ญาติร้อง ตร.ช่วยรื้อคดี “เสี่ยไร่อ้อย” หลานชายตระกูลดัง เชื่อถูกฆาตกรรม ไม่ใช่อุบัติเหตุ

ประเด็นคือ – ญาติและครอบครัวของ “เสี่ยไร่อ้อย” หลานชายตระกูลค้าวัสดุก่อสร้างชื่อดัง นำเอกสารพร้อมหนังสือขอความเป็นธรรมยื่น ผบก.ภ.จว.กาญจบุรี ให้ช่วยตรวจสอบและรื้อฟื้นคดีการเสียชีวิตของเสี่ยไร่อ้อย หลังตำรวจสรุปเป็นอุบัติเหตุ แต่ครอบครัวเชื่อถูกฆาตกรรมหลังพบพิรุธหลายจุด

วันที่ 7 ตุลาคม 2560 นางอุไธ ธำรงสกุลศิริ อายุ 47 ปีพร้อมด้วยญาติพี่น้องทั้ง 12 คน ของนายเจียนวาด แซ่โก เสี่ยใหญ่เจ้าของธุรกิจไร่อ้อยกว่า 400 ไร่ ในพื้นที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในทายาท จำนวน 13 คน ของตระกูล ก วัฒนา ตระกูลค้าวัสดุก่อสร้างชื่อดังในจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางขอเข้าพบ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อขอให้มีการตรวจสอบและรื้อฟื้นคดีการเสียชีวิต ของนายเจียนวาด แซ่โก ที่ถูกพบเป็นศพเสียชีวิตอยู่ภายในคลองซอยส่งน้ำ ต.อุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา เมื่อวันที่ (24 เม.ย.60) โดยทางญาติพี่น้องของนายเจียนวาด ได้นำเอกสารเป็นภาพถ่ายในวันพบศพของนายเจียนวาด ภาพถ่ายที่เกิดเหตุและใบชันสูตรศพของแพทย์เวรโรงพยาบาลมะการักษ์ มาให้ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีได้พิจารณา

นางอุไร  เผยว่า เหตุผลที่มายื่นหนังสือต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีในครั้งนี้ ก็เพราะอยากให้ท่านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีให้ความเป็นธรรมกับนายเจียนวาด ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิต เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรท่าเรือ ซึ่งเป็นเจ้าของคดีได้ลงความเห็นว่านายเจียนวาด เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ ท่ามกลางความเคลือบแคลงสงสัยของบรรดาญาติทั้ง 12 คน สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเหตุการณ์ในครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่สถานที่เสียชีวิต ซึ่งเป็นคลองซอยส่งน้ำใกล้บ้านของผู้เสียชีวิตเอง จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ผู้เสียชีวิตจะขับขี่รถจักรยานยนต์เร็วถึงขนาดตกลงไปในคลองและได้รับบาดเจ็บถึงขั้นเสียชีวิต

อีกทั้งตามตัวของผู้เสียชีวิตก็ไม่พบบาดแผลที่คล้ายกับการประสบอุบัติเหตุ เนื่องจากตามแขนขาและลำตัวไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด พบเพียงบาดแผลลึกคล้ายถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณหน้าผากด้านซ้าย กกหูขวาและดั้งจมูกซึ่งถูกตีจนหัก ซึ่งไม่ใช่บาดแผลที่เกิดจากอุบัติเหตุอย่างแน่นอน ประกอบกับสภาพของรถจักรยานยนต์คันที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งไม่มีร่องรอยการชนหรือร่องรอยการล้มแต่อย่างใด บรรดาญาติพี่น้องจึงเชื่อว่านายเจียนวาดเสียชีวิตเนื่องจากถูกกลุ่มบุคคลลอบทำร้าย เนื่องจากช่วงเกิดเหตุเป็นเวลาเช้ามืด ที่นายเจียนวาดขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาปล่อยน้ำเข้าไร่อ้อยตามลำพัง จึงน่าจะถูกดักทำร้ายและนำศพพร้อมรถจักรยานยนต์มาทิ้งในจุดพบศพ เพื่อจัดฉากว่าเป็นอุบัติเหตุ โดยทางญาติพี่น้องเชื่อว่า ปมเหตุการณ์สังหารน่าจะมาจากเรื่องของการขัดแย้งเรื่องการรับจำนองที่ดินของผู้เสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ ทางแพทย์เวรโรงพยาบาลมะการักษ์ที่ชันสูตรศพในสถานที่เกิดเหตุลงความเห็นว่า นายเจียนวาดเสียชีวิตจากการถูกของแข็งกระแทกที่ศรีษะ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีได้ลงความเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ

ที่ผ่านมา ทางญาติพี่น้องพยายามที่จะขอนำศพนายเจียนวาดไปชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียด แต่ภรรยาของนายเจียนวาดไม่ยินยอมและขอให้มีการนำศพกลับมาประกอบพิธีฌาปนกิจโดยเร็ว จนเกิดการโต้เถียงกับญาติพี่น้องหลายครั้ง ในที่สุดทางญาติพี่น้องทั้ง 12 คน ตัดสินใจร่วมกันที่จะนำเรื่องมายื่นต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อขอความเป็นธรรมดังกล่าว

ด้าน พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า หลังได้รับหนังสือและรับฟังข้อมูลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ตนจะได้สั่งการให้ทางตำรวจเจ้าของคดีนำเอกสารหลักฐานและข้อมูลทั้งหมดมาให้ทางตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีตรวจสอบอีกครั้ง โดยตนจะกำกับดูแลเป็นพิเศษ หากพบว่ามีข้อน่าสงสัยว่าอาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุตามที่กลุ่มญาติพี่น้องสงสัย ก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป