“PRUcycle Thailand Bangsaen 2018” ส่ง 2 แชมป์ ปั่นไกลถึงกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

จบลงอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับงาน “PRUcycle Thailand Bangsaen 2018” มหกรรม ‘ปั่นปิดเมือง’ ริมชายหาดบางแสน  2 นักปั่นทีมชาติ คว้าแชมป์ รับเงินรางวัลสูงสุด 1 แสนบาท พร้อมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงลอนดอน

“พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต” จัดงานปั่นจักรยานใหญ่ส่งท้ายปี กับงานเทศกาล ‘ปั่นปิดเมือง’ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย “PRUcycle Thailand Bangsaen 2018” โดยได้รับความร่วมมือจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เทศบาลเมืองบางแสน ซึ่งจัดกิจกรรมในวันที่ 1-2 ธันวาคม บริเวณแหลมแท่น บางแสน จังหวัดชลบุรีที่ผ่านมานี้ โดยปิดถนนเลียบชายหาดบางแสนที่สวยงามติดอันดับโลก เนรมิตให้เป็นถนนปั่นจักรยานสายท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจตลอดเส้นทาง สำหรับกิจกรรมวันแรก (1 ธ.ค. 61) ประเดิมด้วยเส้นทางการปั่น ประเภท FUN RIDE ระยะทาง 23 กิโลเมตร ที่สุขจะ “แสนสุข” มีนักปั่นเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างคึกคัก ซึ่งรายการนี้ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัลสูงสุด 50,000 บาท มีรายชื่อดังนี้

ประเภทบุคคลทั่วไป ครอบครัว
ชนะเลิศ : นายวินัย เจริญช่าง ,นางสุดารัตน์ เจริญช่าง ,เด็กชายดนัย เจริญช่าง  รับเงินรางวัล 10,000 บาท
รองอันดับ 1 : Miss Pinyaporn Buathong ,นายวีระ บุญเผื่อน ,นายปรเมศวร บุญเผื่อน  รับเงินรางวัล 6,000 บาท
รองอันดับ 2 : นางศิริศุภิศา เนตรแก้ว ,นายเมธากฤษฏ์ สุนทรส ,นายภูรีพงศ์ สุนทรส  รับเงินรางวัล 3,000 บาท

ประเภทบุคคลทั่วไป คู่รัก
ชนะเลิศ : Miss Apinya Thiangkaew ,Mister Peerapong Ladngern  รับเงินรางวัล 10,000 บาท
รองอันดับ 1 : Mister Peerapol Chawchiangkwang ,Mister Phuchong Saiudomsin  รับเงินรางวัล 6,000 บาท
รองอันดับ 2 : นายสิทธิพร มหบุญพาชัย ,นางสาวกชกร หิรัญญากร  รับเงินรางวัล 3,000 บาท

ประเภทบุคคลทั่วไป สมาชิกทีมมากที่สุด
ชนะเลิศ : BUNNY FAMILY 11 คน  รับเงินรางวัล 10,000 บาท
รองอันดับ 1 : CR – 7 5 คน รับเงินรางวัล 6,000 บาท
รองอันดับ 2 : TBS CYCLING 5 คน  รับเงินรางวัล 3,000 บาท

ประเภทบุคคลทั่วไป ปั่นเดี่ยวสายชิลล์
ชนะเลิศ : นายทวี นันทะสุขเกษม
รองอันดับ 1 : นายกานต์ภัชสิน สกลวิวัฒน์
รองอันดับ 2 : นายวิฑูรย์ วันดี

ประเภทแฟนซี เดี่ยว
ชนะเลิศ : นายฐมศิลป์ ตัวศรีตรัง  รับเงินรางวัล 30,000 บาท
รองอันดับ 1 : นายศศิโรจน์ ประจง  รับเงินรางวัล 20,000 บาท
รองอันดับ 2 : นายเสรีชล ภุมรัตนสุภัค  รับเงินรางวัล 10,000 บาท

ประเภทแฟนซี ทีม
ชนะเลิศ : ดูก็อง  รับเงินรางวัล 30,000 บาท
รองอันดับ 1 : ทีมไรดีว่ะ  รับเงินรางวัล 20,000 บาท

ส่วนกิจกรรมวันที่สอง ( 2 ธ.ค. 61) เป็นการแข่งขันเส้นทางการปั่น ประเภท PROFESSIONAL RIDE ระยะทาง 97 กิโลเมตร สำหรับนักปั่นมือโปรฯ และมือสมัครเล่น บนเส้นทางสุดท้าทาย ชิงเงินรางวัลสูงสุด 50,000 บาท และได้รับสิทธิพิเศษค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมที่พัก เพื่อเข้าร่วมแข่งขันงานเทศกาลปั่นจักรยานระดับโลกที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มูลค่ารวม 100,000 บาท ซึ่งงานนี้ผู้ชนะได้แก่

PROFESSIONAL RIDE A (ชาย) ไม่จำกัดอายุ
ชนะเลิศ : นายภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์ เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 16 นาที 25 วินาที คว้าเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงลอนดอน รวมมูลค่า 100,000 บาท

PROFESSIONAL RIDE B (หญิง) ไม่จำกัดอายุ
ชนะเลิศ : นางสาวศุภักษร นันตะนะ เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 1 นาที 39 วินาที คว้าเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงลอนดอน รวมมูลค่า 100,000 บาท

PROFESSIONAL RIDE ประเภท A1 ไม่จำกัดอายุ
ชนะเลิศ : นายภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์
รองอันดับ 1 : นายณัฐพล จำชาติ
รองอันดับ 2 : นายพงศกร พุ่งโลก

PROFESSIONAL RIDE ประเภท A2 รุ่นอายุ 30-39 ปี
ชนะเลิศ : นายโอกาส บัวลอย
รองอันดับ 1 : นายธวัชชัย จีระเดชาธรรม
รองอันดับ 2 : นายนวทรัพย์ มนีสุขศรี

PROFESSIONAL RIDE ประเภท A3 รุ่นอายุ 40 ปีขึ้นไป
ชนะเลิศ : นายมนะชัย เดชาศิริบูรณ์
รองอันดับ 1 : นายสุริยา แสงบุญ
รองอันดับ 2 : นายสมชาย ชมชื่น

PROFESSIONAL RIDE ประเภท B1 ไม่จำกัดอายุ
ชนะเลิศ : นางสาวศุภักษร นันตะนะ
รองอันดับ 1 : นางสาวอภิญญา เที่ยงแก้ว
รองอันดับ 2 : นางสาววราภรณ์ วายุภาพ

PROFESSIONAL RIDE ประเภท B2 รุ่นอายุ 35 ปีขึ้นไป
ชนะเลิศ : นางสาวจันทร์เพ็ญ อิ่มสุรส
รองอันดับ 1 : นางสาวณัฐมล อังกูลเมธารส
รองอันดับ 2 : นางสาวธนภรณ์ ใจยาเก๋

หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขัน นายภุชงค์ ซ้ายอุดมศิลป์ ผู้ชนะเลิศประเภท PROFESSIONAL RIDE A (ชาย) ไม่จำกัดอายุ เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 16 นาที 25 วินาที ได้รับรางวัลสูงสุดตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงลอนดอน เปิดเผยว่า “รู้สึกดีใจและขอบคุณ บ.พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต ที่จัดงานดี ๆ ที่บางแสน ถือว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ดูแลผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างดี ซึ่งก่อนเข้าแข่งขันได้มีการฝึกซ้อมอย่างหนัก อาทิตย์หนึ่งประมาณ 500-600 กิโลเมตร ปกติจะซ้อมที่จังหวัดเชียงใหม่ อากาศจะค่อนข้างหนาวและพื้นถนนแห้งเป็นพื้นเนินภูเขา ซึ่งต่างจากที่นี้ตลอดเส้นทางมีลมแรงและอากาศค่อนข้างร้อน เหงื่อจะออกมากยิ่งต้องดื่มน้ำเยอะขึ้น จึงต้องดูแลัวเองเป็นพิเศษ เพราะถ้าเราดื่มน้ำไม่พออาจจะทำให้ล้าง่ายและหยุดพักบ่อย ปกติแล้วกับผู้ชนะฝ่ายหญิงเป็นเพื่อนกันและเป็นนักกีฬาทีมชาติอยู่แล้ว ครั้งนี้ได้มีโอกาสไปปั่นที่ลอนดอนก็รู้สึกดีใจมากและต้องเตรียมตัวฝึกซ้อมมากขึ้นไปด้วย”

ด้าน นางสาวศุภักษร นันตะนะ ผู้ชนะเลิศ PROFESSIONAL RIDE B (หญิง) ไม่จำกัดอายุ เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 1 นาที 39 วินาที ได้รับรางวัลสูงสุดตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงลอนดอน เปิดเผยความรู้สึกเช่นกันว่า “รู้สึกดีใจงานนี้ถือว่ายิ่งใหญ่มาก ก่อนแข่งขันได้ฝึกซ้อมอย่างหนัก ผู้หญิงพละกำลังอาจจะใช้เวลาปั่นช้ากว่าผู้ชาย แต่ที่นี่ถือว่าดีได้ปั่นไปดูวิวทะเลข้างทางสวยดี สุดท้ายต้องขอบคุณทีมงานและ บ.พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต ที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้น” เช่นเดียวกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ถึงแม้จะไม่ได้รับรางวัลแต่ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีจากทั้งบรรดาเหล่านักปั่นและประชาชนทั่วไปที่เดินทางมาร่วมงาน

นายธนัฐภรณ์ แพนลา อายุ 48 ปี และนางเด่น โพธิ์ พันธุ์ทิพย์ อายุ 48 ปี หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันปั่นจักรยาน FUN RIDE ประเภทคู่รัก ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เผยว่า “รู้สึกยินดีและดีใจที่มีโอกาศได้มาร่วมงานและเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในวันนี้ เพื่อรณรงค์ในเรื่องของการออกกำลังกาย ทำให้เราหันมาใส่ใจในสุขภาพและตื่นตัวในการออกกำลังายมากขึ้น ที่สำคัญได้ปั่นไปกับคนที่เรารักแบบมีความสุขไปด้วยกัน ซึ่งปกติเข้าร่วมงานกีฬาประเภทวิ่งเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เข้าร่วมงานปั่นจักรยาน ถือเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่สร้างความแข็งแรงให้ร่างกายได้ดี อีกทั้งประทับใจในเส้นทางริมหาด เลยหาเวลาว่างมาร่วมกิจกรรม โดยภาพร่วมงานนี้ดีมากทั้งจุดบริการน้ำดื่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทีมงานทุกคนดูแลผู้เข้าแข่งขันดีรู้สึกประทับใจ และอยากเชิญชวนคนที่ชื่นชอบในการออกกำลังกายให้พาคนที่รักมาร่วมออกกำลังกายด้วยกันเพื่อสุขภาพที่ดี”

เช่นเดียวกับ นายอัครเดช อินป้อ อายุ 41 ปี พนักงานบริษัทเอกชน หนึ่งในผู้เข้าร่วมแข่งขัน ประเภท PROFESSIONAL RIDE ประเภท A3 รุ่นอายุ 40 ปีขึ้นไป เปิดเผยว่า “สนุกดี ส่วนใหญ่งานนี้จะมีกลุ่มนักปั่นมืออาชีพมาแข่งขันกันเยอะ ถึงแม้เราจะไม่ได้รางวัลแต่ก็ดีใจที่ได้ร่วมกิจกรรมได้ออกกำลังกาย เพราะจัดที่นี่ถือว่าบรรยากาศดี ปั่นระยะทาง 97 กิโลเมตร ถือเป็นครั้งแรกในชีวิต เพราะที่ผ่านมาซ้อมมากสุดอยู่ที่ 80 กิโลเมตร ใช้เวลาว่างช่วงหลังเลิกงานในการฝึกซ้อม และงานนี้ตลอดเส้นทางรู้สึกปลอดภัยทั้งการดูแลของทีมงานและเจ้าหน้าที่ ประทับใจมาก”