SHARE

คัดลอกแล้ว

วันที่ 22 มี.ค. 62 ที่ลานคนเมือง กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ได้ตั้งเวทีใหญ่ปราศรัยครั้งสุดท้าย ก่อนถึงวันเลือกตั้ง อาทิตย์ที่ 24 มีนาคมนี้ โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์, นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ และ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคพระชาธิปัตย์ กล่าวขอบคุณทุกคนที่สละเวลามาให้กำลังใจ ในการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่สุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง และในฐานะที่เป็นนักการเมืองที่มาจากประชาชน สำนึกตลอดเวลาว่า เพราะบุญคุณของประชาชน ที่มอบให้ ทุกรอยยิ้ม ทุกช่อดอกไม้ ทุกพวงมาลัย ไม่ลืม และเชื่อว่าความคาดหวังประชาชน ที่จะไปกาบัตร 24 มีนาคม ที่จะถึงนี้ คืออยากให้ชีวิตของตัวเองดีขึ้น

นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ตอนนี้เราก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย เรามีคนแก่ ที่ต้องดูแล ขณะที่คนในวัยทำงานมีน้อยลง เรามีหลายอย่างกดดันจากต่างประเทศ ประเทศไทยวันนี้หากเทียบกับ 8 ปี ที่แล้ว ความเหลื่อมล้ำในสังคมเพิ่มขึ้นมาก เพราะโอกาสของประชาชนที่จะออกจากความยากจน เป็นไปได้ยากกว่าในอดีต ดังนั้นทุกข์ของประชาชน คือภารกิจที่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งต้องรีบทำตั้งแต่วันแรก

“ที่ผ่านมาทางพรรคใช้เวลา 5 ปีไม่ต่างกับวันที่เป็น ส.ส. โดยไปทำงาน และศึกษาเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน กลุ่มเกษตรกร ธุรกิจกว่า 100 ราย ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ให้ความมั่นใจกับประชาชนได้ว่า เราพร้อมจริงๆ เพราะประกาศนโยบายก่อนพรรคอื่น และเป็นนโยบายที่เป็นรูปธรรม เช่น การประกันรายได้เกษตรกร จ่ายเงินส่วนต่าง มัน ข้าว ข้าวโพด ยาง ปาล์ม และพืชเศรษฐกิจอื่นๆ มีแผนครบทุกตัว” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ส่วนในเรื่องจุดยืน ทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การเมืองที่ดีต้องมีประชาธิปไตยที่สุจริต และพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีพรรคสาขา มีแค่ประชาธิปัตย์อย่างเดียว

“คำว่าประชาธิปไตยสุจริต มันแสลงหูอีก 2 ฝ่ายอย่างมาก พรรคการเมืองกลุ่มหนึ่งได้ยินคำว่าสุจริตเหมือนถูกน้ำร้อนสาด… พยายามมาพูดว่าทุกคนก็โกง กล้าสาบานไหมครับว่าที่ผ่านมาไม่โกง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีคนพยายามสร้างเงื่อนไขในการเลือกตั้งของพรรคพรรคประชาธิปัตย์ โดยถามว่าจะเลือกพลังประชารัฐหรือไม่ ซึ่งเคยบอกชัดไปแล้วว่า ถ้ามีการสืบทอดอำนาจ ก็ไม่ร่วม แต่ถ้าไม่มีเงื่อนไขนี้ พลังประชารัฐก็คุยกันได้ แต่กลับถูกมองว่ากั๊ก ทั้งที่ พรรคอื่น อย่างอนาคตใหม่ก็เคยพูดแบบนี้ ทำไมไม่โดนหาว่ากั๊ก

ซึ่งสิ่งที่ประชาชนกลัว มี 2 เรื่อง ที่เราเรียกว่าระบอบทักษิณ เราไม่ได้เจาะจงว่าเป็นพฤติกรรมของทักษิณ แต่มันรวมหลายๆ เรื่อง ที่เกิดขึ้น และสิ่งที่คนเอามาพูด มาทำ ต่างจากระบอบทักษิณตรงไหน ผมเชื่อว่าความเลวจะชนะความเลว เอาความเลวไปสู้กับความเลวคือการยอมแพ้แล้ว เพราะคุณยอมเลว

ส่วนเรื่องที่ 2 การที่ออกมาพูดว่า ถ้ามีเขาบ้านเมืองจะสงบสุข ครั้งที่แล้วผมอยู่มีความวุ่นวายจริง วันแรกที่สภา ยกมือให้ผมเป็นนายกฯ เดินออกมาก็เจอก้อนอิฐ มีม็อบ 2 ฝ่าย มีความรุนแรง และปี 53 ที่รุนแรงเพราะอะไร เพราะเกิดการยึดทรัพย์ 4 หมื่นกว่าล้าน มีกลุ่มติดอาวุธ ประเทศไทยไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ และขณะนั้น มีรองนายกฯ ชื่อ สุเทพ เทือกสุบรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผบ.ทบ. คือ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา และ รอง ผบ.ทบ.ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งผมไม่เคยตำหนิท่านเลย ทั้งที่เคยบอกว่าไม่ต้องห่วง เรื่องความมั่นคง ให้ดูเรื่องเศรษฐกิจ และไม่เคยมีแม้แต่เรื่องเดียวที่เสนอมาแล้วปฏิเสธ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง ความกังวล เรื่องความสงบ หรือ ความขัดแย้งที่คนกลัวว่าจะเกิดขึ้น ว่าจะไม่เหมือนเดิมแล้วทันทีที่มีการเลือกตั้ง ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ไม่เหมือนในอดีต ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่กับนายอภิสิทธิ์แล้ว แต่เป็นกับปัญหาการสืบทอดอำนาจ

พร้อมกล่าวถึงการขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ครั้งสุดท้าย ของพรรคพลังประชารัฐ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นไปพูดว่า ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็ทำตัวไม่เหมือนผู้สมัครนายกฯ คนอื่น แต่วันนี้กลับขึ้นปราศรัย ร้องเพลง พูดไม่กี่ประโยคและลงเวทีไป ทั้งที่ผ่านมาในเวทีดีเบตที่มีการถกเถียง ทั้งพล.อ.ประยุทธ์และพรรคพลังประชารัฐกลับไม่ไป แล้วถ้าจะไปเป็นนายกฯ ก็อยากให้ลองคิดภาพว่าเข้าไปในสภาแล้วจะเจออะไรบ้าง

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเรียนรู้มีประสบการณ์ พี่น้องไม่ต้องลังเล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศแล้วว่าไม่เกรงใจใคร ดังนั้นอย่าเอาความกลัวมาครอบงำ วันนี้ถึงเวลาที่ต้องเดินไปสู่สังคมเศรษฐกิจการเมืองที่ต้องหลุดพ้นวงจรเดิมๆ ประชาธิปไตยสุจริตคือเส้นทางนั้น

“ผมตัดสินใจมาสู่การเมืองเมื่อ 27 ปีที่แล้ว ผมตั้งใจที่จะแหวกประเทศไทยออกจากวังจนและวงจรอุบาทว์มานานแล้ว แต่วันนี้ผมมาถึงจุดที่ถ้าผมบอกว่า ผมประนีประนอมต่อไป ผมลังเล ไม่เป็นไรหรอกว่าไปตามสถานการณ์ ผมไม่ลำบากล่ะครับ … แต่ผมตอบตัวเองไม่ได้ว่าความฝันที่ผมมีตั้งแต่ 9 ขวบ 11 ขวบ ตั้งใจทำงานสู้พิสูจน์ตัวเองมาตลอด 27 ปี ว่านักการเมืองที่มีอุดมการณ์ ที่ซื่อสัตย์ ที่มั่นคง ที่แน่วแน่ มันอยู่ได้ แล้วผมจะจบชีวิตการเมือง โดยปล่อยให้การเมืองมันหมุนอยู่ที่เดิม อยู่ในวงจรอุบาทว์ได้อย่างไร”

ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เดินทางไปพบปะประชาชน 127 เขต รวม 47 จังหวัด พบว่า สิ่งที่เป็นคำตอบ คือ พี่น้องมีปัญหา เศรษฐกิจจริงๆ ปัญหารายได้ไม่พอรายจ่าย สวนทางกับสิ่งที่รัฐบาลประกาศไว้ ว่ารัฐบาลชุดนี้จะแก้ปัญหาความยากจนโดยจะเพิ่มรายได้ให้ประชาชนสูงขึ้น ข้ามให้พ้นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ซึ่งได้เคยทำข้อมูลนี้ส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้วว่าแต่ละจังหวัดลดลงอย่างไรบ้าง แต่ก็ไม่มีการตอบกลับ
“ผมเชื่อว่าบ้านเมืองนี้ไม่ต้องมีบ่อน้ำมัน ไม่ต้องมีเหมืองเพชร ขอให้มีคนเก่งคนดีพัฒนาบ้านเมือง… เราไม่เคยอยู่นิ่ง แม้ไม่มีประชาธิปไตยอยู่ในบ้านเมือง แต่ประชาธิปัตย์ เราช่วยเหลือ” นายชวนกล่าว

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า