“สมยศ” ไม่สนคนวิจารณ์ ยันไม่ลาออกจากนายกสมาคมฟุตบอลฯ

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยืนยันไม่ลาออก แม้ถูกกดดันจากการวิจารณ์ของแฟนบอลที่เข้าไปถล่มในสื่อออนไลน์ หลังทีมชาติไทยตกรอบฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ

 เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนฟุตบอลจำนวนมากวิจารณ์โจมตีทีมชาติไทย โดยเฉพาะผู้ฝึกสอนและนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพราะไม่พอใจผลงานของทีม และตัดพ้อว่าฟุตบอลในอาเซียน ไทยยังไม่สามารถครองแชมป์ได้ คงไม่ต้องลุ้นกับการแข่งขันรายการชิงแชมป์เอเชีย หรือลุ้นคัดไปฟุตบอลโลก

ขณะที่แฟนฟุตบอลจากทั่วอาเซียน เข้าไปแสดงความเห็นในเฟซบุ๊กของ AFF SUZUKI CUP 2018 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพูดเหน็บแนมทีมชาติไทยและให้กำลังใจมาเลเซียที่ได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ เพราะเป็นทีมที่เล่นได้ยอดเยี่ยม มีความตั้งใจในการพัฒนาทีมจนได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า

นอกจากนี้ในสื่อออนไลน์ยังมีการวิจารณ์แนวทางการทำทีมของมิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ที่เน้นให้ทีมไทยเล่นเกมส์รับและรอโต้กลับ ซึ่งแม้ราเยวัชจะใช้แผนนี้คุมทีมชาติกาน่า จนเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้มาแล้ว แต่แฟนบอลไทยไม่พอใจเกมส์การเล่นระบบเช่นนี้ แต่อยากจะเห็นฟุตบอลไทยเปิดเกมบุก เหมือนในยุคที่ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ทำทีมมากกว่า โดยแฟนฟุตบอลบางส่วนยังเรียกร้องให้ซิโก้กลับมาคุมทีมชาติไทยอีกครั้ง

ขณะที่แฟนฟุตบอลยังเสียดสีพร้อมเรียกร้องให้นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ รับผิดชอบด้วยการลาออก หลังจากเคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2560 หลังไทยแพ้ญี่ปุ่น 0-4 ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2016 ว่าจะลาออกถ้าบอลไทยไม่พัฒนา และถ้าเป็นแล้วทำดีไม่ได้อย่าเป็น ให้คนอื่นเขาเป็น

ล่าสุด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เปิดเผยว่า ไม่ได้สนใจกระแสวิจารณ์ในโซเชียลและยืนยันไม่ลาออก ส่วนมิโลวาน ราเยวัช ต้องรอดูผลงานหลังจบเอเชียนคัพ

โดยเป้าหมายไทยในเอเชี่ยนคัพคือต้องทำผลงานไม่ต่ำกว่ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งรายการนี้ไทยได้เข้าไปเล่นรอบสุดท้ายล่าสุดในปี 2007 หรือเมื่อ 16 ปีที่แล้ว ส่วนเอเชียนคัพในปี 2019 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในช่วงเดือนมกราคม ทีมชาติไทยอยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, บาห์เรน และอินเดีย

รายการนี้ทีมชาติไทยจะได้นักเตะแกนหลักอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธุ์, ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน และกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ กลับมาร่วมทีม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• แฟนบอลน้ำตาท่วมไอจีวอน “ซิโก้” คัมแบ็ค! “ราเยวัช” ระบายหลังช้างศึกตกรอบซูซูกิคัพ
• 5 เหตุการณ์พลาดจุดโทษที่โด่งดังที่สุดในโลกฟุตบอล