SHARE

คัดลอกแล้ว

รวบ 2 โจร แก๊งอุ้มเหยื่อเรียกค่าไถ่ อ้างตัวเป็น ป.ป.ส. ออกอาละวาดในเมืองกาญจน์-สุพรรณฯ ทำแผน หวิดถูกรุมประชาทัณฑ์ ด้าน ตร.เร่งตามตัวโจรที่เหลือ 

วันที่ 29 ก.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมกับกำลังชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี และกำลังชุดสืบสวน สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จับกุม นายวิษณุ ขันข์เสน อายุ 39 ปี (ศีรษะโล้น) ฉายาเด่นเมืองกาญจน์ ตำรวจคาดว่าจะเป็นหัวหน้าแก๊ง อยู่บ้านเลขที่ 193/2 หมู่ 1 ต.หนองหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายศรีอุบล หลักทอง หรือ บล เมืองกาญจน์ อายุ  39 ปี (เสื้อสีเหลือง) บ้านอยู่ จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันเรียกค่าไถ่ ปล้นทรัพย์ โดยจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีกบดานอยู่พื้นที่ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ยึดรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี ทะเบียน ฆฐ 1341 กทม. ไว้ได้

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 61 ร.ต.อ.วีรชัย ร้อยศรี รอง สว.สอบสวน สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายชาว จ.สุพรรณบุรี ว่า ช่วงบ่ายวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะกำลังนั่งอยู่ที่บ่อเลี้ยงปลา ไม่มีเลขที่ หมู่ 7 ต.กระจัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้ถูกคนร้ายเป็นชาย 7 – 8 คน การแต่งกายคล้ายกับตำรวจนอกเครื่องแบบ ขับรถยนต์ 3 คัน ประกอบด้วยรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์ รถกระบะมิตซูบิชิ ไททัน และรถกระบะอีซูซุ แบบแวน สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ทั้ง 3 คัน ก่อเหตุอุ้มและปล้นทรัพย์ตนไป

หนึ่งในคนร้ายแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่

โดยพฤติกรรมของคนร้าย ใช้อาวุธปืนมาจ่อที่ศีรษะให้หมอบลงกับพื้น อ้างว่าเป็นตำรวจชุด ป.ป.ส. จากนั้นหนึ่งในคนร้ายได้เอาหมวกไหมพรมคลุมศีรษะ เอากุญแจมือใส่ไพล่หลัง ใช้กำลังให้ตนนอนคว่ำหน้าลงกับพื้น โดยกลุ่มคนร้ายบอกว่าตน “เกมแล้ว” ถูกจับในคดียาเสพติด ตนก็แจ้งว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด คนร้ายที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจชุด ปปส.ไม่ยอมฟัง และได้ค้นเอาเงินสดในรถของตนไป 38,000 บาท อาวุธปืนพกสั้นอีก 2 กระบอก ทองรูปพรรณอีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นคนร้ายได้อุ้มเอาตัวตนขึ้นรถออกไปจากบ่อเลี้ยงปลา นั่งรถไปประมาณ 1 – 2 ชม. คนร้ายแจ้งว่าเอาตัวไปเซฟเฮาส์ ตนก็ไม่ทราบว่าไปที่ไหน

จากนั้นคนร้ายก็ให้ตนติดต่อทางญาติให้โอนเงินมาไถ่ตัวจำนวน 400,000 บาท ถ้าไม่โอนเงินมาให้จะยัดยาบ้า 2 มัด แต่ทางบ้านไม่มีเงินมากพอ ซึ่งตนก็กลัวคนร้ายจะฆ่าทิ้ง จึงให้บุตรชายหาเงินโอนมาให้กลุ่มคนร้ายหลายครั้ง รวมเป็นเงิน 380,000 บาท รวมทรัพย์สินทั้งหมดที่คนร้ายได้ไปราว 600,000 บาท กระทั่งเวลาประมาณ 00.30 น. วันที่ 22 ก.ย. คนร้ายได้นำตัวตนขึ้นรถออกจากที่พักมาปล่อยตัวหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง จ.กาญจนบุรี จากนั้นจึงได้ติดต่อญาติที่อยู่ใน จ.กาญจนบุรี ให้ขับรถมาส่งที่บ้าน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี

หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.วีรชัย ร้อยศรี รอง สว.สอบสวน สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ได้ให้กำลังชุดสืบสวน สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ร่วมกับกำลังชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี จนกระทั่งได้ภาพจากกล้องวงจรปิดหลายจุดที่รถต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นรถของคนร้าย จนนำไปสู่การสืบสวนจับกุมตัวคนร้ายมาได้ 2 ราย

ประกอบด้วย นายวิษณุ ขันข์เสน อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 193/2 หมู่ 1 ต.หนองหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายศรีอุบล หลักทองบล อายุ 39 ปี บ้านอยู่ จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันเรียกค่าไถ่ ปล้นทรัพย์ ยึดรถยนต์ 1 คัน นอกจากนี้ ยังมีพยานจำได้ว่ามีรถ 3 คัน มาจอดซุ่มอยู่ที่วัดจันทราวาส ต.กระจัน อ.อู่ทอง ลักษณะตรงตามที่ตำรวจได้ภาพมาว่าเป็นรถของคนร้าย มาจอดซุ่มก่อนก่อเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากบ่อเลี้ยงปลาจุดเกิดเหตุราว 3 กม.

ต่อมาบ่ายวันนี้ (29 ก.ย. 61) ร.ต.อ.ชาคิน คล่องแคล่ว รองสารวัตรสอบสวน สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี และผู้เสียหายชาว จ.กาญจนบุรี แจ้งว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 ก.ย. ได้ถูกคนร้ายขับรถเก๋งมาสด้า 3 สีขาว จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ มาประกบ ขณะตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกจากรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี มาตามถนนหน้า รพ.อู่ทอง เพื่อจะไปหาเพื่อนร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ โดยมีคนร้ายขับรถมาประกบเรียกให้ตนจอดรถ

จากนั้นคนร้ายอ้างว่าเป็นตำรวจชุด ป.ป.ส. ราว 5 คน ได้ล็อกตัวตน ใส่กุญแจมือไพล่หลัง เอาหมวกไหมพรมคลุมศีรษะด้วย คนร้ายที่อ้างว่าเป็น ปปส. บอกว่าตนถูกจับคดียาเสพติด แล้วคนร้ายได้ค้นเอาเงินสดในรถจักรยานยนต์ของตนไปจำนวน 50,000 บาท ต่อมาคนร้ายได้นำตัวตนขึ้นรถไป ตนก็ไม่ทราบว่าเป็นสถานที่ไหน จากนั้นคนร้ายได้ให้ตนติดต่อญาติให้โอนเงินเป็นค่าไถ่ตัว จำนวน 500,000 บาท แต่ทางญาติไม่มีเงิน หาเงินได้เพียง 100,000 บาท คนร้ายได้ให้ทางญาติตนโอนเงิน 100,000 บาท เข้าบัญชีธนาคารของตน โดยคนร้ายได้เอาบัตรเอทีเอ็มของตนไปกดเงินค่าไถ่ตัว จำนวน 100,000 บาท แต่ตนก็ไม่ทราบว่าคนร้ายนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินที่ไหน รวมทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปราว 200,000 บาทเศษ

กระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 25 ก.ย. คนร้ายได้พาตัวตนขึ้นรถมาปล่อยทิ้งริมคลองชลประทาน บ้านคณฑี ต.หนองโอ่ง อ.อู่ทอง จากนั้นจึงได้ติดต่อให้ญาติมารับตัวกลับบ้าน แต่ก็ไม่ได้ไปแจ้งความ เนื่องจากกลุ่มคนร้ายขู่เอาไว้ว่า ถ้าแจ้งความกับตำรวจจะกลับมาอุ้มตัวเอาไปอีก กระทั่งมาทราบในโลกโซเชียลทางเฟซบุ๊กว่า ตำรวจจับคนร้ายแก๊งอุ้มรีดเรียกค่าไถ่ที่อ้างเป็นตำรวจ ปปส.มาได้ 2 คน ตนเห็นว่าคนร้ายมีพฤติกรรมลักษณะเดียวกับที่มาก่อเหตุอุ้มเรียกเงินค่าไถ่ตัวเหมือนกัน จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี

เบื้องต้นจากการสอบสวน นายวิษณุ ขันข์เสน อายุ 39 ปี หนึ่งในผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้ไปก่อเหตุอุ้มรีดเรียกค่าไถ่ ส่วน นายศรีอุบล หลักทอง อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาอีกราย ให้การรับสารภาพว่า เป็นหนึ่งในคนร้ายที่ร่วมกับนายวิษณุและพวกอีกจำนวนหนึ่ง ก่อเหตุอุ้มรีดเอาทรัพย์สินจากผู้เสียหายไปจริง ตำรวจจึงได้คุมตัวนายศรีอุบล หนึ่งในคนร้ายที่ให้การรับสารภาพ ไปทำแผนชี้จุดก่อเหตุ แต่ถูกญาติผู้เสียหายที่ทราบข่าวมารอดูหน้าคนร้าย โดยทางญาติผู้เสียหายได้พยายามจะเข้ามารุมประชาทัณฑ์คนร้าย ตำรวจจึงต้องยกเลิกการทำแผน รีบนำตัวผู้ต้องหากลับไปฝากขังศาลสุพรรณบุรีต่อไป

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางตำรวจชุดสืบสวนกำลังเร่งรวมรวมพยานหลักฐาน เพื่อจะได้เร่งติดตามจับกุมคนร้ายแก๊งนี้ที่ยังหลบหนีอยู่มาดำเนินคดีต่อไป โดยล่าสุดกำลังเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารที่คนร้ายให้ทางญาติเหยื่อโอนเงินเข้าบัญชี และตรวจสอบภาพจากกล้องหน้าตู้เอทีเอ็มที่คนร้ายนำบัตรของเหยื่อไปกดเงิน เพื่อจะได้เป็นหลักฐานดำเนินคดีต่อไป

 

ติดตามข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์: workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว
ยูทูบ: workpoint news
ทวิตเตอร์: workpoint news
อินสตาแกรม: workpointnews

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า