ประเด็นคือ – แท็กซี่ที่ทิ้งหญิงสาวข้างมอเตอร์เวย์ถูกจับแล้ว ตะลึงพบยาไอซ์พร้อมอุปกรณ์เสพในรถ ด้านเจ้าตัวรับสารภาพว่าเสพจริง และเสพทุกวันจนขอบตาคล้ำ
จากกรณีที่มีหญิงสาวรายหนึ่งออกมาโพสต์คลิปวิดีโอ ระบุว่า เรียกใช้บริการรถแท็กซี่ในสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อให้ไปส่งที่ย่านห้วยขวาง กทม. แต่เมื่อรถออกมาจากสนามบินกลับพบว่าคนขับได้เรียกค่าโดยสารจำนวน 500 บาท และไม่กดมิเตอร์ ทำให้หญิงสาวรายนี้ไม่ยอมจ่าย จึงถูกคนขับปล่อยทิ้งไว้ข้างมอเตอร์เวย์ โดยคลิปดังกล่าวมีผู้เข้ามากดแชร์จำนวนมาก
ล่าสุดวันนี้ (16 เม.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจท่องเที่ยว กองกับกำการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ประจำสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ติดตามและจับกุมตัวผู้ขับขี่พร้อมรถแท็กซี่คันดังกล่าวได้แล้ว ทราบชื่อคือ นายบุญช่วย พิมพ์นนท์ อายุ 37 ปี
โดยตำรวจท่องเที่ยวนำโดย พ.ต.อ.อำนาท โฉมฉาย ผกก.3 บก.ทท1 พ.ต.ท.ประยูร ปักอินทรีย์ สว.กก.-3ทท.1 ได้ตรวจค้นภายในรถ พบยาไอซ์บรรจุในถุงพลาสติกใสจำนวนหนึ่ง พร้อมอุปกรณ์การเสพ จึงได้สอบถามคนขับ แต่เจ้าตัวปฏิเสธ จึงสอบเค้นจนยอมรับสารภาพว่า ยาเสพติดดังกล่าวเป็นของตนเองจริง แต่ตนไม่อยากถูกดำเนินคดี จึงยืนข้อเสนอติดสินบนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จำนวนเงิน 5,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำ
นายบุญช่วย ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ตนเองติดยาเสพติดชนิดยาไอซ์มานานหลายปี โดยจะต้องเสพทุกวัน ซื้อมาในราคาถุงละ 200 บาท วันเกิดเหตุตนเองมาส่งผู้โดยสารที่สนามบินสุวรณภูมิ ระหว่างจะออกรถ มีเพื่อนแท็กซี่มาชักชวนให้ลงมารับผู้โดยสารด้านล่าง เนื่องจากรถไม่เพียงพอ ตนเองจึงลงมา จนรับหญิงสาวคนดังกล่าว หลังจากออกจากสนามบิน ตนจึงเรียกเก็บค่าโดยสารจำนวน 500 บาทจริง เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล ตามที่ปรากฏในคลิป นายบุญช่วยยังบอกอีกว่า ในช่วงเทศกาลต่างๆ จะใช้วิธีเรียกเหมา ไม่ต้องกดมิเตอร์ ซึ่งแท็กซี่ส่วนใหญ่ที่ตนเคยเห็นมาก็จะเป็นเช่นนี้ จึงทำตาม ส่วนใบขับขี่หน้ารถที่ไม่ตรงกัน เพราะเป็นใบขับขี่คู่กะกันเท่านั้น
ด้านตำรวจได้ตั้งข้อหาหนัก คือ ขับรถโดยมียาเสพติดไว้ในความครอบครอง ติดสินบนเจ้าพนักงาน ข้อหาไม่ส่งผู้โดยสารให้ถึงจุดหมายปลายทาง และข้อหาไม่ใช้มาตราค่าโดยสาร พร้อมเสนอขนส่งพิจารณายกเลิกใบอนุญาตขับขี่