Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) คว้ารางวัล Thailand’s Most Admired Company เป็นปีที่ 2 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน ด้วยโมเดลธุรกิจแห่งอนาคต ‘The Ecosystem for All’ เชื่อมโยงธุรกิจหลัก ได้แก่ Retail ที่เป็นหัวใจหลักในการสร้างความแข็งแกร่งของระบบทั้งหมด กับธุรกิจที่อยู่อาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรม พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทุกคนทั้ง Online & Offline ครบทั้ง 360 องศา และขยายไปสู่ธุรกิจ New Assets อื่นๆ ที่จะสร้างอนาคตแห่งการใช้ชีวิต ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้บริษัทได้รับเลือกเป็นองค์กรที่มีผู้ชื่นชอบมากที่สุดว่า “บทบาทของ Place Making ของเซ็นทรัลพัฒนา ที่มุ่งพัฒนาพื้นที่และยกระดับการใช้ชีวิตของผู้คน โดยมีแกนหลักคือศูนย์การค้า ซึ่งทางเซ็นทรัลพัฒนา เป็น Purpose-led Organization ที่มีเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจน หนึ่งในหัวใจสำคัญในการทำงานของเรา คือ Customer Champions เราพัฒนาโครงการเพื่อสร้างชีวิตที่ดีให้กับผู้คนที่เข้ามาใช้ชีวิตใน SPACE ของเราเสมอ ทุกโครงการที่เราไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการของผู้คน แต่ต้องมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ทันโลก และยั่งยืนจากวันนี้ไปถึงอนาคต”

โดยความสำเร็จของเซ็นทรัลพัฒนา นอกเหนือจากการได้รับ Brand Love จากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง จากการเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของทุกย่าน เมือง และจังหวัดทั่วประเทศแล้ว เซ็นทรัลพัฒนายังประสบความสำเร็จในการช่วยสร้าง Multiple Impact ให้กับประเทศไทยในด้านต่างๆ ตั้งแต่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากฐานราก จนถึงระดับมหภาค, ชูพลัง Soft Power จากการสนับสนุน Local Essence และ Local Pride ของชุมชน, กระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่องเที่ยวเมืองรองที่เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของภาครัฐ ไปจนถึงการสร้าง Spotlight ในระดับโลก ปั้นไทยให้เป็น Global Destination ยกตัวอย่าง เช่น

1.) ผนึกพันธมิตรทั้งภาครัฐ-เอกชน เตรียมจัดงาน THAILAND’S SONGKRAN FESTIVAL 2023 ผลักดันสงกรานต์ไทยขึ้นแท่น Festival ระดับโลก ซึ่งสงกรานต์ไทยเต็มไปด้วย Element ที่แตกต่าง ทั้งการสรงน้ำพระ การละเล่นส่งเสริมเอกลัษณ์ไทย ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติมามี experience กับวัฒนธรรมไทย มีความสนุก ทั้งเล่นน้ำ คอนเสิร์ต วัฒนธรรมการกิน เป็นช่วงเวลาอบอุ่นของครอบครัว

      • สร้าง Big impact ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ด้วย Location ใน 38 สาขาทั่วไทย ตั้งแต่ระดับ Global ที่เซ็นทรัลเวิลด์กับการจัดเทศกาลดนตรีระดับโลกถึง 2 งานใหญ่ ในสาขา Tourist malls เมืองท่องเที่ยวหลัก อย่าง อาทิ เซ็นทรัล ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ ไปจนถึง Local tourism ในเมืองรอง โปรโมทการท่องเที่ยวท้องถิ่น ช่วยกระจายรายได้ทั่วประเทศ
      • Music Festival Phenomenon กับงาน “SUPERFLUID CentralwOrld x 4nologue” เทศกาลดนตรีระดับโลกท่ามกลางสายน้ำสุดยิ่งใหญ่ พบกองทัพศิลปินระดับโลก แสง สี เสียง แบบจัดเต็มจัด
      • Culture & Entertainment Co-creation ชู 6 ไฮไลต์ สงกรานต์มหาบันเทิงที่ตอบโจทย์ทั้งวัฒนธรรมและความบันเทิงที่เซ็นทรัลทั่วประเทศ ปั้น Songkran Entertainment ทั่วไทยดังไกลระดับโลก และรวมการแสดงหาชมยาก อาทิ หนังใหญ่วัดขนอน ที่เซ็นทรัล พระราม 3 ซึ่งได้รับรางวัล Asia/Pacific Cultural Centre for UNESCO

2.) Thailand’s Pride Celebration 2023: Create Global Awareness โปรโมทประเทศไทย เซ็นทรัลพัฒนา พร้อมเป็นหัวหอกในการผนึกกำลังพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันผลักดันให้งานฉลองเทศกาล Pride Month ของประเทศไทยเป็น Top of Pride Destination ของคนทั่วโลก และยกระดับสู่การเป็นเจ้าภาพ World Pride 2028 ชาติแรกในเอเชีย

3.) งานเทศกาลกาแฟที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเมือง “Thailand Coffee Hub 2023 –centralwOrld” ช่วยผู้ประกอบการทั่วประเทศ และจัด Knowledge Trading ระหว่างบาริสต้าระดับโลกกับบาริสต้าไทย โดยการจัดงานในเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมามียอดผู้ร่วมงานตลอด 7 วัน สูงถึง 350,000 คน สร้างเงินสะพัดจากงานไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ถือเป็นงานกาแฟแห่งปีของประเทศไทยที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้ประกอบการและผู้ที่ชื่นชอบกาแฟทั่วประเทศ วัดได้จากการที่มีแบรนด์ดังๆ จากในประเทศและต่างประเทศมาร่วมออกร้านมากกว่า 150 แบรนด์

4.) Central Westville Viral (เตรียมเปิดอย่างเป็นทางการ 29 พ.ย. 66) ปลุกย่านราชพฤกษ์ ‘เซ็นทรัล เวสต์วิลล์’ ศูนย์การค้าต้นแบบความยั่งยืนแห่งอนาคต ที่สุดไลฟ์สไตล์คนเมือง ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘West at Its Best’ 

      • ครั้งแรกของไทยกับ Low Carbon Mall ตอบรับเทรนด์โลกในทุกมิติด้วยการเป็น ‘The Prototype of Urban Living’ ต้นแบบศูนย์การค้าแห่งอนาคตของการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน แบบ Semi-outdoor ตอบโจทย์ People-Pet-Planet ด้วย Around-the-Clock Lifestyle พร้อมด้วยแนวคิด Eco-consumer & Sustainability ที่ส่งเสริมประเทศไทยเดินหน้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบศูนย์ฯ ให้เชื่อมโยงกับกระบวนการความยั่งยืน เช่น การใช้พลังงานสะอาด ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกตั้งแต่ก่อสร้าง, การสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, Tenant collaboration จับมือกับร้านค้าจัดกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมร่วมกัน เช่น การจัดกิจกรรม
      • ‘Landmark of the WEST’ ดีที่สุดของไลฟ์สไตล์ย่านราชพฤกษ์ ตอบทุกเจนเนอเรชั่น ครบทุกธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัล พร้อมแบรนด์ดังกว่า 300 ร้านค้า และ Best Dining Destination ที่รวมร้านอาหารดังกว่า 80 ร้าน เยอะและครบที่สุดในย่านแบบ All-day Dining
      • The Evolution of Semi-Outdoor Model: ต่อยอด Success Model จาก Eastville ตั้งแต่แนวคิดตลอดจนงานออกแบบ: ภายใต้แนวคิด “Reimagine Harmony with Nature” สอดแทรกธรรมชาติกับพื้นที่อาคาร เพื่อสร้างบรรยากาศที่รื่นรมย์มากยิ่งขึ้น โดยการ Integrate พื้นที่สวน Pocket Park, ปลูกต้นไม้ใหญ่ภายในอาคาร มีน้ำตกใจกลางพื้นที่ ให้ไอเย็น และช่วยลดอุณภูมิอากาศของโซน Outdoor และยังสร้าง Community and Relaxation space ให้กับลูกค้า, การออกแบบ Exterior Design อย่าง Façade อาคารและ Skylight ที่ได้แรงบันดาลใจ จากร่มเงาของต้นไม้ “Tree Canopy Shading” ซึ่งทั้งหมดจะมอบ Sensational Experience ในการใช้ชีวิต ให้กับทุกคน 

5.) ประกาศปั้นแบรนด์ Central Park เปิดปรากฏการณ์ลักชูรี่ระดับโลก ปั้นแบรนด์ใหม่ “Central Park” มูลค่าลงทุน 20,000 ล้านบาท สร้างสรรค์นิยามใหม่ The New Luxury ในโครงการ Dusit Central Park มิกซ์ยูสคุณภาพใจกลางเมือง ดันกรุงเทพฯ สู่มหานครระดับโลก 

      • โครงการมิกซ์ยูสคุณภาพระดับโลก ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มีมูลค่าโครงการรวมทั้ง 4 องค์ประกอบทั้งสิ้น 46,000 ล้านบาท ประกอบด้วยศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม และ  ที่พักอาศัย 
      • สร้าง High-end Lifestyle Hub ที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกของย่าน ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย กำลังซื้อสูงด้วย Curated Experience ที่ไม่เคยมีมาก่อนเชื่อมโยงกับ Urban Rooftop Park ขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ เทียบชั้นมหานครระดับโลก
      • โครงการลักชูรี่มิกซ์ยูสหนึ่งเดียวบนทำเล Super Core CBD ที่มีศูนย์การค้าเชื่อมโยงเข้ากับทุกองค์ประกอบ รองรับทราฟฟิกกว่า  25 ล้านคนต่อปี พร้อมมุ่งมั่นเป็นแลนด์มาร์กระดับโลกดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 10 ล้านคนต่อปี  

ภายใต้วิสัยทัศน์ Imagining better futures for all โดยตลอดระยะเวลา 42 ปี เซ็นทรัลพัฒนาไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนา พร้อมยึดมั่นในแนวคิด Centre of Life มาตลอดซึ่งเราได้ทำให้เกิดขึ้นจริงแล้วทั่วประเทศ โดยไม่เพียงสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจศูนย์การค้า แต่ยังขยายไปสู่ธุรกิจคอมมูนิตี้ มอลล์, ที่อยู่อาศัย, อาคารสำนักงาน และโรงแรมทั่วประเทศ พร้อมทั้งพัฒนาให้ทุกส่วนเชื่อมโยงถึงกันแบบ Seamless Synergy และยังเชื่อมต่อไปสู่พันธมิตรธุรกิจ ผู้คน ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ดังนั้น เราจึงต้องการสร้าง ‘วิวัฒนาการ’ ให้เกิดขึ้น เดินหน้าสู่โมเดลธุรกิจแห่งอนาคตเป็น ‘The Ecosystem for All’ โดยมีธุรกิจ Retail เป็นแกนหลัก ด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่

      1. The 360-Degree Centre of Life: เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์ครบทุกองศาทั้ง Offline & Online ทั้ง shop-eat-work-play-stay-live ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง 365 วัน ทุกที่ ทั่วประเทศ
      2. Total B2B2C Solutions: การเชื่อมโยงการทำธุรกิจของพันธมิตรคู่ค้า สู่การใช้ชีวิตของลูกค้าที่ครบวงจร ด้วยการลงทุนด้าน Digital Transformation & Technology Infrastructure ปีละ 300-500 ล้านบาท โดยได้มีการพัฒนา Data-driven Omnichannel ที่มีประโยชน์กับลูกค้า คู่ค้า และสังคม
      3. The Place Making for Sustainable Future: ให้ความสำคัญทั้งด้าน ‘คน’ ด้วยการส่งเสริม Local Wealth โดยใน 5 ปีข้างหน้า บริษัทฯ จะมีพนักงานกว่า 6,500 คน พร้อมผลักดันการจ้างงานใน Ecosystem อีกกว่า 100,000 ตำแหน่ง การเปิดพื้นที่ค้าขายฟรีให้เกษตรกรและ SMEs ทั่วประเทศคิดเป็นมูลค่า 300 ล้านบาทต่อปี และการสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐและ CSR รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาทต่อปี รวมไปถึงการดูแล ‘สิ่งแวดล้อม’ เดินหน้าตามโรดแมป NET Zero 2050 อาทิ การประหยัดพลังงานไปแล้วกว่า 200 ล้านบาท, ติดตั้ง Solar Rooftop และขยาย EV Charger Station อย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ, การเพิ่มพื้นที่สีเขียว รวมถึงการจัดการขยะและขยาย Recycle Shops ในศูนย์การค้า

โดยในแผนลงทุน 5 ปี (ปี 2566-2570) ลงทุนทุกธุรกิจรวมกว่า 135,000 ล้านบาท เฉลี่ยปีละ 25,000-30,000 ล้านบาท โดยมีทั้งหมดมากกว่า 200 โครงการ ครอบคุลม 30 เมืองในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ประกอบด้วย ศูนย์การค้า 50 แห่ง, คอมมูนิตี้ มอลล์ 17 แห่ง, ที่อยู่อาศัย 90 แห่ง, โรงแรม 37 แห่ง, อาคารสำนักงาน 13 แห่ง และพื้นที่ใหม่ๆ Flex Offices อีก 4 แห่ง โดยจะทำให้จำนวนโครงการมิกซ์ยูสเพิ่มขึ้นจาก 18 โครงการในปี 2566 เป็น 25 โครงการในปี 2570

นอกจากนี้ ยังได้วางแผนระยะยาว 5-10 ปีในการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส Mega Projects รวม 5 โครงการ ซึ่งจะยกมาตรฐานให้กรุงเทพฯ เทียบเท่ามหานครระดับโลก อย่างนิวยอร์ก, โตเกียว หรือโซล โดยโครงการแรก Dusit Central Park จะทยอยเปิดตัวในปี 2567-2568 รวมถึงอีก 4 โครงการใหญ่ที่แต่ละโครงการมีพื้นที่ GFA กว่า 350,000 ตร.ม. และเงินลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท

[ เดินหน้าขยายโครงการในปี 2567 ]

Central Nakhon Sawan เปิด Q1/2567 งบลงทุน 5,800 ล้านบาท และ Central Nakhon Pathom เปิด Q2/2567 งบลงทุน 8,200 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ที่ยกระดับศักยภาพของภูมิภาค เชื่อมต่อโซนภาคเหนือ และขยายสู่ภาคตะวันตกของประเทศ 

โจทย์ต่อไปของเซ็นทรัลพัฒนา คือ การรักษา Top of Mind นับจากนี้  โดยยึดมั่นในความเชี่ยวชาญ หรือ DNA ของเซ็นทรัลพัฒนาก็คือ “การพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง” การ Evolve บนพื้นฐานของการสร้าง Better Future มากกว่าการจับตาหรือตอบรับเทรนด์ มอบ Micro Social Context ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ด้วยแนวคิด Forward-Thinking / Stay ahead of Trends

นอกจากนี้ เซ็นทรัลพัฒนายังมุ่งมั่นที่จะรักษาความเป็นผู้นำ และเป็น Trend Creator ด้วยบทบาทการเป็น Place Maker ที่เชื่อมโยง People ยกระดับการใช้ชีวิตของผู้คน และ Planet ดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนอย่างรอบด้าน

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า