เปิดประวัติกีฬาเอเชียนเกมส์ : ยิงปืน

กีฬายิงปืนเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มายาวนานนับร้อยปี ปืนคือเครื่องมือสำคัญต่อการทหารและการล่าสัตว์ การยิงปืนต้องอาศัยความชำนาญ ดังนั้นจึงต้องมีการฝึกซ้อมกันอยู่เสมอ จนเกิดการแข่งขันขันยิงปืนกันขึ้นในหมู่ทหารและนายพราน จนเมื่อปืนได้แพร่หลายในสังคมมากขึ้น กีฬายิงปืนจึงถือกำเนิดขึ้น

ในศตวรรษที่ 16 ชมรมยิงธนูในเยอรมันเริ่มจัดการแข่งขันยิงปืนขึ้นควบคู่ไปกับการยิงธนู จนมาในศตวรรษที่ 19 กีฬายิงปืนได้แยกออกจากกีฬายิงธนู มาเป็นกีฬาประเภทใหม่อย่างเต็มตัวและนำไปสู่การก่อตั้ง สหพันธ์ยิงปืนแห่งชาติในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (The Société Suisse des Carabiniers) ในปี 1824 ตามมาด้วยอังกฤษ ได้ก่อตั้งสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติในปี 1860 ต่อมาทางสหรัฐฯ นายทหารนอกราชการ วิลเลียม เชิร์ช (William C. Church) และนายพลจอร์จ วินเกต (George Wingate) ได้ร่วมกันก่อตั้งสมาคมปืนไรเฟิลแห่งอเมริกาในปี 1871 จนกระทั้งปี 1907 ก็ได้มีการตั้งสหพันธ์กีฬายิงปืนนานาชาติ (International Union of National Shooting Federations and Associations) หรือ ISSF ขึ้น

ต่อมาได้มีการบรรจุเป็นชนิดกีฬาอย่างเป็นทางการตั้งแต่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกในปี ค.ศ 1892 และ ได้ถูกบรรจุเป็นกีฬาการแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งแรกในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 2 ในปี ค.ศ 1954 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

สำหรับรูปแบบการแข่งขันกีฬายิงปืนในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ จะแบ่งขนาดอาวุธปืนออกเป็น 3 ประเภทคือ ปืนยาว, ปืนสั้น และปืนลูกซอง

ปืนยาวหรือปืนไรเฟิลหมายถึง ปืนที่มีลำกล้องยาว ภายในลำกล้องจะมีการสลักเกลียวไว้เพื่อให้ลูกปืนมีการหมุนรอบตัวเอง ซึ่งทำให้ลูกปืนรักษาทิศทางการเคลื่อนที่ได้ดีขึ้น ปืนชนิดนี้จึงสามารถยิงได้แม่นยำในระยะไกลซึ่งผู้ยิงจะต้องวางพานท้ายไว้กับร่องไหล่ของมือข้างถนัดเพื่อให้สามารถถือได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น โดยปืนยาวในการแข่งขันมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทคือใช้ดินปืนขับดัน กับใช้ลมขับดัน การยิงปืนเล็กยาวในการแข่งขันจะมี 3 ท่า คือ ท่ายืน (Standing), ท่านั่ง (Kneeling) และท่านอน (Prone)

ปืนสั้นหมายถึงปืนที่ผู้ยิงสามารถถือได้ด้วยมือข้างเดียว และเป็นปืนที่เก็บกระสุนรวมกับลำกล้อง ทำให้ปืนประเภทนี้ปืนชนิดนี้มีขนาดเล็กและสามารถยิงได้ง่าย โดยในการแข่งขันก็มีปืนสั้น 2 ประเภทเช่นเดียวกับปืนยาวคือ ประเภทใช้ดินปืนเป็นตัวขับ กับใช้ลมเป็นตัวขับ

ปืนลูกซองหมายถึง ปืนลำกล้องยาว ที่ไม่ได้มีการสลักเกลียวเอาไว้ กระสุนที่ใช้บรรจุจะเป็นกระสุนลูกปราย เพื่อเพิ่มโอกาสในการยิงถูกเป้าหมายมากขึ้น โดยในการแข่งขันปืนลูกซอง จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ

• สกีต เป็นการยิงเป้าบิน โดยผู้ยิงจะอยู่ห่างจากเครื่องปล่อยเป้าบิน 25 หลา เป้าจะเคลื่อนที่จากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งของผู้ยิง ผู้ยิงจะต้องรอจนกว่าเป้าถูกยิงออกมาจึงจะประทับปืนในท่าพร้อมยิงได้ และมีโอกาสยิงได้ 1ครั้งเท่านั้น
• แทร็ป เป็นการยิงเป้าบินที่ปล่อยจากเครื่องที่ตั้งอยู่ด้านหน้าผู้ยิง โดยเป้าจะพุ่งหนีออกจากตำแหน่งของผู้ยิงออกไปตามทิศทางต่างๆ ซึ่งผู้ยิงจะมีโอกาศยิงได้ 2 ครั้ง
• ดับเบิ้ล แทร็ป จะมีการยิงคล้ายกับแทร็ป แต่เป้าจะถูกปล่อยออกมา 2 เป้าพร้อมกัน ซึ่งผู้ยิงมีโอกาศยิงได้เป้าละ 1 นัดเท่านั้น

โดยในประเภทชายจะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 10 ประเภทคือ

1. ปืนยาวอัดลมชาย 10 เมตร
2. ปืนยาวมาตรฐาน 3 ท่ายิง 300 เมตร
3. ปืนสั้นอัดลมชาย
4. ปืนสั้นยิงเร็วชาย
5. ปืนยาว 3 ท่ายิง 50 เมตร
6. ปืนลูกซอง แทรป
7. ปืนลูกซอง สกีต
8. ปืนลูกซอง ดับเบิ้ล แทร็ป
9. ยิงเป้าบิน
10. Running Target Mixed 10 เมตร

ประเภทหญิงจะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 7 ประเภทคือ

1. ปืนยาวอัดลมหญิง 10 เมตร
2. ปืนยาว 3 ท่ายิง 50 เมตร
3. ปืนสั้นอัดลมหญิง 10 เมตร
4. ปืนสั้นหญิง 25 เมตร
5. ปืนลูกซอง แทรป
6. ปืนลูกซอง สกีต
7. ปืนลูกซอง ดับเบิ้ล แทร็ป

ส่วนในประเภทผสมแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ

1. ปืนยาวอัดลม 10 เมตร
2. ปืนสั้นอัดลม 10 เมตร
3. ปืนลูกซอง แทรป

กฏกติกาการให้คะแนนการแข่งขันนั้นจะถูกตัดสินโดยหลากหลายปัจจัย ได้แก่ การปฏิบัติตามกฏระเบียบ, ระยะวิถี, ประเภทของเป้า, ตำแหน่งการยิง, จำนวนนัด และเวลาที่กำหนดในการยิงแต่ละนัด

ด้านสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย โดยนายชัย พฤกษากร ผู้จัดการทีมชาติไทยเผยว่า ทีมชาติไทยส่งนักกีฬาลงแข่งขัน 21 คน โดยแบ่งเป้าบินและประเภทปืนสั้น, ปืนยาว ซึ่งตัวเต็งในรายการนี้คือจีนและเกาหลีใต้ ทางสมาคมจึงหวังไว้ที่การมีนักกีฬาเข้าถึงรอบไฟนอลให้ได้ไว้ก่อน โดยมีนักกีฬาความหวังประมาณ 2-3 คนที่มีประสบการณ์ในระดับโอลิมปิกเกมส์มาแล้ว หากกลุ่มนี้เข้าถึงไฟนอลได้ก็สามารถลุ้นถึงการมีเหรียญ

“อัส” นภิศ ต่อตั้งพานิช

รายชื่อนักนักกีฬาประเภทยิงเป้าบินประกอบด้วย

1. นายจิรนันท์ หทัยชูเกียรติ
2. นายธนภัทร จังพานิช
3. นายเศวต เศรษฐาภรณ์
4. นายชาติชาย อุฬารวิริยากุล
5. นางสาวสุธิยา จิวเฉลิมมิตร
6. นางสาวนัชญา สุทธิ์อาภรณ์
7. นางสาวฉัฐญา กิจเจริญ
8. นางณปภา ประมวลโชค

“มิว” ธัญลักษณ์ โชติพิบูลศิลป์

ส่วนในประเภทปืนสันและปืนยาวประกอบด้วย

1. นายปองพล กุลชัยรัตนา
2. นายณัฐพันเลิศ เอื้ออภิญญกุล
3. นายทองผาภูมิ วงศ์สุขดี
4. นายนภิศ ต่อตั้งพานิช
5. นายพงศธร ปัญญาทอง
6. นายอิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์
7. นายศรียานนท์ การดี
8. นางสาวณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์
9. นางสาวธันยพร พฤกษากร
10. นางสาวรัชฎาภรณ์ เปล่งแสงทอง
11. นางสาวธัญลักษณ์ โชติพิบูลศิลป์
12. นางสาวธารารัตน์ มรกต
13. นางสาวเณศรา จำปารัตน์

อย่าลืมติดตามรับชม เอเชียนเกมส์ 2018 ระหว่างวันที่ 18 ส.ค.-2 ก.ย. นี้ ถ่ายทอดสดทางช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 และช่องทางออนไลน์บนเฟซบุ๊ก Workpoint Entertainment และยูทูบ WorkpointOfficial

https://www.facebook.com/workpoint/videos/10155652805991332/

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก   Napis Tortungpanich, มิว ธัญลักษณ์ โชติพิบูลศิลป์ – Chotphibunsin Thanyalak