SHARE

คัดลอกแล้ว

ฆูเลน โลเปเตกี ประเดิมนัดแรกพาเรอัล มาดริด พ่ายแอตเลติโก มาดริด 2-4 สร้างสถิติเป็นกุนซือคนแรกในรอบ 70 ปี ที่ประเดิมด้วยการเสียถึง 4 ประตู

จากเกมยูเอฟ่า ซูเปอร์คัพ ช่วง 02.00 น. (ตามเวลาไทย) เรอัล มาดริด เจ้าของแชปม์ยูเอฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ดวลกับ แอตเลติโก มาดริด เจ้าของแชมป์ยูเอฟ่า ยูโรป้าเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาเช่นกัน และเป็นทางทีม “ตราหมี” ที่ออกนำไปก่อนหลังเริ่มเกมเพียง 48 วินาที จากลูกยิงของดิเอโก คอสต้า ก่อนที่ทางราชันชุดขาวจะยิง 2 ประตูรวดจากคาริม เบนเซม่าในนาทีที่ 27 และจุดโทษจากเซร์คิโอ รามอสในนาทีที่ 63 จนช่วงท้ายเกมในนาทีที่ 79 แอตฯ มาดริดจะตามตีเสมอสำเร็จจากการยิงของดิเอโก คอสต้า คนเดิม ครบ 90 นาทีเสมอกัน 2-2 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที และเป็นทางแอตฯ มาดริดที่มากดเพิ่มอีก 2 ประตูจากซาอูล นีเกวซ ในนาทีที่ 99 และโกเก้ในนาทีที่ 104 จบเกมเป็นทางแอตเลติโกมาดริดที่คว้าแชมป์รายการนี้ไปครอง

ฆูเลน โลเปเตกี กุนซือเรอัล มาดริด

หลังจบเกมมีคำถามและข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับศักยภาพของเรอัล มาดริดในฤดูกาลนี้ ฆูเลน โลเปเตกี อดีตกุนซือทีมชาติสเปนที่เพิ่งเข้ารับงานคุมทีมในถิ่นซานติอาโก้ เบอร์นาบิวก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่ม ต้องกลายเป็นกุนซือเรอัล มาดริดคนแรกในรอบ 70 ปี! ที่ประเดิมคุมทีมเรอัล มาดริดแล้วเสียประตูถึง 4 ลูก โดยกุนซือเรอัล มาดริดคนแรกที่เสีย 4 ประตูในการคุมทีมนัดแรกคือ ไมเคิล คีปปิง ที่พาทีมแพ้เซลตา บีโก 1-4 เมื่อปี 1948

นอกจากนี้การขาดหายไปของคริสเตียโน โรนัลโด้ที่ย้ายไปร่วมทีมยูเวนตุส ก็ทำให้อาวุธในเกมรุกของเรอัล มาดริดดูลดประสิทธิภาพลง ซึ่งตำแหน่งของโรนัลโด้ที่วางลงทำให้มาดริดต้องหานักเตะคนอื่นมาทดแทน คำถามคือนักเตะคนนั้นคือใครล่ะ? มาร์โก อเซนซิโอ, ลูคัส บาสเกวซ หรืแม้กระทั่งวินิซุอุส จูเนียร์ ไม่มีใครปฏิเสธว่านักเตะเหล่านี้สามารถเล่นในตำแหน่งเดิมของโรนัลโด้ได้ แต่นักเตะเหล่านี้อาจสร้างอิมแพ็คได้ไม่เท่ากับที่ “ซีอาร์7” เคยทำไว้ ตรงจุดนี้ถือเป็นโจทย์ที่ทางเรอัล มาดริด โดยเฉพาะฆูเลน โลเปเตกี จะต้องไปนั่งขบคิดว่าแผนการเล่นที่ดีให้กับทีม

ดิเอโก ซิเมโอเน่ กุนซือทีม “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด

สำหรับการคว้าแชมป์ครั้งนี้ของแอตเลติโก มาดริด ทำให้ดิเอโก ซิเมโอเน่ กลายเป็นโค้ชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร  ด้วยการคว้าแชมป์เมเจอร์ 7 รายการ ประกอบด้วย แชมป์ ลาลีก้า 1 สมัย, โกปา เดล เรย์ 1 สมัย, สแปนิช ซูเปอร์คัพ 1 สมัย, ยูโรป้าลีก 2 สมัย และยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 2 สมัย นอกจากนี้ นอกจากนี้ซิเมโอเน่ยังสร้างสถิติอีกหนึ่งอย่างคือ เป็นโค้ช “ตราหมี” คนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถปราบ เรอัล มาดริด ในรอบชิงได้ถึง 3 รายการ ได้แก่ โกปา เดล เรย์ ปี 2013, สแปนิช ซูเปอร์ คัพ ปี 2014 และยูฟา ซูเปอร์ คัพ ปี 2018

 

 

 

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า