สรุป ดราม่าร้อน ละคร ‘ให้รักพิพากษา’ อัยการเดือด ก่อน 16 ส.ค. นี้ ต้นสังกัดนัดชี้แจง

ละคร ‘Dare To Love  ให้รักพิพากษา’ ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เกิดดราม่าร้อน เดือดแวดวง ‘อัยการ’ แสดงความไม่พอใจ ถึงขั้นให้ ‘แก้ไขบท’ 

ภาพจาก Ch3Thailand

ฉากละครที่ทำให้เกิดดราม่า ดูคลิปที่นี่  ตัวละครที่รับบทโดย สราวุธ มาตรทอง ได้ชวนให้นางเอก เบลล่า ราณี ซึ่งในเรื่องรับบท ทนายความ ให้มาเป็นอัยการที่สำนักงาน

ภาพจาก Ch3Thailand

เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2564 นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้โพสต์โดยสรุประบุว่า ละครมีการนำเสนอที่บิดเบือนการทำงานของอัยการ โดยจะมีการประสานไปให้แก้ไขบท

วันที่ 13 ส.ค. 2564 นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เเละอดีตอัยการสูงสุด ที่ออกมากล่าวถึงกรณีนี้ว่า

“เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนทราบว่า ละครเรื่องนี้เดินเรื่องบทบาทการเป็นพนักงานอัยการ ของสำนักงานอัยการไม่สำรวมไม่ถูกต้อง

อัยการทั่วประเทศรับไม่ได้กับบทละคร และผู้แสดงเป็นหัวหน้าพนักงานอัยการของละครเรื่องนี้ จะเห็นว่าการเดินบทละครเรื่องนี้ การแสดงของหัวหน้าอัยการใช้วาจาไม่สำรวม ตามจีบทนายสาว เเละชวนทนายสาวมาเป็นอัยการ โดยไม่ผ่านการสอบตามกฎหมายของสำนักงานอัยการสูงสุด ถือเป็นการเขียน เดินบทละคร บิดเบือนจากตัวบทบทกฎหมายการเข้าสู่วิชาชีพการเป็นพนักงานอัยการไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

มีการใช้วาจาดูแคลนทนายความ หากมีความเป็นจริงแบบนี้เกิดขึ้นจริงพนักงานอัยการผู้ใดประพฤติเช่นนี้ จะต้องถูกลงโทษทางวินัย ไม่รักษาเกียรติศักดิ์ของการเป็นพนักงานอัยการ

หรือแม้กระทั่งการถ่ายทำบทบาทการว่าคดีในศาลยุติธรรม ความเป็นจริงศาลผู้พิจารณาคดีโดยปกติ ผู้พิพากษาจะนั่งพิจารณาเป็นองค์คณะ 3 ท่าน การอ้างอิงการสืบพยานในศาลจะต้องทำตามกระบวนพิจารณาเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ตามบัญชีพยานที่คู่ความยื่นอ้างไว้ต่อศาล ไม่ใช่จะไปเรียกขอให้ศาลส่งเอกสารพยานได้ตามใจชอบของคู่ความ

การเดินบทละคร การว่าความในกระบวนการยุติธรรม ต้องทำให้ถูกต้องตามกระบวนการที่มีการประกอบวิชาชีพ ตามกฎหมาย ไม่ใช่จะเดินเรื่องตามความคิดของผู้เขียนบทละคร หากยังเดินเรื่องบทละครตามสภาพการแสดงนี้ต่อไป จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่สำนักงานอัยการสูงสุด เกิดภาพลักษณ์เสียหายต่อพนักงานอัยการทั่วประเทศ และจะทำให้ประชาชนเข้าใจบทบาทหน้าที่การรักษากฎหมายของพนักงานอัยการที่ผิด และเสื่อมเสียแก่พนักงานอัยการในปัจจุบันเป็นอย่างมาก

“ผมในฐานะประธาน ก.อ.และพนักงานอัยการทั่วประเทศ ไม่อาจที่จะยอมรับบทละครเรื่องนี้ได้ต่อไป และขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการตามกฎหมายกับสถานีโทรทัศน์ช่อง 3, ผู้ผลิต, ผู้เขียนบทละครเรื่องนี้ และผู้แสดงบทละครเรื่องนี้ ที่แสดงในบทบาทการเป็นพนักงานอัยการที่ผิดๆ ตามกฎหมายต่อไป”

ภาพจาก Ch3Thailand

ทางด้าน ทนายนิด้า น.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ ได้ออกมาชี้แจงว่า ผู้เขียนบทติดตามการว่าความในศาลของทนายหญิงเป็นข้อมูลประกอบในการเขียนบทคาแร็คเตอร์ของทนายทิชา ส่วนทนายเจมส์ (นิติธร แก้วโต) ทราบว่าเข้าไปดูแอคติ้ง ท่าทางการแสดง การวางมาดของทนายความ ในตอนถ่ายทำ ทราบจากทีมงานประมาณนี้ แต่ทั้งทนายเจมส์ และทนายนิด้า ไม่ได้ไปเขียนบท และไม่เคยอ่านบทว่ารายละเอียด เป็นอย่างไร “แต่ละครก็คือละคร ไม่ใช่สารคดี ถ้าดูละครเป็นละครจะเข้าใจว่าคนดีกว่าละครก็มี คนเลวยิ่งกว่าในละครก็มีเหมือนกัน” อ่านโพสต์ของทนายนิด้าที่นี่ 

ฟาก รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล นักวิชาการนิติศาสตร์ ได้โพสต์แสดงความเห็นโดยสรุป อัยการเป็นเดือดเป็นร้อนกับละครที่ไม่เป็นความจริง แต่กับ “ความจริง” ที่สังคมตั้งคำถามมาอย่างต่อเนื่อง เช่น มีคดีเป็นจำนวนมากที่ประชาชนถูกฟ้องร้องกล่าวหาด้วยความไม่เป็นธรรม ไม่เห็นให้ความสนใจ  อ่านโพสต์ของรศ.สมชาย ที่นี่ 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดฝ่ายประชาสัมพันธ์ของละคร ได้ออกมาแจ้งกับสื่อมวลชนว่า จะมีการแถลงข่าวจากต้นสังกัด ในวันจันทร์ที่ 16 ส.ค. นี้