พี่สาววันเฉลิมยื่นหนังสือสิระ ภาคประชาสังคมร้องเร่งพิจารณา พ.ร.บ.ซ้อมทรมานและอุ้มหาย

สิตานันท์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาววันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้ถูกบังคับอุ้มหาย และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ยื่นหนังสือแก่นายสิระ เจนจาคะ และนายวิรัช รัตนเศรษฐ์ ประธานวิปรัฐบาล ให้เร่งวาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคล สูญหาย พ.ศ. …. ที่กำลังจะเข้าสภาผูแทนราษฎร วันพุธที่ 8 ก.ย. 64 ที่กำลังจะถึงนี้

วันนี้เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา สิตานันท์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาววันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้ถูกบังคับอุ้มหาย และมูลนิธิผสานวัฒนธรรมยื่นหนังสือแก่นายสิระ เจนจาคะ ให้ฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน และ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อแจ้งความจำเป็นเร่งด่วนและขอให้สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการเลื่อนลำดับการพิจารณาเรื่องเร่งด่วน เรื่อง ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. … จากเดิมที่อยู่ในลำดับที่ 9 ขึ้นมาเป็นลำดับที่ 1 เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรมีมติผ่านเป็นกฎหมายโดยเร่งด่วนที่สุด เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนให้ปราศจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ร้ายแรงทั้งสองข้อหานี้ได้อย่างจริงจัง

ก่อนห้านี้มีการนำเสนอและรณรงค์ ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. … อย่างต่อเนื่อง และได้มีการเสนอผ่านรัฐสภา ก่อนที่ฉบับของกระทรวงยุติธรรมจะได้รับมติจากครม.เข้าสู่กระบวนการรัฐบาล และล่าสุดผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) เรียบร้อยแล้ว

ตามข้อมูลในเว็บไซต์รัฐสภาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ทั้ง 4 ฉบับ ได้ถูกบรรจุเข้าสู่วาระพิจารณาเรื่องเร่งด่วน ลำดับที่ 9 ในสมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 1 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 กันยายน 2564 นี้ อย่งไรก็ดี ถูกบรรจุในวาระที่ 9

“หากว่ากันตามวาระปกติ เรื่องนี้จะไม่ทันในสัปดาห์นี้และสมัยประชุมนี้ครับ หากจะทันต้องเป็นการเลื่อนวาระขึ้นมาพิจารณา ซึ่งต้องให้ทุกพรรคการเมืองเห็นด้วยถึงจะทำได้” ณัฐวุฒิ บัวประทุม ผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล ให้ข้อมูลผู้สื่อข่าว workpointTODAY

ก่อนที่ร่างดังกล่าวจะปรากฎในวาระการประชุมพุธนี้ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2564 รองโฆษกรัฐบาลเผยสภาฯ เร่งดันร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย เข้าที่ประชุมในสมัยหน้า ซึ่งร่างนี้ ครม.มีมติเห็นชอบไปแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 โดยสภาผู้แทนราษฎรได้แจ้งมาว่าจะบรรจุร่างกฎหมายดังกล่าวให้เป็นวาระเร่งด่วน โดยการเปิดสมัยประชุมสภาฯ ในสมัยหน้าจะหยิบยกร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 1

สิระ เจนจาคะ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวระหว่างรับหนังสือว่า “ตรงนี้เราจะผลักดัน เพราะอย่างกรณีผู้กำกับโจ้ มีการอุ้มและทรมาน อ้างว่าเพื่อประโยชน์ของรัฐมันไม่ได้ มันผิดกฎหมายใช่ไหม ในกรณีอย่างนี้วันก่อนสถานทูจอเมริกา ส่งตัวแทนผู้ใหญ่มาพูดคุยว่าเขาติดตามพรบ.ฉบับนี้และพรบ.คู่ชีวิต มันก็มีผลในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย …จะขอให้ท่านประธานวิปรัฐบาลดูแล ถ้าปล่อยไว้ไม่แก้ก็จะเจอเหมือนที่ผ่านมาตลอด”

นอกจากสถานเอกอัครราชทูตนานาชาติ องค์กรภาคประชาสังคมก็จับตาร่างกฎหมายดังกล่าว ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เผยว่า แอมเนสตี้ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่าจะมีการนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาในสภาภายในพุธนี้ แต่ขอเรียกร้องให้เลื่อนลำดับการพิจารณามาเป็นลำดับแรกเพื่อให้ทันการพิจารณาในสมัยประชุมนี้

“จากการติดตามเรื่องร่าง พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและอุ้มหายมาตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้รู้สึกยินดีที่เห็นว่าทางการไทยกำลังให้ความสำคัญในการปกป้องชีวิตของคนไทยทุกคนให้มีความมั่นคงและปลอดภัยมากขึ้น โดยการนำร่างกฎหมายนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาอย่างเร่งด่วน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าร่างนี้จะถูกพิจารณาในสมัยประชุมนี้ตามที่วางแผนไว้”

ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ….ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาครั้งนี้มีทั้งหมด 4 ฉบับ ได้แก่ ร่างของกระทรวงยุติธรรม ร่างของพรรคพลังประชารัฐร่วมกับพรรคก้าวไกล ร่างของพรรคประชาชาติ และร่างของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งทั้ง 4 ร่างได้ถูกบรรจุเข้าสู่ระเบียบการประชุมของสภาไปตั้งแต่เดือนมกราคม 2564

ชมสรุปทั้ง 4 ร่างได้ที่นี่