เตือนภัย ! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ตุ๋นป้าวัย 68 สูญเงิน 2.5 ล้านบาท

ประเด็นคือ – ป้าเจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นตำรวจยศใหญ่โทร.มาบอกว่าป้ามีส่วนพัวพันกับขบวนการฟอกเงิน แม้ป้าปฏิเสธไม่รู้เรื่องแต่สุดท้ายก็ถูกหลอกให้หลงเชื่อและโอนเงินให้คนร้าย 2.5 ล้านบาท ก่อนมารู้ทีหลังว่าถูกหลอกจึงแจ้งความ ตำรวจกำลังเร่งหาตัวคนร้ายอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 3 พ.ย. 60 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี นางวลี ศรีกลั่น อายุ 68 ปี เจ้าของอพาร์ตเมนต์ศรีวลีแมนชั่น ซอยงามวงศ์วาน 14 ถนนงามวงศ์วาน ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.วชิรนุสรณ์ คำแพง สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ว่า ได้ถูกคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์มาอ้างเป็นตำรวจยศพลตำรวจตรี หลอกให้โอนเงินไปจำนวน 2.5 ล้านบาท โดยอ้างว่านางวลีมีส่วนพัวพันกับการฟอกเงิน หลังทราบเหตุผู้เสียหายได้นำหลักฐานการโอนเงินและหมายเลขโทรศัพท์ที่โทร.เข้ามาหลอก ให้กับตำรวจเพื่อติดตามเงินและตัวคนร้าย

จากการสอบถาม นางวลี ศรีกลั่น ผู้เสียหาย ทราบว่า เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.00 น. ได้มีคนร้ายเป็นชายโทรศัพท์มาหาตนอ้างว่าเป็นตำรวจยศ พล.ต.ต. บอกว่าตนมีส่วนพัวพันกับขบวนการฟอกเงิน หลังจากมีการตรวจสอบกล่องพัสดุไปรษณีย์ที่ส่งไปที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งภายในมีสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารจำนวน 10 เล่ม 1 ในนั้นมีบัญชีชื่อของนางวลี ที่ระบุว่ามีเงินฝากเข้า-ออกในบัญชีจำนวน 2 ล้านบาท ซึ่งตนก็ได้ปฏิเสธไปว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ถามอีกว่าตนมีสมุดบัญชีจำนวนกี่บัญชี ตนจึงตอบไปว่ามีอยู่ 2 บัญชี บัญชีแรกมีเงินฝาก 9,000 บาท ส่วนอีกหนึ่งบัญชีเป็นเงินฝากประจำ มีเงินฝาก 2.9 ล้านบาท ชายคนดังกล่าวจึงบอกว่าจะขอเชิญตัวมาสอบปากคำที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่่งตนก็ตอบไปว่าไปไม่ได้ ตนอยู่คนเดียวจะเดินทางไปได้อย่างไร ชายดังกล่าวจึงบอกว่าให้ตนโอนเงินที่มีอยู่เข้าบัญชีธนาคารของเจ้าหน้าที่เพื่อทำการตรวจสอบทั้งหมด 5 บัญชี บัญชีละ 500,000 บาท เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และหลังตรวจสอบเสร็จแล้วใช้เวลาไม่เกิน 6 เดือน หากไม่พบการกระทำผิดก็จะโอนเงินจำนวนดังกล่าวกลับคืนไปให้ ต่อมาชายคนดังกล่าวได้ให้หมายเลขบัญชีของธนาคารกรุงเทพ จำนวน 4 บัญชี และธนาคารไทยพาณิชย์จำนวน 1 บัญชี มาให้และวางสายไป

ต่อมาเวลา 10.00 น. ตนจึงได้เดินทางไปที่ธนาคารเพื่อทำการถอนเงินและโอนเงินไปตามบัญชีต่างๆ ที่คนร้ายบอก โดยคนร้ายได้โทรศัพท์กลับมาหาตนพร้อมถามว่าป้าไปธนาคารหรือยัง ตนจึงบอกไปว่ากำลังจะโอนเงินไปให้ ซึ่งคนร้ายได้เน้นย้ำว่าห้ามบอกเรื่องดังกล่าวกับใคร ไม่งั้นจะไม่ช่วยเหลือ และห้ามตนวางสายโทรศัพท์จนกว่าจะโอนเงินเสร็จ แต่เนื่องจากเป็นเงินจำนวนหลายบัญชี เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการทำเอกสาร เจ้าหน้าที่ธนาคารจึงได้ให้ตนไปทำธุระก่อนและกลับเข้าไปเซ็นชื่อภายหลัง

เมื่อเวลา 14.30 น. ตนจึงได้กลับไปที่ธนาคารอีกครั้งเพื่อเซ็นชื่อ ในขณะเดียวกันชายคนดังกล่าวก็ยังคงไม่ให้ตนวางสายและห้ามเล่าเรื่องให้ใครฟัง เมื่อเข้าไปในธนาคารให้ตนเอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเสื้อไว้ โดยยังคงไม่ต้องวางสาย หลังโอนเงินไปแล้วตนได้กลับมาที่บ้านและนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับคนรู้จักจึงรู้ว่าถูกหลอก จึงเดินได้เดินทางมาแจ้งความกับตำรวจ

ด้าน พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบหมายเลขบัญชีทั้งหมดที่คนร้ายหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าไปให้ว่าบุคคลใดเป็นเจ้าของบัญชี ขณะนี้ทราบชื่อเจ้าของบัญชีทั้งหมดซึ่่งเป็นบัญชีคนละจังหวัดกัน หลังจากนี้จะเชิญตัวมาสอบสวนว่ามีส่วนรู้เห็นกับแก๊งดังกล่าวหรือไม่ ขณะเดียวกันตำรวจได้เร่งประสานไปยังเจ้าหน้าที่ธนาคารทั้ง 5 บัญชี เพื่อให้ทำการอายัดเงินจำนวนดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอคำตอบจากทางธนาคารว่าจะสามารถอายัดเงินในบัญชีได้ทันหรือไม่ เนื่องจากเหตุเกิดผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว

เบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการตรวจสอบหมายเลขบัญชีทั้ง 5 และอยู่ระหว่างประสานตำรวจในแต่ละท้องที่ให้ติดตามตัวเจ้าของบัญชีเพื่อมาสอบปากคำหาผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดมาดำเนินคดี ในความผิดร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่นต่อไป