SHARE

คัดลอกแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” นำจับ “นายกและกรรมการ” รวม 9 คน ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน ตั้งสมาคมฌาปนกิจศพที่บุรีรัมย์ผิดกฎหมาย หลอกเงินสมาชิกกว่า 3 พันคน สูญกว่า 320 ล้าน เบื้องต้น ปปง. อายัดทรัพย์แล้ว 36 ล้านบาท พร้อมตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียด

ที่สถานีตำรวจภูธรสตึก จ.บุรีรัมย์ วันที่ 21 มี.ค. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะเลขานุการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร) เดินทางร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายกและกรรมการสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์การเกษตรสตึก

โดยชุดปฏิบัติการ ศปอส.ตร. สนธิกำลังร่วมกับตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์และชุดสืบสวน สภ.สตึก กว่า 100 นาย นำหมายศาลเข้าจับกุม และตรวจยึดทรัพย์สินของ นายกและกรรมการสมาคมฌาปนกิจฯ จำนวน 9 คน ตามหมายจับในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันยักยอกทรัพย์, ร่วมกันดำเนินการฌาปนกิจสงเคราะห์โดยมิได้จดทะเบียนเป็นสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ หรือขึ้นทะเบียนฌาปนกิจสงเคราะห์ และร่วมกันดำเนินการฌาปนกิจสงเคราะห์โดยฝ่าฝืนกฎหมาย

พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ ปปง. ได้ร่วมอายัดทรัพย์สิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 อาทิ เงินสด บ้าน รถยนต์ ที่ดิน ไว้ตรวจสอบรวมมูลค่ากว่า 36 ล้านบาท

จากการสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 9 คน มีพฤติกรรมร่วมกันก่อตั้งสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์หลอกลวงให้ประชาชนและผู้ที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ สาขา 1 ว่า ได้เปิดสาขา 2 มีคณะกรรมการชุดเดิม มีสำนักงานตั้งอยู่ที่เดียวกันดำเนินกิจการควบคู่กันไป โดยอ้างว่าสาขา 2 จัดตั้งถูกต้องตามกฎหมาย หากสมาชิกเสียชีวิตจะได้รับเงินสงเคราะห์ศพรายละประมาณ 150,000 บาท

มีประชาชนหลงเชื่อสมัครเป็นสมาชิกจำนวนมากทั้งสาขา 1 และสาขา 2 โดยต้องจ่ายเงินค่าบำรุง ค่าสงเคราะห์ศพ ค่าข้ามเขต และค่าอายุเกินให้กลุ่มผู้ต้องหา แต่เมื่อสมาชิกเสียชีวิตไปหลายรายกลับไม่ได้รับเงินค่าสงเคราะห์ตามที่ตกลง โดยล่าสุดมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้วกว่า 3,300 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากกว่า 320 ล้านบาท เสียหายตั้งแต่ปี 2559

ขณะที่ ชาวบ้านผู้เสียหายจำนวนหลายร้อยคนที่ทราบข่าวการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย ได้มอบดอกไม้แสดงความขอบคุณ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ และทีมงานทุกคน ที่ได้ให้ความช่วยเหลือเร่งรัดติดตามคดีจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาและยึดอายัดทรัพย์สินในที่สุด

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นนอกจากจะยึดอายัดทรัพย์สินจำนวน 36 ล้านบาทแล้ว ยังจะตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาทั้ง 9 คน หากพบมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินที่ได้จากการฉ้อโกงชาวบ้าน ก็จะใช้กฎหมายการฟอกเงินที่อายัดทรัพย์สินดังกล่าวคืนมาทั้งหมด เพื่อจะได้ไกล่เกลี่ยคืนทรัพย์สินให้กับผู้เสียหายเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า