“โจอี้” ลาออกจากตำแหน่งรองประธาน ‘เชียงราย ยูไนเต็ด’ แล้ว

ประเด็นคือ – ‘ธนพล วิระเทพสุภรณ์’ ลาออกจากรองประธานสโมสรสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด อ้างไปดูแลครอบครัวและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

วันที่ 21 ม.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนพล วิระเทพสุภรณ์ หรือ โจอี้ บุตรชายของ ‘เสี่ยกำพล’ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ นายทุนใหญ่ของวิคตอเรียซีเครท ได้ลาออกจากตำแหน่งรองประธานสโมสรสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แล้ว

โดย นายโรจน์ พุทธคุณ ฝ่ายบริหารด้านการตลาดและที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ของสโมสร ได้ออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณี นายธนพล วิระเทพสุภรณ์ ขอลาออกจากตำแหน่งรองประธานสโมสร พร้อมชี้แจงเรื่องเงินสนับสนุนจากบริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA ที่เสี่ยกำพล เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

“คุณธนพล วิระเทพสุภรณ์ หรือคุณโจอี้ ซึ่งแต่เดิมได้ดำรงตำแหน่งรองประธานสโมสร ซึ่งเข้ามารับผิดชอบเรื่องการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้กับสโมสรนั้น ปัจจุบันได้ลาออกจากตำแหน่งรองประธานสโมสรตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2561 ที่ผ่านมา เนื่องด้วย คุณโจอี้ เห็นว่าการที่ทางครอบครัวของตนได้ถูกกล่าวหาและอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสโมสร จึงตัดสินใจลาออกเพื่อไปดูแลครอบครัว และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น”

“โดยต้องเรียนให้ทุกคนทราบว่า คุณโจอี้ นั้น เข้ามาทำฟุตบอลด้วยใจที่รักและหลงใหลในกีฬาฟุตบอลและได้รู้จักกับทางประธาน และครอบครัวติยะไพรัช จึงขันอาสาเข้ามาดูแลเรื่องการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้กับทางสโมสรเท่านั้น”

“ในประเด็นต่อมา ในส่วนที่มีการสงสัยเกี่ยวกับบริษัท อควา แอด จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้สนับสนุนของทางสโมสร ผมขอเรียนชี้แจงในประเด็นนี้ว่า บมจ.อควา เป็นบริษัทมหาชน ที่ประกอบกิจการในสื่อโฆษณา โดยในการเข้ามาเป็นผู้สนับสนุน หรือ สปอนเซอร์ให้กับทางสโมสรก็เป็นการเข้ามาโดยปกติ และเป็นไปตามกระบวนการเช่นเดียวกับสโมสรฟุตบอลไทยอื่นๆ”

“ซึ่งสโมสรต้องยื่นขอรับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์นั้นๆ และการที่สโมสรจะได้รับการสนับสนุนก็ต้องผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการของบริษัทแต่ละบริษัทเสียก่อน ซึ่งกรณีของบริษัท อควาฯ ก็เป็นไปตามกระบวนการเช่นว่านั้น”

สำหรับ ‘เสี่ยกำพล’ ถูกออกหมายจับในข้อหากระทำความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์ โดยเป็นผู้แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากบุคคล และเด็ก (บุคคลผู้มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปี) โดยการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี/สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยได้ลงมือกระทำ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำาความผิดฐานค้ามนุษย์โดยได้ลงมือกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ตามที่ได้สมคบกันและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำาความผิดฐานค้ามนุษย์ และหาอื่นๆ รวม 12 ข้อหา

ที่มา : CHIANGRAI UNITED, Roaj Putthakhoon