SHARE

คัดลอกแล้ว

แลนซ์ อาร์มสตรอง อดีตแชมป์ตูร์เดอฟร็องส์ 7 สมัย

กีฬาจักรยานนับเป็นอีกหนึงชนิดกีฬาที่ได้รับความนิยมในสังคมไทยพอสมควร อีกทั้งทัพนักปั่นทีมชาติไทยยังเคยโชว์ฝีมือคว้าเหรียญทองในศึกเอเชียนเกมส์มาแล้ว ซึ่งในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้กีฬาจักรยานถือเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่มีลุ้นเหรียญเช่นกัน เพื่อสร้างความภูมิใจให้กับชาวไทยในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งนี้

กีฬาจักรยานถือเป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่ใกล้ตัวเราไม่น้อย แทบทุกคนล้วนเติบโตขึ้นมาพร้อมจักรยานคู่ใจกันทั้งนั้น หลายคนอาจจะเคยเห็นการแข่งขันจักรยานระดับโลกผ่านทางทีวีอยู่บ้าง บางคนถึงขั้นติดตามกีฬาชนิดนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งในประเทศไทยกีฬาจักรยานถือว่าได้รับความนิยมในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ทั้งการติดตามชมการแข่งขันตูร์เดอฟร็องส์ซึ่งเป็นการแข่งขันจักรยานทางเรียบชื่อดัง และความนิยมในการปั่นจักรยานที่ในช่วงไม่มีปีที่ผ่านมาได้รับความสนใจอย่างมาก

การแข่งขันประเภทจักรยานประเภทภายในหรือประเภทลู่

กีฬาปั่นจักรยานมีจุดเริ่มต้นที่ฝรั่งเศส ซึ่งในปี 1834 ได้มีการจัดการแข่งขันจักรยานขึ้นที่เมืองรูออง โดยแชมป์ในครั้งนั้นตกเป็นของเจมส์ มัวร์ (James Moore) นักปั่นชาวอังกฤษ ต่อมาในปี 1900 ได้มีการก่อตั้งสหพันธ์จักรยานนานาชาติ หรือ U.C.I. (Union Cycling International) ขึ้น ณ มหานครปารีส โดยมีฝรั่งเศสเป็นประธานสหพันธ์รายแรก

ต่อมาในปี 1964 ระหว่างที่มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 18 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น คณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้ขอร้องให้สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (U.C.I.) แยกนักกีฬาจักรยานอาชีพกับนักกีฬาจักรยานสมัครเล่นออกจากกัน โดยมีการบริหารแยกออกจากกันอย่างเด็ดขาด ทำให้การแข่งขันจักรยานสมัครเล่นครั้งแรกได้เกิดขึ้นในกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 19 ปี 1968 ณ กรุงเม็กซิโก ประเทศเม็กซิโก เป็นต้นมา โดยกีฬาจักรยานถูกบรรจุเข้าเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งแรกในปี 1951 จวบจนกระทั่งปัจจุบัน

ในปี 1959 ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 1 ขึ้น ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้ได้มีการจัดให้มีการแข่งขันกีฬาจักรยานขึ้นด้วย แต่การจะจัดการแข่งขันได้นั้น จำเป็นต้องมีองค์กรเกี่ยวกับกีฬานั้นๆ เป็นผู้ดำเนินจัดการแข่งขัน รวมทั้งองค์การนั้นจะต้องเป็นสมาชิกของสหพันธ์จักรยานแห่งนานาชาติ หรือ UCI จึงทำให้ประเทศไทยได้ก่อตั้งสมาคมจักรยานขึ้นนับแต่บัดนั้น

การแข่งขันจักรยานประเภทจักรยานเสือภูเขา หรือ เมาน์เท่นไบค์

กีฬาจักรยานจะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ ประเภทลู่, ประเภทถนน, ประเภทเสือภูเขา และประเภทบีเอ็มเอ็กซ์

การแข่งขันประเภทจักรยานภายในหรือประเภทลู่ จะถูกจัดขึ้นในร่มเวลโลโดรม โดยลู่แข่งขันนั้นจะต้องมีลักษณะเป็นวงรีและมีขนาดความกว้าง 400 เมตร  ความยาว 250 เมตร ถึง 333.3 เมตร ซึ่งโดยปกติแล้วลู่การแข่งขันตามมาตรฐานสากลจะต้องมีความยาวอยู่ที่ 333.3 เมตร กว้าง 5-9 เมตร และ มีความโค้งลาด 25-45 องศา มีรายการแข่งขันต่างๆ ดังนี้คือ สปรินท์ เปอร์ซูท พอยท์เรส คีริน และ เมดิสัน เป็นต้น

  • การแข่งขันจักรยานแบบสปรินท์ เป็นการแข่งขันที่ตื่นเต้นเร้าใจ สนุกสนานที่สุด ช่ววงเริ่มต้นการแข่งขันจะไม่ใช้ความเร็ว นักจักรยานที่จับฉลากได้จะเป็นผู้ขี่นำในรอบที่ 1 จะขี่เร็วหรือช้าก็ได้ นักจักรยานอีกคนหนึ่งจะขี่ตามหลังไม่ยอมขึ้นหน้า พอครบรอบที่ 1 หรือขึ้นรอบที่ 2 ก็จะเร่งความเร็วขึ้นหรืออาจช้ากว่าเดิมก็ได้ จะขี่ฉวัดเฉวียนกันขึ้นๆ ลงๆ บนพื้นเวลโลโดม หาจังหวะของคู่ต่อสู้เผลอบางครั้งก็แกล้งหลอกให้คู่ต่อสู้เป็นผู้ขี่อยู่ข้างหน้า เมื่อเหลืออยู่อีก 200 เมตร จะถึงเส้นชัยก็จะสปริ้นท์แข่งขันเข้าเส้นชัย ห้ามใช้เล่ห์เหลี่ยมต่างๆ ในการที่จะทำให้เกิดการปะทะกัน จะต้องรักษาเส้นทางของตนไว้จนกว่าจะเข้าเส้นชัย
  • การแข่งขันจักรยานแบบเดี่ยวเปอร์ซูท คือการแข่งขันระหว่างนักจักรยาน 2 คน เริ่มคนละด้านของสนาม เมื่อเริ่มแข่งขันนักจักรยานทั้ง 2 คนขี่ครบ 4,000 เมตร แต่การแข่งขันอาจจบลงก่อนครบระยะทางได้ถ้าหากจักรยานคนหนึ่งไล่อีกคนหนึ่งทัน (การไล่ทันกัน คือ เมื่อชุดเฟืองโซ่ของคู่แข่งขันมาอยู่ในระดับเดียวกันกับชุดเฟืองโซ่ของตน) แต่ถ้าต่างคนต่างไล่กันไม่ทันใครขี่ครบระยะทางก่อนถือเป็นผู้ชนะ
  • การแข่งขันจักรยานแบบพอยท์เรส เป็นการแข่งขันประเภทลู่ที่มีระยะทางยาวที่สุด หรูหราที่สุด ความเร็วของจักรยานจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา บางครั้งนำหน้าบางครั้งก็หล่นไปอยู่ข้างหลัง ให้คะแนนทุกๆ 4 รอบ ในรอบให้คะแนนนักจักรยานที่ 1 ถึง 4 จะได้คะแนน 5, 3, 2, 1 ตามลำดับ การสปริ้นท์เอาคะแนนมี 18 ครั้ง สำหรับครั้งที่ 9 และครั้งสุดท้ายคะแนนจะเป็น 2 เท่าของธรรมดา นักจักรยานที่ได้คะแนนมากกว่าจะเป็นผู้ชนะถ้ายังเสมอกันให้ถือตำแหน่งเข้าเส้นชัยรอบสุดท้าย
  • การแข่งขันจักรยานแบบคีริน รูปแบบของการแข่งขันนั้นจะมีการปล่อยตัวนักีฬาจักรยานคลาวละ 6-9 คน และต้องมีการจับฉลากหาตำแหน่งในการขี่ คือหมายความว่า ใครจะเป็นผู้นำ หรือผู้ตาม โดยนักกีฬาจักรยานทั้งหมดต้องขี่ตาม มอเตอร์ไซไฟฟ้าโดยเรียงตามลำดับที่ตัวเองจับฉลากได้ โดยทั่วไปแล้วการแข่งขันจักรยานประเภท คีลินนั้นจะใช้ระยะทางประมาน 2000 เมตร โดยนักกีฬาทุกคนต้องปั่นตาม มอเตอร์ไซไฟฟ้า ไปจนกระทั่งเหลือระยะทางก่อนเข้าเส้นชัยประมาน 700 เมตรนักปั่นจักรยานทุกคนก็เริ่มปั่นด้วยตัวเอง เพื่อให้ตัวเองนั้นเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ให้ได้ ในบางรายการนั้น ความเร็วตอนเข้าเส้นชัยนั้นอาจจะสูงกว่า 70 ก.ม./ชม.
  • การแข่งขันจักรยานแบบคีริน โดยการแข่งขันจะมีระยะทาง 50 กม. หรือ 200 รอบ ซึ่งผู้เข้าแข่งขันจะแข่งแบบเป็นทีม ทีมละ 2 คน (สูงสุดทีละ 18 ทีม) แต่นับเวลาทีละ 1 คนเท่านั้น คนที่พักอยู่จะปั่นช้า ๆ อยู่ด้านบนของแบงกิ้งเพื่อรอลงมาเปลี่ยนตัว ผู้เข้าแข่งขันต้องตกลงกันเองว่าแต่ละคนจะปั่นกี่รอบและรอบใดบ้าง และในทุก ๆ 20 รอบจะมีแข่งสปรินต์กัน การแข่งขันจะสิ้นสุดลงเมื่อมีทีมที่ปั่นครบ 200 รอบ ผู้ชนะคือทีมที่ปั่นได้จำนวนรอบมากที่สุด หากจำนวนรอบเท่ากันให้ตัดสินด้วยแต้มสปรินต์ หากแต้มสปรินต์เท่ากันให้ตัดสินที่ลำดับเข้าเส้นในรอบสุดท้าย ดังนั้นทีมที่ครบ 200 รอบทีมแรกไม่จำเป็นว่าจะชนะเสมอไป เพราะถ้าการแข่งขันสิ้นสุดลงแล้วมีมากกว่าหนึ่งทีมที่อยู่ในรอบที่ 200 ก็แปลว่าทีมที่แต้มมากกว่าเป็นผู้ชนะ

การแข่งขันจักรยานแบบคีริน

การแข่งขันจักรยานประเภทจักรยานโร้ด ไซค์ลิ่ง หรือจักรยานประเภทถนน โดยการแข่งขันประเภทนี้ เป็นการแข่งขันในสนามวงรอบซึ่งมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับลู่แข่งขันของประเภทจักรยานภายในลู่ที่มีความโค้งลาด และ ขนาดความกว้างที่ 6 หรือ 8 เมตร ในจุดออกตัวและเส้นชัย และควรจะมีลักษณะของลู่ที่เป็นทางตรงอย่างน้อย 500 เมตร ก่อนถึงเส้นชัย และความกว้างอย่างน้อย 100 เมตร สำหรับโซนกันชนโดยอนุญาตให้ใช้ลู่ที่มีจุดเริ่มต้นและจุดเส้นชัยเดียวกันในการแข่งขันได้

การแข่งขันจักรยานประเภทจักรยานเสือภูเขา หรือ เมาน์เท่นไบค์ การแข่งขันประเภทจักรยานเสือภูเขานั้นจะต้องประกอบไปด้วยการแข่งขันประเภทครอสคันทรี่ ด้วยการแบ่งการแข่งขันออกเป็นสัดส่วนที่พอเหมาะ ประกอบไปด้วยการแข่งในเส้นทาง ในทุ่ง ขึ้นลงเนิน ในป่า ในสวนสาธารณะ และ ถนนลาดยางมะตอยอีกด้วย ซึ้งนักกีฬาจำเป็นที่จะต้องพิชิตเส้นชัยให้ได้ โดยไม่คำนึงถึงสภาพภูมิประเทศ และสภาพอากาศใดๆ ทั้งสิ้น

จุฑาธิป มณีพันธุ์ เจ้าของเหรียญทองประเภทถนน

การแข่งขันจักรยานประเภทจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ หรือ จักรยานวิบาก สำหรับการแข่งขันในประเภทจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ หรือว่าการปั่นจักรยานวิบากนั้นจะประกอบไปด้วยสิ่งกีดขวางหลากหลายชนิด และโค้งจำนวน 3 โค้งให้นักปั่นได้ฝ่าฟัน โดยสนามนั้นจะต้องมีลักษณะที่กระทัดรัด เป็นลู่ปิด และมีรูปทรงเป็นสนามวงรอบที่มีขนาดความยาวของลู่ไม่ต่ำไปกว่า 300 เมตร หรือ มากไปกว่า 400 เมตร มีความกว้างอย่างน้อย 10 เมตรในจุดออกตัว และ จะต้องไม่เล็กลงไปกว่า 5 เมตร ในจุดใดของลู่การแข่งขัน นักปั่นที่ได้ทำการลงแข่งขันในประเภทใดก็ตาม จะต้องมีขนาดของล้อที่มีความกว้าง 20 นิ้วเท่านั้น ตามกฏกติกาการแข่งขัน

สำหรับจักรยานทีมชาติไทยถือว่าประสบความสำเร็จไม่น้อยในเอเชียนเกมส์ โดยทัพนักปั่นทีมชาติไทยคว้าเหรียญในกีฬาประเภทนี้มาได้ถึง 31 เหรียญมากเป็นอันดับที่ 4 เป็นรองเพียง ญี่ปุ่น, จีน และเกาหลีใต้ โดยแบ่งเป็น เหรียญทอง 14 เหรียญ เหรียญเงิน 10 เหรียญ และเหรียญทองแดง 7 เหรียญ ซึ่งในเอเชียนเกมส์ครั้งที่แล้วทีมชาติไทยสามารถคว้าเหรียญทองได้ 2 เหรียญจาก จุฑาธิป มณีพันธุ์ ในประเภทถนน และ อะแมนด้า คารร์ จากประเภทบีเอ็มเอ็กซ์

อะแมนด้า คารร์ เจ้าของเหรียญทองประเภทบีเอ็มเอ็กซ์

ซึ่งในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ทางสมาคมได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมเอเชียนเกมส์ทั้งสิ้น 30 คน ในประเภทลู่, ถนน, เมาท์เทนไบค์ และ บีเอ็มเอ็กซ์ และยังมีการปรับทีมบางส่วนคือการโยก จุฑาธิป มณีพันธุ์ น่องเหล็กความหวังสูงสุดของไทยจากประเภทถนนมาลงแข่งประเภทลู่ระยะกลางแทน ส่วนด้านเจ้าของเหรียญทองประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ครั้งที่แล้วอย่างอะแมนด้า คารร์ ไม่มีชื่ออยู่ในชุดสู้ศึกเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ เนื่องจากขาดการติดต่อกับทางสมาคมเป็นเวลานาน โดยช่วงเวลานี้เหล่านักปั่นทีมชาติไทยกำลังอยู่ในช่วงเก็บตัวฝึกซ้อมในต่างประเทศ ภายใต้ความดูแลจากโค้ชประสบการณ์สูง เพื่อเตรียมความพร้อมในการลุ้นเหรียญในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย

อย่าลืมติดตามรับชม เอเชียนเกมส์ 2018 ระหว่างวันที่ 18 ส.ค.-2 ก.ย. นี้ ถ่ายทอดสดทางช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23 และช่องทางออนไลน์บนเฟซบุ๊ก Workpoint Entertainment และยูทูบ WorkpointOfficial

https://www.facebook.com/workpoint/videos/10155652805991332/

 

 

 

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า