งเป็นบิดานายชาญณรงค์และเป็นเจ้าของรถคันก่อเหตุ แต่ไม่พบรถกระบะคันก่อเหตุ

เจ้าหน้าที่จึงสอบถาม นายโทน ผู้เป็นบิดา โดยนายโทนให้การว่า วันที่เกิดเหตุ (19 ก.ย.) นายชาญณรงค์ ได้ขับรถคันดังกล่าวไปเที่ยวในเมืองและกลับเข้าบ้านกลางดึกหลังเที่ยงคืนวันที่ 20 ก.ย. และในตอนเช้าขณะที่ตนทำความสะอาดรถก็เห็นรอยเฉี่ยวชนบริเวณด้านหน้ารถ จึงสอบถามลูกชาย ซึ่งนายณรงค์ศักดิ์กลับบอกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ขับรถไปชนรั้วบ้านผู้อื่น

รถกระบะคันก่อเหตุ

ขณะที่เจ้าหน้าที่พูดคุยกับนายโทนอยู่นั้น นายชาญณรงค์ได้ขับรถเข้ามาพอดี จึงทำการจับกุมตัวนายชาญณรงค์ พร้อมยึดรถกระบะโตโยต้า วีโก้ คันก่อเหตุไว้ได้

จากการสอบปากคำ นายชาญณรงค์ ได้ให้การสารภาพว่า เป็นผู้ขับรถกระบะไปชนรถจักรยานยนต์ที่วิ่งมาทางตรงจริง จนเป็นเหตุให้เกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บ แต่ที่ไม่ยอมหยุดรถเพราะตนเองตกใจ และเกรงว่าหากลงจากรถจะถูกทำร้ายร่างกาย จึงขับรถหลบหนีไป

ทางตำรวจจึงทำการแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายชาญณรงค์ว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ขับรถในทางก่อให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินแก่ผู้อื่น โดยไม่หยุดรถช่วยเหลือ ไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน และชนแล้วหลบหนี จากนั้นจึงทำการควบคุมตัวนายชาญณรงค์ไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป