‘บิ๊กโจ๊ก’ รับตัว 6 ผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทย จากฟิลิปปินส์ กลับมาดำเนินคดีในไทย

เจ้าหน้าที่รุดสุวรรณภูมิ รับตัวผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทย จากประเทศฟิลิปปินส์ กลับมาดำเนินคดีในไทย หลังตั้งฐานกลางกรุงมะนิลา หลอกเหยื่อคนไทยนาน 1 ปี

วันที่ 25 ก.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 00.30 น. พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการ ตำรวจท่องเที่ยว เดินทางมาคุมตัวหญิงและชายไทย 6 คน ที่ถูกทางการฟิลิปปินส์ส่งตัวกลับมาให้ตำรวจท่องเที่ยว กองกำกับการ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังทั้งหมดถูกตำรวจไทยร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงยุติธรรม ประเทศฟิลิปปินส์ บุกเข้าจับกุมพร้อมชาวไต้หวัน อีก 3 คน ที่ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในเขตอาราบัง กรุงมะนิลา เมื่อกลางมิถุนายนที่ผ่านมา หลังพบว่าสถานที่นี้ เป็นศูนย์สั่งการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงคนไทยมานานกว่าหนึ่งปี

โดยสามารถยึดอุปกรณ์สื่อสารทั้ง คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, ซิมโทรศัพท์พร้อมใช้งาน, สมุดบัญชีธนาคาร นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบโพยรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูง รวมถึงบทพูดคุยระหว่างแก๊งคอลเซ็นเตอร์กับเหยื่อที่กำหนดไว้ เช่น จากหน่วยปราบปรามยาเสพติด หน่วยปราบปรามการฟอกเงิน นอกจากนี้ยังพบคนไทย 16 คน ทำหน้าที่โทรศัพท์หาเหยื่อปลายทางในประเทศไทย และมีชายชาวไต้หวัน 3 คน ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมและสั่งการ

พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการ ตำรวจท่องเที่ยว ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชน ผ่านระบบโทรศัพท์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า คนไทยกลุ่มนี้เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับกุมของศาลอาญาในหลายข้อหา เช่น ร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยส่วนใหญ่ทำหน้าที่โทรศัพท์หลอกเงินจากคนไทย อ้างปัญหาการส่งสินค้ากลับต่างแดน แม้จะอ้างว่า ถูกหลอกมาทำงาน แต่การตรวจสอบพบว่ามีการเดินทางเข้า-ออก ระหว่าง ไทยและฟิลิปปินส์หลายครั้ง โดยผู้ต้องหากลุ่มนี้ หลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ด้วยการเปลี่ยนวิธีโอนเงิน จากที่เคยกดเงินในไทย ก็หันไปใช้อีแบงก์กิ้ง สามารถทำรายการได้ทั่วโลก

โดยหลังการสอบสวนขยายผล พนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อส่งตัวขออำนาจศาลฝากขัง ตามขั้นตอนต่อไป