หลักฐานแน่น ! ตร.เตรียมออกหมายเรียก “ฟลุ๊คศรี มณีเด้ง” มอบข้อหาเพิ่ม

ประเด็นคือ – ตำรวจรวมหลักฐานพยาน – วงจรปิด – โซเชียล เตรียมออกหมายเรียก “ฟลุ๊คศรี มณีเด้ง” เพิ่มข้อหาดูหมิ่นและหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานคดีบุหรี่ไฟฟ้า

จากกรณีที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ทำการจับกุม น.ส.มนุษยา เยาวรัตน์ อายุ 29 ปี หรือ ฟลุ๊คศรี มณีเด้ง เน็ตไอดอลชื่อดัง หลังพบว่ามีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครองภายในรถส่วนตัว แต่ช่วงของการนำไปควบคุมสงบสติอารมณ์ที่ห้องควบคุมก็เกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกันขึ้น เนื่องจาก น.ส.มนุษยา ไม่พอใจที่ต้องถูกตรวจยึดรถยนต์ส่วนตัวไว้ตรวจสอบ และเล็งเห็นว่ากรณีของบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเพียงคดีธรรมดา ไม่ใช่การค้ายาเสพติดให้โทษ จึงไม่น่ากระทำการรุนแรงหรือต้องมีการควบคุมตัวแต่อย่างไร

โดยจากผลดังกล่าวทำให้ น.ส.มนุษยา ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายแห่ง กระทั่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งศาลจังหวัดพัทยาและมีการประกันตัวไปในวงเงิน 1 แสนบาท จากนั้น น.ส.มนุษยา หรือ ฟลุ๊คศรี มณีเด้ง ได้ร้องขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชน และมีการโพสต์ข้อมูลพร้อมภาพถ่ายลงในโลกโซเชียลเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่าถูกตำรวจทำร้าย ทั้งกระชากผม ล็อกคอ ยื้อยุดฉุดกระชาก อีกทั้งทำให้เลสข้อมือหายไป ซึ่งได้ไปตรวจร่างกายไว้เป็นหลักฐาน จนมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากนั้น

ล่าสุดวันนี้ (12 ธ.ค. 60) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าตำรวจไม่ได้ทำร้ายผู้ต้องหา แต่เนื่องจากผู้ต้องหามีการดิ้นรน ขัดขืน เนื่องจากไม่ยินยอมเข้าห้องควบคุม อีกทั้งยังมีการด่าท้อเจ้าหน้าที่ด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพ ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหายถึงขั้นดูหมิ่นเจ้าพนักงาน โดยขณะนี้ได้มีการสอบปากคำพยานบุคคลไว้แล้ว รวมทั้งหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งกล้องวงจรปิด และการโพสต์ข้อความในโลกโซเชียลด้วย

ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหามีการกล่าวอ้างว่า ถูกเจ้าหน้าที่สิบเวรควบคุมทำร้ายร่างกายนั้น เรื่องนี้มีหลักฐานจากกล้อง CCTV และพยานบุคคลซึ่งเป็นคนนอก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกล่าวหาว่ามีการเข้าข้างกันเอง ส่วนการเรียกร้องให้มีการนำตำรวจหญิงมาตรวจค้นนั้น สำหรับเรื่องการตรวจค้น หากมีการถอดเสื้อผ้าหรือตรวจในร่างกายก็คงต้องใช้ตำรวจหญิง แต่การตรวจค้นรถนั้น เจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบรายใดก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้

อีกทั้งการนำตัวผู้ต้องหาเข้าห้องควบคุมก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นตำรวจหญิง เพราะกรณีนี้ก่อนนำตัวไปควบคุมก็ได้มีการแจ้งข้อหาและการดำเนินคดีให้ผู้ต้องหารับทราบในฐานความผิดดังกล่าวก่อนหน้านี้แล้ว ว่าจะต้องถูกควบคุมดำเนินคดีหลังแจ้งข้อหาเสร็จ และเจ้าหน้าที่ก็มีสิทธิ์ที่จะนำผู้ต้องหาเข้าห้องควบคุมได้ จึงถือว่าเป็นเรื่องที่ดำเนินการตามขั้นตอน เพียงแต่ผู้ต้อง หาไม่ยินยอม มีการดื้อดึงขัดขืน ซึ่งกรณีนี้ก็สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ ฐานขัดขืนการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานโดยต่อสู้ขัดขวาง แต่ด้วยเจ้าหน้าที่ใช้วิธีดำเนินการที่ละมุนละม่อมมากที่สุด แต่ผู้ต้องหาไม่ยอม จึงต้องมีการยื้อยุดฉุดกระชากกันบ้าง แต่ก็เพียงแค่จับมือเพื่อจะเชิญเข้าห้องควบคุมเท่านั้น

พ.ต.อ.อภิชัย เปิดเผยต่ออีกว่า สำหรับกรณีดังกล่าว แม้จะเป็นเพียงกรณีจับบุหรี่ไฟฟ้า แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถนำผู้ต้องหาเข้าห้องควบคุมได้ เนื่องจากโทษของคดีนี้มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ก่อนนำส่งฟ้องที่ศาลจังหวัด โดยจะควบคุมตัวไว้ได้ในระยะเวลา 48 ชั่วโมง ซึ่งระหว่างการควบคุมตัวผู้ต้องหาก็สามารถหาทนายความหรือผู้ที่ไว้วางใจมาร่วมรับฟังสอบสวนด้วยได้ รวมทั้งสามารถยื่นหลักทรัพย์ในการประกันตัวได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมการดำเนินคดีกับ น.ส.มนุษยา หรือ ฟลุ๊คศรี มณีเด้ง ด้วยการรวบรวมพยานหลักฐาน ฐานความผิดกรณีดูหมิ่นเจ้าพนักงาน นอกจากนี้ ผู้ต้องหาได้มีการโพสต์ข้อความและออกให้สัมภาษณ์กับสื่อ จนทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหาย จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมด เพื่อเตรียมออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาใน 2 คดี ได้แก่ ข้อหาดูหมิ่นและหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน ซึ่งโทษของการดูหมิ่นเจ้าพนักงานนั้นจะต้องขึ้นศาลแขวง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ส่วนกรณีที่โพสต์ว่าได้รับบาดเจ็บจากการทำร้ายของเจ้าหน้าที่ และหากเข้ามาแจ้งความว่าถูกกระทำ ซึ่งความจริงเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายใดๆ ก็จะถือเป็นการแจ้งความเท็จ และจะตั้งข้อหาเพิ่มอีก 1 กระทง ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหายังไม่มีการแจ้งความใดๆ โดยกรณีดังกล่าวคาดว่าจะใช้เวลา 1 – 2 วัน ก็จะสามารถดำเนินการแจ้งข้อหาได้