เร่งสอบ! คดีนายทุนเงินกู้นอกระบบบุรีรัมย์ ยึดโฉนด 390 ฉบับ หลัง ‘บิ๊กโจ๊ก’ นำทีมบุกทลาย

เร่งตั้งชุดสอบสวนตรวจสอบที่มาโฉนดที่ดิน หลัง “บิ๊กโจ๊ก” นำทีมจับนายทุนเงินกู้ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคอีสาน รวบผู้ต้องหา 7 ราย ยึดและอายัดทรัพย์สินกว่า 1,600 ล้าน ขณะที่ จ.บุรีรัมย์ มีผู้ต้องหา 4 ราย ยึดโฉนดกว่า 390 ฉบับ

วันที่ 9 ม.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้แถลงข่าวการจับกุมนายทุนเงินกู้ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคอีสาน คือ จ.นครราชสีมา, จ.บุรีรัมย์, จ.สุรินทร์ และ จ.ขอนแก่น รวบผู้ต้องหาตามหมายจับ 7 ราย ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด” ประกอบด้วย นางสุภาภรณ์ นพวิชัย, น.ส.พรรณวิภา นพวิชัย, นายวิวัฒน์ เกตตะโกมล, นางเมธี กัลป์เจริญศรี, น.ส.ศิริอร รัตนมงคลกุล, นายพรชัย ศรีสุริยันโยธิน และ น.ส.ผาวรินทร์ จรัสบวรพันธุ์ ทั้งได้ทำการตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบกว่า 1,600 ล้านบาทนั้น

ล่าสุด ในส่วนของ จ.บุรีรัมย์ ก็ได้มีการแต่งตั้งชุดสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัด โดยมี พ.ต.อ.สุรชัย สังขพัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเป็นหัวหน้าชุด เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวร่วมกับชุดสืบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเบื้องต้นหลังจากได้รับมอบเอกสารหลักฐานจากชุดจับกุมก็จะต้องทำการตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง สมุดรายชื่อลูกหนี้ รวมถึงตรวจสอบที่มาของโฉนดที่ดินทั้ง 393 ฉบับ ที่ตรวจยึดมาเป็นของกลางว่าเป็นของบุคคลใดบ้าง จากนั้นก็จะเรียกผู้ที่รายมีชื่อในโฉนดที่ดินมาสอบปากคำ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง โดยคาดว่าจะต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากเอกสารค่อนข้างมาก

ในส่วนของนายทุนหรือผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทั้ง 4 ราย ขณะนี้ได้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน แล้ว ส่วนกรณีที่มีผู้ต้องหาบางรายเป็นว่าที่ผู้สมัครนั้น ก็ยังสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ปกติ เนื่องจากยังไม่มีการสั่งฟ้อง และศาลยังไม่ได้ตัดสินคดี เพียงเป็นการจับกุมตามที่มีหมายจับเท่านั้น ซึ่งก็สามารถต่อสู้คดีได้ตามกระบวนการเหมือนคดีทั่วไป

ขณะที่ในส่วนของพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ได้มีการนำหมายศาลเข้าตรวจสอบนายทุนเงินกู้ในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.เมืองบุรีรัมย์ 4 จุด, นางรอง 6 จุด, โนนดินแดง 2 จุด และ อ.กระสัง 1 จุด จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด” 4 ราย ยึด/อายัดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท