หนุ่มบ้านเช่า 3 ล้าน เตรียมฟ้องคนเช่า ทำบ้านเละแล้วหนี

ตำรวจเข้าตรวจสอบความเสียหายบ้านหรูที่เจ้าของบ้านเปิดให้เช่า ก่อนที่จะถูกคนมาเช่าทำลายบ้านเสียหายพร้อมออกหมายเรียกผู้เช่าล่าสุดเจ้าของเข้าซ่อมเจอเห็บเพียบ

จากกรณีบ้านหลังใหญ่ราคา 3 ล้านบานที่ตั้งอยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น แต่ภายหลังกลับมีสภาพทรุดโทรมหลังปล่อยให้เช่าเพียง 1 ปี ซึ่งสภาพบ้านมีสภาพเละ ฝ้าเพดานในห้องนอนร่วงหล่นเสียหาย และส่งกลิ่นเหม็นอับ รวมทั้งคราบอุจจาระของสุนัขที่อยู่แทบทุกส่วนของบ้าน โดยเจ้าของให้เช่าในราคาเดือนละ 8,000 บาท ที่ผ่านมาคนเช่าคือ นางสุดารัตน์ พงษ์สมศรี ก็จ่ายตรงมาตลอดจนเมื่อ 1 เดือนผ่านมาผู้เช่าบ้านหายไปพอเข้าไปดูบ้านถึงกับช็อกเพราะสภาพบ้าน ต้องเสียค่าซ่อมแซมใหม่ทั้งหมด 3 แสนบาท

ล่าสุดวันนี้ (26 พ.ย.61) นายปิยพงษ์ บุตรโส เจ้าของบ้านบอกว่า จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากคู่กรณี ครั้งสุดท้ายที่คุยกันทราบเพียงว่าหญิงสาวผู้เช่ารายนี้อ้างว่าจะเดินทางไปอยู่ต่างประเทศ จะเหลือก็แค่เพียงแฟนหนุ่มอยู่บ้านคนเดียวเท่านั้น แต่สัญญาเช่านั้นครบกำหนดรายปีแล้ว ปรากฏว่าหญิงสาวรายนี้ได้ทำสัญญาเช่าต่ออีกปี จึงไม่ได้รู้สึกสงสัยแต่อย่างใด กระทั่งผู้เช่าหลบหนีไป

นายปิยพงษ์ บุตรโส เจ้าของบ้าน

สำหรับความเสียหายหนักสุดเห็นจะเป็นเรื่องพื้นไม้ปาเก้ ที่ต้องงัดออกมาทำใหม่ทั้งหลัง และฝ้าเพดานที่พังลงมาโดยไม่ทราบสาหตุ สภาพของบ้านไม่น่าจะนอนอยู่ได้ แต่กลับพบว่ามีการผูกเปลนอนอยู่ท่ามกลางฝูงสุนัข 10 ตัว และแทบทุกตัวยังขับถ่ายอุจจาระไว้เกลื่อน

ทั้งนี้ชาวเน็ตหลายคนได้พยายามหาตัวว่าสาวคนนั้นที่มีการเปิดเผยว่าทำงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดเดียวกัน เป็นใครกันแน่ และภายหลังเจ้าของบ้านได้เขียนคอมเมนต์ในโพสต์ตัวเอง และแท็กถึงสาวคนหนึ่งว่า “ติดต่อหาพี่หน่อยนะครับ ฝีมือแฟนเราทำติ” จึงเชื่อได้ว่า บ้านที่พังยับเยินนั้น อาจเป็นฝีมือแฟนหนุ่มของสาวคนนี้

อย่างไรก็ตามตอนนี้เจ้าของบ้านอยากให้เข้ามาเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นเพราะอะไร หากไม่มา หรือ ติดต่อไม่ได้จริงๆ ก็คงต้องไปดำเนินการทางศาลเพื่อฟ้องเรียกค่าเสียหายต่อไป ทั้งนี้หลังปรับปรุงแล้วเสร็จ คงขายให้คนอื่นเพื่อจบปัญญานี้

พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก. สภ.เมืองขอนแก่น

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ถึงความคืบหน้าในคดีนี้ว่า หลังรับแจ้งความได้ให้ผู้เสียหายรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ เช่น สัญญาเช่า และภาพถ่ายต่างๆ มาให้ เมื่อได้รับแล้วก็ออกหมายเรียกผู้เช่าให้มาพบ เพื่อจะสอบสวนในรายละเอียดต่างๆ เพราะถือว่าเป็นการละเมิดและถ้าเป็นจริงตามที่ถูกกล่าวหา ก็จะแจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ แต่ถ้าออกหมายเรียก 3 ครั้งแล้วไม่มาพบพนักงานสอบสวนก็จะออกหมาจับ

ด้านนายปิยพงษ์ เจ้าของบ้านบอกว่า เขาได้ให้ช่างรับเหมาซ่อมแซมบ้านเข้ามาจัดการซ่อมแซมบ้านต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ซึ่งพบว่าระหว่างที่ช่างรื้อพื้นบ้านชั้น 2 ที่ปูได้ไม้ปาเก้ ปรากกฏว่า มีเห็บหมาจำนวนมากไต่ออกมาและไต่เกลื่อนอยู่ตามซอกมุมต่างๆ จนช่างต้องนำยาฆ่าเห็บหมัดมาโรย และใช้สเปย์กำจัดเห็บหมัดเข้าฉีดตามซอกมุมแคบๆ  ขณะเดียวกันทางช่างได้ขึ้นไปตรวจสอบบนช่องเพดานบ้านที่หลุดล่วงลงมา ก็พบว่า มีลักษณะเหมือนมีการนำแผ่นไม้ขึ้นไปวางและมีแผ่นกระเบื้องหลังคาถูกถอดออก คล้ายลักษณะจงใจให้เกิดความเสียหายกับตัวบ้าน จากความเสียหายที่เกิดขึ้นขณะนี้เขาต้องควักเงินค่าซ่อมแซมบ้านคาดว่าไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท

ขณะที่นางทอง (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) เพื่อนบ้านที่อาศัยใกล้กับบ้านหลังดังกล่าว เล่าว่า ในช่วงที่ผู้เช่ามาเช่าบ้านหลังนี้ ได้นำสุนัขพันธุ์พิทบูลมาเลี้ยงไว้หลายตัว โดยตลอดระยะเวลาที่ผู้เช่าซึ่งเป็นผู้หญิงและผู้ชายรายนี้มาอาศัยอยู่จะไม่มาคลุกคลีกคลีกับเพื่อนบ้าน แต่จะเก็บตัวเงียบและอาศัยอยู่ในบ้านกับสุนัข ซึ่งในบ้างวันก็จะได้ยินเสียงดังคล้ายกับการรื้อข้าวของ และทั้งคู่มักจะส่งเสียงดังคล้ายกับคนทะเลาะกัน รวมทั้งเสียงเห่าของสุนัขที่เลี้ยงไว้ในบ้าน และคาดว่าจะนำสุนัขขึ้นไปเลี้ยงบนชั้น 2 ของบ้านด้วย

ตอนนี้เห็นใจคนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง เพราะเห็บ หมัด ไต่ยั้วเยี้ยเต็มถนน ไต่มาถึงหน้าบ้านตัวเองแล้ว อยากให้มีการกำจัดอย่างเร่งด่วน กลัวจะเป็นอันตรายต่อลูกหลาน วอนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือเจ้าของบ้านนำน้ำยากำจัดเห็บหมัดมาทำการฉีดให้โดยด่วนด้วย