Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ตำรวจท่องเที่ยวร่วมมือตำรวจเวียดนาม บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวไทยจากประเทศเวียดนาม ในห้องพักหรู กลางกรุงโฮจิมินห์ พบหลอกเหยื่อโอนเงิน สูญนับ 50 ล้านบาท

วันที่ 25 ส.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.00 น. ที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ขาเข้าชั้น 1 อาคาร 1 สนามบินดอนเมือง พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ในฐานะรอง ผอ.ศปอส.ตร. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำกำลังอรินทราช รับตัวผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทย จากประเทศเวียดนาม จำนวน 19 คน ซึ่งมีหมายจับศาลอาญารัชดา ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

สืบเนื่องจากชุดทำงาน ศปอส.ตร. ที่มี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ในฐานะรอง ผอ.ศปอส.ตร. ประสานความร่วมมือทางการสืบสวนกับ พ.ต.อ.(พิเศษ) ทราน วาน โฮ ผู้กำกับการ กองบังคับการความมั่นคงอินเทอร์เน็ตและป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี ก่อนสนธิกำลังเจ้าหน้าที่กระทรวงตำรวจ และกองบังคับการความมั่นคงอินเทอร์เน็ตและป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม กว่า 100 นาย บุกทลายขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในห้องพักหรู ภายในโครงการวินโฮมส์ เซ็นทรัล พาร์ค ใจกลางกรุงโฮจิมินห์ ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหา ทั้งชาวไทยและชาวไต้หวัน เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ เผยว่า จากการได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทย และจากการสืบสวนทราบว่า ใช้ประเทศเวียดนามเป็นฐานปฏิบัติการ เพื่อโทรศัพท์มาหลอกเหยื่อที่เป็นคนไทย ซึ่งทำเป็นขบวนการและได้ก่อเหตุมาหลายประเทศ อีกทั้งหนึ่งในผู้ต้องหามีการแอบอ้างชื่อ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และมีเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชี สร้างความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท จึงได้เร่งสืบสวนกระทั่งจับกุมได้ยกแก๊ง

ภายหลังการรับตัว พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดด้วยตนเอง โดย เปิดเผยว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะทำการแยกสอบปากคำพร้อมดำเนินคดีใน 3 ข้อหาหนัก คือ ข้อหาที่ 1 ฉ้อโกงประชาชน ข้อหาที่ 2 มีความผิดตาม พ.ร.บ. มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ สุดท้ายก็คือความผิดฐานฟอกเงิน รวมทั้งขยายผลหาความเชื่อมโยงว่ามีการเดินทางไปอย่างไร มีนายหน้าพาไปหรือไม่ หากพบก็ต้องดำเนินการสาวไปยังคนที่เป็นนายหน้าคอยจัดหาคนไทยไปทำงานในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในต่างแดน ซึ่งจากการปฎิบัติการที่ผ่านมา หลายรายถูกหลอกไปทำงาน และบางส่วนเต็มใจ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล เพื่อดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการนี้ และดำเนินการเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบต่อไป

สำหรับการปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในต่างแดนครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 8 โดยมีมูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท โดยทางการเวียดนามให้ความร่วมมือช่วยตามรอยเบาะแสและพิกัดที่ตั้ง และยังให้ตำรวจท่องเที่ยวของไทย พร้อมชุดสายสืบเข้าร่วมจับกุมด้วย ถือเป็นการทำงานตามแนวทาง One World One Team หรือ ตำรวจหนึ่งเดียวทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ทางการฟิลิปปินส์จะส่งตัวคนไทยที่ไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ที่ถูกจับกุมตัวไว้ 16 ราย กลับมาในสัปดาห์หน้าเช่นเดียวกัน

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า