รวบทัพเขมรตัดไม้พะยูง ‘ป่าทับลาน’ เพิ่ม 1 ราย

ประเด็นคือ – จนท.สกรีนป่าทับลานล่าทัพเขมร รวบกลุ่มลักลอบตัดไม้พะยูงได้เพิ่มอีก 1 ราย ของกลางกว่าล้านบาท สารภาพยังหนีได้อีกอื้อ ส่งกำลังตามล่าต่อเนื่อง

วันที่ 7 ธ.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดบูรณาการร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน กำลังพลทหารกองร้อยรักษาความสงบเรียบร้อยเคลื่อนที่เร็ว อ.ครบุรี หน่วยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 3 กองทัพภาคที่ 2 และชุดลาดตระเวนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.นครราชสีมา ที่ได้จัดกำลังร่วมกันเข้าไปสกรีนพื้นที่ป่าชั้นในอุทยานแห่งชาติทับลาน ท้องที่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นำโดย นายสมศักดิ์ กาญจนะคช หัวหน้าเขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 3 สามารถควบคุมตัวนายโรสะมุก อายุ 44 ปี ชาวกัมพูชา ออกมาจากพื้นที่ได้ พร้อมยึดของกลางเป็นไม้พะยูงแปรรูปจำนวน 94 แผ่น มูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท มาไว้เป็นหลักฐาน

โดยการจับกุมดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการแบ่งกำลังออกเป็นสองชุด เพื่อเข้าตรวจสอบภายในป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการจับกุมกลุ่มชาวกัมพูชาที่เข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงได้ว่า 100 คน และส่วนหนึ่งรับสารภาพว่ายังมีกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้เหลืออยู่ในพื้นที่อีกเป็นจำนวนมาก โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำกำลังลาดตระเวนภายในป่าด้านทิศตะวันตกฐานเอช ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ก็พบกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนประมาณ 4-5 คน กำลังแบกเป้สะพายไม้ออกมาจากป่า จึงแสดงตัวเข้าจับกุมได้ 1 ราย คือ นายโรสะมุก พร้อมยึดของกลางเป็นไม้พะยูงแปรรูปจำนวน 94 แผ่น ปริมาตรรวม 1.33 ลบ.ม. มูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท ดังกล่าว ส่วนที่เหลืออาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีเข้าป่าไปได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเข้าติดตามล่าตัวอยู่ในขณะนี้

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายโรสะมุก ให้การรับสารภาพว่า มีนายทุนชาวกัมพูชาร่วมมือกับนายหน้าชาวไทย พาหลบหนีเข้าประเทศผ่านทางแนวชายแดนไทยกัมพูชา ทางช่องทางธรรมชาติด้าน จ.สระแก้ว ก่อนจะมีรถยนต์กระบะใส่หลังคาเข้ามารับเพื่อนำตนเข้ามาในพื้นที่ อ.ครบุรี เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา รวม 2 คัน พร้อมพวกรวมทั้งหมด 17 คน โดยอ้างว่าจะพามาตัดอ้อย และจะพาไปทำบัตรประจำตัวอย่างถูกต้องภายหลัง แต่เมื่อมาถึงกลับมีนายทุนอีกรายมาชักชวนให้เข้าป่าเพื่อไปขนไม้พะยูง พร้อมกับกลุ่มชาวกัมพูชาอีกกลุ่มที่มีอยู่ประมาณเกือบ 30 คน จึงจำเป็นต้องทำเพราะความที่ต้องการเงินมาเป็นค่าใช้จ่าย

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัวไว้ทำการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ครบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป