https://www.facebook.com/WorkpointNews/videos/368696290392713/?v=368696290392713
เผชิญความจริงด้วยความเข้าใจ ผู้ป่วยมะเร็งไม่จำเป็นต้องให้คีโมทุกคน การให้ยาเคมีบำบัด (คีโม) เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการรักษา ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของโรคด้วย และหากต้องให้คีโม ระหว่างนั้นควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?
ปีที่ผ่านมา (2561) คนไทยป่วยเป็นมะเร็งเกิน 1 แสนคน การให้เคมีบำบัด (คีโม) ถือเป็นส่วนหนึ่งในการรักษา ส่วนให้คีโมแล้วจะรอดชีวิตหรือไม่ ขึ้นอยู่กับระยะและชนิดของโรค โดย นายแพทย์วิษณุ โล่ห์สิริวัฒน์ (หมอบัว) ศัลยกรรมแพทย์ตกแต่งและเสริมสร้าง สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย และอาจารย์ประจำภาควิชาศัลยศาสตร์ รพ.ศิริราช ให้คำแนะนำ 5 ข้อสำคัญในการรับมือระหว่างการคีโม ได้แก่
- ดูแลตัวเองให้ดี
ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ถ้าจะออกกำลังกายให้ออกกำลังกายเบาๆ อย่างเหมาะสม ถ้าเป็นไปได้ก็เป็นการออกกำลังกายที่เราคุ้นเคยอยู่แล้ว ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายสดชื่น และช่วยให้ผลข้างเคียงของเคมีน้อยลงด้วย เช่น อย่างน้อยวันนึงควรจะดื่ม 1.5 – 2 ลิตร ส่วนอาหาร ควรเป็นอาหารที่ใหม่ สด สุก สะอาด ทานอาหารให้หลากหลาย บางท่านช่วงที่ให้เคมีไม่ทานเนื้อเลย อาจจะขาดโปรตีนบางตัวไปก็ได้ และหากต้องออกไปสถานที่สาธารณะต้องป้องกัน เช่น ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันมลภาวะ หรือไปโรงพยาบาลก็ต้องป้องกันการติดเชื้อจากเราไปสู่คนอื่น และจากคนอื่นมาที่เราด้วย
- สังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
เคมีบำบัดออกฤทธิ์ทั้งร่างกายเรา ดังนั้น ต้องสังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกายทั้งหมด อาทิ สีลูกตา ผิวหนังเราเป็นยังไง สีอุจจาระ สีปัสสาวะเราเป็นยังไง น้ำหนักตัวเราเป็นยังไง ชั่งแล้วบันทึกไว้ทุกวัน ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลง เราสามารถบอกแพทย์ผู้รักษาได้ทันท่วงที
3. ทำใจให้สบาย คนดูแลต้องเข้าใจ
คนที่ได้เคมีบำบัด หรืออยู่ระหว่างรับการรักษาจะพบภาวะซึมเศร้ามาก หรือบางคนอาจจะมีอารมณ์ไม่ค่อยคงที่ ผู้ที่ให้การดูแลต้องเข้าใจเขา เนื่องจากภาวะที่คนไข้รู้ว่าเป็นมะเร็ง ส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มจากปฏิเสธก่อน เช่น ฉันกินมังสวิรัติทำไมถึงเป็นมะเร็ง ทำไมฉันไม่สูบบุหรี่ทำไมเป็น ซึ่งคุณหมออยากจะให้ทำใจรับให้ได้ว่า นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเรา เมื่อเราทำใจได้แล้ว เราถึงจะสู้กับเขาได้
- เลี่ยงการใช้ยาสมุนไพรร่วม
หมอบัวแนะนำว่า ถ้าเป็นไปได้ ระหว่างการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ไม่แนะนำให้ใช้ยาสมุนไพรควบคู่กัน แต่ถ้าสมมติจะใช้จริงๆ ให้นำยาตัวนั้นมาให้คุณหมอที่รักษาดูว่า ยาตัวนี้ให้ผู้ป่วยทานได้ไหม เพราะทีมแพทย์จะเสียใจมาก หากนัดคนไข้มารักษา นัดมาผ่าตัด นัดมาแล้ว คนไข้หายไป แล้วเจอคนไข้อีกที อีก 6 เดือนข้างหน้า ปีนึงข้างหน้า ปรากฏว่าไปรับยาอย่างอื่นมา หรือไปรักษาวิธีอื่นมา ปรากฏมะเร็งระยะ 1 กลายเป็นระยะ 4 หรืออาจไปเสียชีวิตข้างนอก
- เข้ารับการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
การที่คนไข้มะเร็ง 1 คน เดินเข้ามาในโรงพยาบาล บุคลากรการแพทย์ที่มาดูแลคนไข้คนนึงนั้นเยอะมาก ซึ่งคุณหมอกล่าวว่า ทีมแพทย์อยากจะช่วยให้ทุกคนพ้นจากภาวะตรงนั้นไปได้ แต่ทีมแพทย์อย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะช่วยได้ ต้องอาศัยความเชื่อมั่น เชื่อใจของคนไข้ ต้องอาศัยกำลังใจของคนไข้และคนรอบข้างด้วย
“อยากให้มั่นใจว่า มะเร็ง รู้ไว รักษาทัน หายได้แน่นอนครับผม” หมอบัว กล่าวทิ้งท้าย