ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เตรียมคุมตัว ร.ท.ควงปืนบุกเดี่ยวปล้นแบงค์กรุงไทยบนศาลากลางจังหวัด จี้ชิงเงิน 1 ล้านบาท ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บ่ายวันนี้ ขณะต้นสังกัดสั่งพักราชการไว้ก่อนจนกว่าคดีจะสิ้นสุด หากก่อเหตุคนเดียวจะถูกส่งตัวขึ้นศาลทหาร แต่หากมีผู้พลเรือนร่วมกระทำผิดด้วยต้องถูกส่งตัวศาลปกติ ธนาคารเปิดทำการปกติมี ตร.ดูแล
วันนี้ (26 ธ.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 3 ชุดสืบจังหวัดบุรีรัมย์ สภ.เมืองบุรีรัมย์ และตำรวจกองปราบ สามารถติดตามจับกุม ร.ท.จารุภูมิ ปานาโต ทหารสังกัดค่ายแห่งหนึ่งที่ถูกส่งตัวมาช่วยราชการในพื้นที่จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุบุกเดี่ยวเข้าไปใช้อาวุธปืนพกสั้น จี้ชิงเงินพนักงานธนาคารกรุงไทยสาขาย่อยศูนย์ราชการจังหวัด กวาดเงินสดไป 1 ล้านบาท ได้เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ขณะขับรถกระบะยี่ห้อมาสด้าสี่ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน กฉ-9947 บุรีรัมย์ ผ่านด่านตรวจจราจรที่บริเวณถนนรอบเมืองใกล้กับสำนักงานเทศบาลตำบลอิสาณ ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิด รถที่เข้า-ออกศาลากลางจังหวัดช่วงใกล้เวลาที่เกิดเหตุ
ล่าสุด วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมนำตัว ร.ท.จารุภูมิ ผู้ต้องหา ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่ห้องควบคุมสถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่าขณะถูกควบคุมตัวมีเพียงภรรยาเดินทางมาเยี่ยมเท่านั้น
ทั้งนี้ จากการสอบถามไปยังต้นสังกัดทราบว่าหลังจาก ร.ท.จารุภูมิ ถูกจับกุมและยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุชิงทรัพย์เงินธนาคารจริง ก็ได้สั่งให้พักราชการไว้ก่อน พร้อมทั้งได้ตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยตามขั้นตอนด้วย ซึ่งหาก ร.ท.จารุภูมิ ก่อเหตุคนเดียวก็จะถูกส่งตัวขึ้นศาลทหาร แต่หากมีพลเรือนร่วมในการกระทำผิดด้วย ก็ต้องถูกดำเนินคดีศาลปกติเหมือนบุคคลทั่วไป
ส่วนเงินที่ ร.ท.จารุภูมิ จี้ชิงไปจำนวน 1,000,000 บาทนั้น เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดคืนมาได้แล้ว 850,000 บาท คือ ซ่อนไว้ในบ้านพัก 500,000 บาท ฝังดินไว้ในป่าหลังบ้าน 300,000 บาท และเก็บไว้ในรถยนต์คันที่ใช้ประกอบเหตุอีก 50,000บาท ส่วนอีก 150,000 บาทที่ผู้ต้องหาอ้างว่า นำไปใช้หนี้แล้วก็จะตรวจยึดกลับมาคืนเช่นกัน เนื่องจากเป็นเงินของกลาง
ส่วนบรรยากาศที่ธนาคารกรุงไทยสาขาศูนย์ราชการที่เกิดเหตุนั้น ก็ยังเปิดทำการตามปกติโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเฝ้าดูแลรักษาความปลอดภัยภายในธนาคาร 1 นาย ส่วนบรรยากาศที่ศาลากลางก็ยังคงมีเจ้าหน้าที่ อส.ดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณด้านหน้าและด้านหลังศาลากลางวันละ 4 นายตามปกติ ส่วนจะมีการจัดเจ้าหน้าที่มาดูแลรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ยังอยู่ระหว่างการหารือของทางจังหวัด