โหมโรงศึก WP Boxing ประจำวันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2561 เดือด!!!!!!!!

https://www.facebook.com/WPboxing23/videos/1140881639402319/

คู่รอง “เทพบุตรบ้านทรายทอง” ชายน้อย วรวุฒิ เฉือนคม “จอมโรแมนติก love forever” รักนิรันดร์ ดาบรันสารคาม

ศึกนี้เป็นศึกวัดความหนักของทางฝั่งชายน้อย เนื่องจาก 3 ไฟต์ที่ผ่านมาน็อกคู่ชกมารวด 3 ไฟต์ แถมเก็บคู่ชกได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว มาไฟต์นี้ขึ้นชั้นมาเจอกับรุ่นพี่ที่ประสบการณ์เหนือกว่าอย่างรักนิรันดร์  แฟนมวยต้องจับตาดูว่า ชายน้อยจะเป็นฝ่ายคว้าชัยเหนือรักนิรันดร์ได้หรือไม่

หากวัดจากผลงานสามไฟต์ที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือนักชกดาวรุ่งที่ร้อนแรงที่สุด แฟนมวยจับตามองการขึ้นเวทีของเขามากที่สุด  เนื่องจากสไตล์การชกดุดัน หนักหน่วง และลูกติดตามดีมากๆ ในสมัยที่ต่อยมวยไทย ชายน้อยวรวุฒิถือเป็นนักมวยไทยที่ต่อยหมัดได้ดีอยู่แล้ว และนับตั้งแต่เบนเข็มมาชกมวยสากล  โดยมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่เข็มขัดแชมป์เปี้ยนโลก ชายน้อยพัฒนาการออกหมัดในแบบมวยสากลได้ดีขึ้นมาก โดยเฉพาะไฟต์ที่กล่อมยูยะ นากามูระเกือบหลับ ไฟต์นั้นแฟนมวยทุกท่านคงเห็นชัดเจนว่า ชายน้อยออกหมัดได้แคบ คม เข้าเป้า เข้าโฟกัสดีมากๆ  และออกหมัดได้ดีทั้งซ้ายและขวา  และหวังผลได้ทุกหมัด  ไม่ว่าจะฮุคซ้าย หรือขวาตรง  และเมื่อต่อยคู่ชกออกอาการแล้ว  ลูกติดตามของชายน้อยนั้นดุดัน เหี้ยมเกรียม และแน่นอนมากๆ  เรียกได้ว่าถ้ามีโอกาส ชายน้อยขย้ำทันทีไม่มีปราณี

แต่ก็ยังมีคำถามอยู่บ้างว่า การที่ชายน้อยสามารถน็อคคู่ชกทั้งสามไฟต์ได้ในระยะเวลาที่รวดเร็วนั้นเป็นเพราะว่า คู่ชกแต่ละคนยังเป็นคู่ชกในสไตล์ที่ ชายน้อยยังไม่ต้องเสียแรงเดินไล่มาก  ชายน้อยมีโอกาสที่จะยืนปล่อยหมัดใส่ได้ในระยะถนัดนี่  หากไปเจอคู่ชกที่เท้าเร็วกว่านี้ ชายน้อยจะไล่ทันไหม  หมัดของชายน้อยเมื่อต้องไล่มวยเยอะๆ จะยังคงขลังเหมือนเดิมหรือไม่  ยังคงเป็นคำถามที่ติดอยู่ในใจแฟนมวยบางท่าน  ความสงสัยของแฟนมวยข้อนี้  ก็ตรงกับที่ชายน้อยเคยให้สัมภาษณ์กับเพจมวยเพจหนึ่งว่า  จุดที่ตนเองต้องปรับปรุงคือเรื่องของสเต็ปเท้าที่ยังติดรูปแบบมวยไทยอยู่

นอกเหนือไปจากนี้  เรื่องการป้องกันตัวยังเป็นอีกข้อหนึ่งที่แฟนมวยบางส่วนตั้งคำถาม  เพราะดูเหมือนว่า ในขณะที่ออกหมัด การ์ดของชายน้อยจะตกทั้งซ้ายและขวา ไฟต์นี้เจอมวยที่ประสบการณ์ในเชิงสากลเหนือกว่า ต้องดูกันว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร

https://www.facebook.com/WPboxing23/videos/1077986202375849/

ฝั่งรักนิรันดร์ ดาบรันสารคาม  สถิติการชกชนะ 13 น็อก 8 แพ้ 2 เป็นมวยที่ต่อยได้สองสไตล์ทั้งรุกและรับ จุดเด่นคือ หมัดชุดต่อเนื่องที่สวยงามรวดเร็ว ออกแต่ละครั้ง 4-5 หมัด  ถ้าเปรียบชายน้อยเป็นปืนบาซูก้าประเภทโป้งเดียวนับโป้งเดียวน็อค  เจ้าแดง รักนิรันดร์คงเป็นปืนกลที่รัวกระสุนนับสิบๆ นัดเข้าใส่คู่ต่อสู้  ก่อนการชกจะเริ่มมีหลายๆเสียงจากแฟนมวยที่เทใจไปทางชายน้อยเพราะเชื่อว่าความหนักของชายน้อยจะกล่อมเจ้าแดงให้หลับได้แบบแบเบอร์ แต่ทางฝั่งเจ้าแดงก็ออกมาประกาศลั่นว่า “ไม่มีกลัว และผมไม่เคยแพ้น็อคใคร” ด้วยศักดิ์ศรีของมวยรุ่นพี่ คงไม่มีทางที่รักนิรันดร์จะยอมให้ชายน้อยใช้ตนเองเป็นบันไดไต่ไปสู่ระดับโลกได้ง่ายๆ ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่านอกเหนือไปจากประสบการณ์ที่เหนือกว่า นี่จะเป็นครั้งแรกที่ชายน้อยต้องเจอกับมวยในสไตล์แบบรักนิรันดร์ ซึ่งถ้าหากวัดกันในระดับประเทศ  เบสิคมวยสากลของเจ้าแดงถือว่าอยู่ในระดับต้นๆ ของเมืองไทย

อย่างที่ตั้งคำถามไปแล้ว ว่าหากชายน้อยต้องเจอกับนักมวยที่ชั้นเชิงดี หมัดของชายน้อยจะยังคงความขลังอยู่หรือไม่  ประเด็นก็คือ  จุดเด่นของรักนิรันดร์นั้นแม้จะต่อยได้สองสไตล์   แต่ดูใจของเจ้าแดงแล้วนั้นชอบเป็นฝ่ายเดินเกมบุกเสียมากกว่า  และชอบเหลือเกินกับการดึงหลบหมัดคู่ต่อสู้  แล้วตามเข้าไปยิงหมัดชุดใส่คู่ชกอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวผมมองว่าเกมนี้ไม่ง่ายสำหรับชายน้อย  เพราะจุดอ่อนของชายน้อยคือเรื่องสเต็ปขากับการ์ดที่ยังตก ดันไปประกบกับจุดแข็งของเจ้าแดงพอดี  นั้นคือสเต็ปขาและหมัดชุดที่ดี

ระหว่างความหนัก คม แรง เหมือนปืนบาซูก้า กับความ คล่อง เร็ว หลากหลายแบบปืนกล ใครจะเป็นผู้ชนะ โปรดติดตามได้ในวันที่ 17 พฤศจิกายน เวลา 14.30 น.

และพลาดไม่ได้สำหรับคู่เอก “ไอ้หนุ่ม 9 พลัง” นวพล นครหลวงโปรโมชั่น ปะทะ “ไอ้ลูกระเบิดฟิลิปปินส์”  ริชาร์ด คาร์เวราส

ฝั่งคาร์เวราส มวยฟิลิปปินส์รายนี้เป็นมวยหมัดหนัก สถิติการชก ชนะ 18 ชนะน็อก 15 แพ้ 5 เสมอ 2  แถมยังมีประสบการณ์บนเวทีเหลือเฟือ เป็นอดีตผู้ท้าชิงเข็มขัดแชมป์โลก และเป็นอดีตคู่ชกของเปโดร กูเอวาร่า (ว่าที่คู่ชกคนต่อไปของโรมัน กอนซาเลซ)  สไตล์การชกของมวยปินส์รายนี้ ออกแนวกล้าได้กล้าเสีย กล้าบวก กล้าแลกกล้าลุย  จุดเด่นคือ การเดินหน้าใช้หมัดซ้ายหน้าวัดระยะแล้วทิ้งขวาตรง เมื่อเข้าระยะประชิดก็จะระดมต่อยฮุคซ้ายและขวาใส่คู่ชกไม่หยุด  ด้วยสไตล์การชกแบบนี้ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมนักมวยรายนี้มีสถิติชนะน็อคถึง 15 ครั้ง

แต่ในขณะเดียวกัน การเดินเกมบุกที่เป็นจุดเด่นของคาร์เวราส ก็กลายเป็นจุดอ่อนในขณะเดียวกัน เพราะการออกหมัดแบบทิ้งทั้งไหล่  จึงทำให้การเข้ามวยดูหลวมๆ และลำตัวของคาร์เวราสไม่ค่อยดีนัก

https://www.facebook.com/WPboxing23/videos/319556102215860/

ส่วนนวพล นครหลวงโปรโมชั่น ชนะ 42 ชนะน็อก 33  แพ้ 1 เสมอ 1

ดีกรี อดีตผู้ท้าชิงแชมป์โลกอีกคนหนึ่ง เป็นนักมวยที่มีรูปร่าง ช่วงชกสวยงาม จุดเด่นคือหมัดชุดล่างสลับบน โดยเฉพาะซ้ายตัดลำตัวทำได้ดี  ซึ่งหากนวพลใช้จุดนี้เล่นงานคาร์เวราส น่ามีลุ้นถึงน็อd แต่สิ่งสำคัญคือ  นวพลคงต้องเน้นเรื่องการป้องกันตัวให้รัดกุมด้วย  เพราะขวาตรงของคาร์เวราส หากเข้าเป้า นวพลอาจถึงกับหล่น

กุญแจสำคัญของเกมนี้อยู่ที่ใครป้องกันตัวได้ดีกว่ากันมีโอกาสเบียดชนะ เพราะเกมรุกจัดจ้านด้วยกันทั้งคู่

ใครจะเป็นผู้ชนะเปิดช่อง Workpoint 23 เสาร์ที่  17 พฤศจิกายน 2561 เวลา 14.30 น.