เมื่อความสูงไม่ใช่ปัญหา! ในการแข่งขันศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกครั้งนี้ สาวไทยสามารถคว้าอันดับ 3 ของกลุ่ม C ได้ในรอบแรก ถือเป็นผลงานที่น่าชื่นชมของทัพนักตบลูกยางสาวไทย ที่น่าสนใจคือในศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกครั้งนี้ ทีมชาติไทยคือชาติที่มีความสูงเฉลี่ยของผู้เล่นต่ำสุดในการแข่งคราวนี้ เพียง 176.21 เซนติเมตร โดยเฉพาะในรายของ เอ สุพัตรา ไพโรจน์ ตำแหน่งลิเบโร่ของทีม เจ้าของแชมป์สโมสรเอเชียจากทีม สุพรีม ชลบุรี อีเทค นับเป็นผู้เล่นที่เตี้ยที่สุดในรายการนี้ ด้วยความสูงเพียงแค่ 160 เซนติเมตร
แต่ทว่าทีมชาติไทยก็สามารถคว้าชัยชนะได้ถึง 3 เกม และแพ้เพียง 2 เกมเท่านั้น (แพ้รัสเซียกับสหรัฐฯ) สาวไทยแสดงให้เห็นว่าสามารถสู้กับคู่แข่งที่ร่างกายสูงใหญ่กว่าได้ไม่เป็นรองเลย นอกเหนือจากสาวไทยแล้วทีมชาติญี่ปุ่นเจ้าภาพเองก็ดูจะไม่ได้แตกต่างกับไทยเท่าไหร่นักในเรื่องความสูง ซึ่งทีมชาติญี่ปุ่นมีความสูงเฉลี่ยเพียง 176.29 เซนติเมตร แต่พวกเธอก็สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ถึง 4 เกม และพ่ายเพียงเกมเดียวเท่านั้น (แพ้เนเธอร์แลนด์)
สำหรับการชาติที่มีค่าเฉลี่ยส่วนสูงมากที่สุดในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2018 ครั้งนี้คือ ทัพนักตบสาวจากรัสเซีย โดยสาวจากแดนหมีขาวมีค่าเฉลี่ยส่วนสูงอยู่ที่ 188.29 เซนติเมตร ส่วนนักวอลเลย์บอลสาวที่สูงที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้คือ อัลบา เฮอร์นานเดซ นักตบลูกยางวัย 23 ปีของทีมชาติเปอร์โตริโก ที่มีความสูงถึง 207 เซนติเมตร
ส่วนอันดับโลกของนักตบลูกยางสาวไทยนั้นก็ถือว่าอยู่อันดับ Top 20 ของโลก โดยวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยอยู่อันดับที่ 16 ของโลก โดยเฉพาะในรายการ World Grand Prix 2017 นักตบสาวไทยทำผลงานจบได้ในอันดับที่ 10 ประจำรายการ และล่าสุดในการแข่งขันศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกครั้งนี้ทีมไทยลงสนามไป 9 นัด ชนะ 3 แพ้ 6 จบด้วยการได้อันดับ 7 ในกลุ่ม F จบเป็นอันดับที่ 13 ของทัวร์นาเมนต์ ซึ่งถือเป็นอันดับที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งทีมชาติไทยจะมีศึกใหญ่อย่างรอบคัดเลือกโอลิมปิก 2020 ที่รออยู่ข้างหน้า เราจึงมาลองดูกันว่าค่าเฉลี่ยความสูงของ Top 5 ของโลกที่ทีมนักตบลูกยางสาวไทยอาจต้องเจอในโอลิมปิค 2020 ว่าจะสูงกว่าสาวไทยขนาดไหน