“พงษ์ศักดิ์เล็ก” ทวงแชมป์ WBC Asia คืนสำเร็จ ในศึก WP Boxing

ไม่ธรรมดาจริงๆ สำหรับ “พงษ์ศักดิ์เล็ก นครหลวงโปรโมชั่น” ที่ล้างตาได้สำเร็จ กระชากเข็มขัดแชมป์ WBC Asia รุ่นไลท์ฟลายเวต 108 ปอนด์ จากเอว “คมพยัคฆ์ ชินจิ โดโจ” กลับคืนมาได้ ในศึกมวยโลกชิงแชมป์เอเชีย WP Boxing วันนี้ (23 มิ.ย. 61) ณ เวิร์คพอยท์ สเตเดียม

คู่เอกนำรายการที่เป็นการพบกันระหว่างคมพยัคฆ์กับพงษ์ศักดิ์เล็กนั้น เป็น ‘ศึกสายเลือด ไฟต์ล้างตา’ ซึ่งเป็นการรีแมตช์ หลังจากที่ทั้งคู่ได้ดวลกำปั้นกันอย่างสุดมันไปเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา และเป็นไฟต์เข้าขั้นว่าที่ Fight of the Year

โดยคมพยัคฆ์ใช้ประสบการณ์ความเก๋า บดเอาชนะคะแนนอย่างไม่เป็นเอกฉันท์พงษ์ศักดิ์เล็กไปได้ พร้อมกระชากเข็มขัดแชมป์ แชมป์สภามวยโลกแห่งเอเชีย รุ่นไลท์ฟลายเวต มาครองได้สมใจ

สำหรับประวัติการชกของคมพยัคฆ์ ชนะ 59 ครั้ง น็อก 40 ครั้ง และแพ้ 5 ครั้ง ขณะที่พงษ์ศักดิ์เล็ก ชนะ 15 ครั้ง น็อก 13 ครั้ง และแพ้ 5 ครั้ง โดยวันนี้ (23 มิ.ย.) ทั้งคู่ดวลกันบนสังเวียนครบ 12 ยก

ยกแรกเสียงระฆังดังขึ้นทั้งคู่ต่างดูเชิงซึ่งกันและกัน โดยมีการปล่อยหมัดแลกกันแบบอุ่นเครื่องเบาๆ ยังไม่เน้นพลังหมัดรุนแรงมาก ในยกต่อๆ มา คมพยัคฆ์เริ่มใช้หมัดสกัดทางพงษ์ศักดิ์เล็กอย่างไม่เร่งรีบ ส่วนทางพงษ์ศักดิ์เล็กเองก็ดูสุขุมมากขึ้นกว่าไฟต์ที่ผ่านมา เพราะเจ้าตัวได้บทเรียนมาแล้ว

พงษ์ศักดิ์เล็กเริ่มปล่อยลูกตัดลำตัวใส่คมพยัคฆ์เป็นส่วนใหญ่ และชิงออกอาวุธก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการในการฟิตซ้อมของเจ้าตัว ส่วนคมพยัคฆ์เน้นตั้งรับอย่างมีชั้นเชิง แต่ทางพงษ์ศักดิ์เล็กก็ต้องระมัดระวังหมัดขวาอันตรายของคมพยัคฆ์ ที่มีพลังและความแม่นยำ และเคยสอยให้ตัวเองหลุดแชมป์มาแล้ว

ขึ้นยก 4 เครื่องเริ่มร้อน ด้านพงษ์ศักดิ์เล็กเปิดฉากปล่อยหมัดชุด ขณะที่คมพยัคฆ์ป้องกันตัวอย่างแน่นหนาและเริ่มเดินลุยเมื่อได้จังหวะ โดยเจ้าตัวเน้นเล่นหมัดซ้ายหน้า เหมือนหมัดขวาพิฆาตจะไม่ค่อยถนัดในนัดนี้ แต่มีช่วงที่แฟนๆ รอบสนามต้องส่งเสียงลุ้นกันลั่น เมื่อพงษ์ศักดิ์เล็กพลาดโดนหมัดคมพยัคฆ์เข้าอย่างจังจนมีอาการ ซึ่งทางคมพยัคฆ์ก็ไม่รอช้า บุกเดินปล่อยอาวุธแบบไม่ยั้ง เพราะเจ้าตัวคงเห็นพงษ์ศักดิ์เล็กแล้วยังไม่ฟื้นดี แต่ช่วงปลายยกทางคมพยัคฆ์ก็โดนเอาคืนจนเกิดอาการเหมือนกัน

เรื่อยมาในยก 6 ทำเอาแฟนมวยนั่งกันไม่ติด เมื่อพงษ์ศักดิ์เล็กอัปเปอร์คัตอัดเต็มจนคมพยัคฆ์ออกอาการ อย่างไรก็ตามด้วยความเก๋าของคมพยัคฆ์ ในวัย 36 ปี ยังคงเก็บอาการและกัดฟันยืนสู้ต่อไปได้ ขณะที่พงษ์ศักดิ์เล็กหวังปิดบัญชีชำระแค้นด้วยความสดและความฟิตของร่างกายที่ได้เปรียบกว่า

ในยกนี้ต้องลุ้นกันแบบวินาทีต่อวินาทีก็ว่าได้ เพราะพงษ์ศักดิ์เล็กก็เดินดิ่งเข้าหาและออกหมัดไม่หยุด รัวเป็นชุดๆ แต่ด้านคมพยัคฆ์ก็ตัดสินปักหลักแลกหมัด ชนิดที่ว่าต่างคนต่างโต้จนผู้ชมเฮดังทั้งสนาม

ยกต่อมาพงษ์ศักดิ์เล็กยังคงสู้ไม่ถอย เดินลุยปล่อยหมัดไม่คิดชีวิต แลกกำปั้นกับคมพยัคฆ์กันตุ๊บตั๊บ แต่ด้วยอายุที่มากกว่าอาจจะทำให้คมพยัคฆ์เริ่มแผ่วลงในยกนี้ แต่ก็อาศัยประสบการณ์และความโชกโชนบนสังเวียนหลีกเลี่ยงอาวุธของพงษ์ศักดิ์เล็กได้พอตัว จนปลายยก 7 คมพยัคฆ์ฮึดสู้เดินปล่อยหมัดแลกกับพงษ์ศักดิ์เล็กต่างไม่มีใครยอมใคร จนที่สุดจบยกพงษ์ศักดิ์เล็กเกิดแผลแตกที่คิ้วซ้าย

แน่นอนว่าขึ้นยกใหม่เสียงระฆังดังขึ้น คมพยัคฆ์ไม่รอช้ากระแทกหมัดเข้าไปที่แผลแตกของพงษ์ศักดิ์เล็ก แต่ด้านพงษ์ศักดิ์เล็กก็ไม่เกรงกลับตั้งหน้าเดินลุย โดยในยกนี้ทั้งคู่ออกอาวุธรัดกลุมมากขึ้น ซึ่งทางคมพยัคฆ์เริ่มเน้นชกแบบฝีมือ

เรื่อยมาจนถึงช่วงท้ายไฟต์ในยก 11 หลังจากที่ทั้งคู่แลกหมัดกันอย่างดุเดือด ส่งผลให้ทางคมพยัคฆ์ก็เกิดแผลแตกที่คิ้วซ้ายเช่นเดียวกัน โดยพงษ์ศักดิ์เล็กก็ไม่รอช้ากระแทกหมัดหวังเปิดปากแผลคมพยัคฆ์เช่นเดียวกัน ส่วนทางคมพยัคฆ์เน้นตั้งรับเป็นหลักด้วยความเก๋าประสบการณ์ โดยการกอดรัดคู่ต่อสู้ ขณะที่พงษ์ศักดิ์เล็กพยายามเน้นต่อยลำตัวซึ่งเป็นเป้าใหญ่

ยกสุดท้าย สองนักมวยแตกกันทั้งคู่ พงษ์ศักดิ์เล็กยังเดินออกหมัดอยู่เรื่อยๆ แต่ทำอะไรคมพยัคฆ์ค่อนข้างลำบาก เพราะเจ้าตัวใช้ลูกล็อกเข้ากอดตลอด เพื่อไม่ให้มีโอกาสได้ออกหมัด แต่เมื่อถึงช่วง 10 วินาทีสุดท้าย ทั้งคู่ตัดสินใจบวกกันแบบหนักหน่วง ก่อนสิ้นเสียงระฆังไปท่ามกลางเสียงเชียร์จากแฟนๆ

สำหรับคู่เอกจบไปโดย พงษ์ศักดิ์เล็ก นครหลวงโปรโมชั่น เป็นผู้คว้าชัยด้วยคะแนนเอกฉันท์ ทวงคืนแชมป์สภามวยโลกแห่งเอเชีย (WBC Asia) ในรุ่นไลท์ฟลายเวต 108 ปอนด์ กลับสู่อ้อมอกได้สำเร็จ

ห้ามพลาด ! ศึกมวยโลกชิงแชมป์เอเชีย WP Boxing ในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ “เจ้าแหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น” แชมป์โลกขวัญใจชาวไทย จะลงสังเวียนอุ่นเครื่องกับ “ยัง กิล แบ” นักชกชาวเกาหลีใต้ ถ่ายทอดสดทางช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 และช่องทางออนไลน์ เฟซบุ๊ก Workpoint Entertainment และยูทูบ WorkpointOfficial ตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป