‘ศุภชัย’ จ่อหารือกมธ.ตำรวจ-สธ. ปมปลดกัญชาออกจากยาเสพติด หลังยายวัย 70 ปีถูกจับปลูกกัญชา 1 ต้น

‘ศุภชัย’ ฉุนตำรวจจับยายวัย 70 ปีปลูกกัญชา 1 ต้น เผยที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนกว่า 100 คดี ชี้สิ่งที่เกิดขึ้นตำรวจทำงานสวนทางฝ่ายนโยบาย เตรียมหารือ กมธ.ตำรวจและสธ.ถึงความชัดเจนอีกครั้ง

วันที่ 21 มี.ค. 2565 นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีหญิงวัย 70 ปี ที่จ.ขอนแก่น ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวและแจ้งข้อหา “ผลิต(ปลูก) และมียาเสพติดให้โทษประเภท (กัญชาสด) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการอนุญาตให้ปลูก หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อการบำบัดรักษา” โดยถูกจับกุมในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 19 มี.ค. 65 พร้อมส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี

นายศุภชัย ระบุว่ากรณีดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้บังคับใช้กฎหมายไม่ได้ให้ความสนใจหรือไม่มีความเข้าใจต่อกรณีที่ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ได้ปลดกัญชาออกจากยาเสพติดและมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 64 พร้อมทั้งขอแจ้งให้ทราบว่าหากประชาชนถูกดำเนินคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและถูกจับกุม ขอให้ติดต่อมายังตนและพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีความยินดีในการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยขณะนี้มีผู้ร้องเรียนมามากกว่า 100 คดี แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ให้ความสนใจว่าฝ่ายนิติบัญญัติได้ปลดกัญชาออกจากยาเสพติดแล้ว แต่ก็ยังคงมีการดำเนินคดีและมีการจับกุมประชาชนที่ได้ปลูกกัญชาไว้เพื่อการรักษาอาการเจ็บป่วย เป็นการแสดงให้เห็นถึงความไม่เข้าใจหรือเจตนาที่จะไม่ทำความเข้าใจในกฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

พร้อมให้ข้อสังเกตไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า ควรให้ความสนใจในกรณีดังกล่าว และไม่ปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาดำเนินการต่อประชาชนเช่นนี้อีก ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากจึงได้หารือร่วมกับประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจและประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข โดยจะเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและอัยการสูงสุด มาร่วมประชุมเพื่อหารือถึงมุมมองและความเห็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวการการบังคับใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดในประเด็นที่ได้มีการปลดกัญชาออกจากยาเสพติด ซึ่งหมายถึงว่า ประเทศไทยไม่ได้กำหนดว่า กัญชาเป็นยาเสพติดอีกต่อไป

เรื่องที่เกิดขึ้น ยังสวนทางกับนโยบายของฝ่ายบริหาร ที่นายกรัฐมนตรีก็สนับสนุน และอยู่ระหว่างที่กระทรวงสาธารณสุข จัดงานเผยแพร่ความรู้ให้ประชาชนได้เข้าใจ ถึงการปลูกกัญชาในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมีกำหนดจัดงานที่จังหวัดขอนแก่นในวันที่ 1-3 เม.ย. นี้ด้วย แต่กลับมีการจับกุมคุณยายวัย 70 ปี ที่ปลูกกัญชาไว้เพียง 1 ต้นเพื่อไว้รักษาตัวเอง แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้ความสำคัญ ดังนั้น ต้องถาม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่าเข้าใจประมวลกฎหมายยาเสพติดหรือไม่

ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยและพรรคการเมืองอื่นๆ ได้เสนอร่าง พระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. …. ต่อสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาและถูกบรรจุเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในสมัยเปิดสมัยประชุมหน้า เพื่อให้พิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยขอยืนยันว่าการเสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้พี่น้องและประชาชนสามารถเข้าถึงกัญชาในทางการแพทย์ได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่เพื่อการเอื้อประโยชน์ของนายทุนหรือพรรคการเมืองแต่อย่างใด

นายศุภชัย ยืนยัน ว่าวันนี้กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด ไม่ใช่ยาเสพติดมาตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 64 แต่สิ่งที่จะเป็นยาเสพติดและเกี่ยวกับกัญชาคือสารสกัด ที่มีค่า THC เกิน 0.2% แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับมีความเห็นไม่ตรงกัน จึงจำเป็นที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด ต้องประสานผู้ใต้บังคับบัญชา ให้เข้าใจเรื่องนี้ให้ตรงกัน เพราะหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ ทำให้คุณธรรมทางกฎหมาย และคุณค่าของกัญชา ถูกด้อยลงไปเพราะเหตุผลความไม่เข้าใจ หรือเพราะมีความต้องการบิดเบือนเจตนารมณ์ของกฎหมายหรือไม่

เพื่อให้มีความให้ชัดเจนเรื่องนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศ กระทรวงสาธารณสุข ระบุประเภทยาเสพติดให้โทษ ให้มีความชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน แต่จะมีผลบังคับใช้ภายใน 120 วัน ซึ่งจะครบในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ แต่เพื่อไม่ให้ประชาชนมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ ผู้ที่ไม่เข้าใจกฎหมาย ก็ขอให้ชะลอการปลูกไปถึงวันที่ 9 มิ.ย.ก่อน

• ตร.แจงปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ด้าน พ.ต.อ.ดิเรกฤทธิ์ ปานเรือนแสน ผกก.สภ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ว่า เมื่อวันที่ 19 มี.ค.65 เวลาประมาณ 11.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.อุบลรัตน์ ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีการลักลอบปลูกต้นกัญชา ที่บริเวณภายในบ้านเลขที่24  จ.ขอนแก่น จึงเดินทางไปตรวจสอบตามที่รับแจ้ง เมื่อเดินทางไปถึงเจ้าหน้าที่ได้พบต้นกัญชาปลูกยืนต้นอยู่ที่ข้างรั้วหน้าบ้าน ความสูงเกือบ 2 เมตร จึงได้เรียกหาบุคคลที่พักอาศัยอยู่ในบ้านพักหญิงอายุ 70 ปี ผู้ต้องหา เดินออกมาแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านพัก และรับว่าเป็นต้นกัญชาที่ตนเอง ที่ผู้ปลูกไว้ใช้รักษาโรค ซึ่งไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจอนุญาตให้ปลูกมาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดต้นกัญชาไว้เป็นของกลาง พร้อมกับแจ้งสิทธิให้ผู้ต้องหาทราบ และแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ผลิต (ปลูก) และมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชาสด) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

ต่อมาในวันเดียวกันนี้ เวลาประมาณ 17.00 น. พ.ต.ท.ครอง ยศสง่า สว.สอบสวน สภ.อุบลรัตน์ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวน ได้รับบันทึกการจับกุมและตัวผู้ต้องหาไว้จากชุดสืบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาเวลาประมาณ 19.30 น. ได้มีญาติของผู้ต้องหาเข้าพบและขอประกันตัวผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้

แนะนำขั้นตอนการยื่นประกันตัวผู้ต้องหาให้ญาติทราบ ว่าจะต้องทำการสอบสวน และบันทึกคำให้การของผู้ต้องหาให้ครบถ้วนเสียก่อน ตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการสอบปากคำ จึงต้องควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ที่ สภ.อุบลรัตน์ ไว้ก่อน และแจ้งให้ทางญาติมายื่นประกันตัวในวันรุ่งขึ้น ซึ่งทางญาติก็ได้เดินทางมายื่นประกันในช่วงเช้าของวันที่ 20 มี.ค. 2565 เวลา 10.00 น. ซึ่งเป็นการให้ประกันตัวผู้ต้องหา ภายใน 24 ชม. นับแต่การจับกุม จึงขอชี้แจงว่าการปฏิบัติหน้าที่ของชุดสืบสวน สภ.อุบลรัตน์ ได้ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่อย่างเข้มงวด ไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งหรือให้ร้ายผู้ต้องหาแต่อย่างใด การสอบสวนและการประกันตัวผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการตามระเบียบ ขั้นตอนตามกฎหมาย และนโยบายของผู้บังคับบัญชา อย่างเคร่งครัด