SHARE

คัดลอกแล้ว

หลังอำเภอแม่ริม งัด พ.ร.บ.โรงแรม สั่งปิดรีสอร์ตบนดอยม่อนแจ่มภายใน 30 วัน หลังพบไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรม และพบมีการบุกรุกขยายพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม กว่า 30 ไร่

นายวิชิต เมธาอนันต์กุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม เผยว่า ผู้ประกอบการรีสอร์ตบนม่อนแจ่มเคยยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่แล้ว เป็นใบที่เมื่อปี 62 มีประกาศ คสช. ที่ 6/2562 เรื่องส่งเสริมการท่องเที่ยว ถ้าใครที่ทำที่พัก ผิด พ.ร.บ.อาคาร ผิด พ.ร.บ.โรงแรม ผิด พ.ร.บ.ผังเมือง ให้ไปแจ้งที่เทศบาล แล้วจะนิรโทษกรรมให้ทั้งหมด จนถึงปี 64 จากนั้นคณะกรรมการจึงจะเข้ามาจัดการว่า การที่ทำผิดนี้จะทำอย่างไรให้ถูกต้อง เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งชาวบ้านทั้งหมดก็เลยไปลง เมื่อชาวบ้านทุกคนไปลง แสดงว่าเขาได้รับความคุ้มครองตามคำสั่งที่ 6/2562 ใช่หรือไม่ แล้วก็ประกาศนี้ออกมาทีหลัง เพื่อจะล้มที่เขาไปยื่นทั้งหมดว่า คุณยื่นไม่ถูกมันย้อนแย้งกันหรือเปล่า ซึ่งตนคิดว่าการกระทำแบบนี้เป็นการกระทบต่อความสงบเรียบร้อย ความเป็นธรรมของชาวบ้านอย่างมหาศาล และกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ของม่อนแจ่มด้วย

ทีมข่าวเวิร์คพอยท์จึงโทรไปสัมภาษณ์ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เผยว่า ก่อนหน้านี้ที่ชาวบ้านไปยื่นใบสีชมพูตามคำสั่ง คสช. เป็นเพียงการสำรวจพื้นที่และกิจการเท่านั้น ไม่มีการนิรโทษใดๆ ส่วนการรื้อถอนรีสอร์ตภายใน 30 วัน มีเพียง 7 แห่งเท่านั้นที่ตรวจพบว่ามีความผิด ณ ขณะนี้จึงจำเป็นต้องสั่งรื้อถอน แต่ไม่ใช่ว่าสั่งรื้อทุกรีสอร์ตบนม่อนแจ่ม เพราะจะมีการสำรวจพื้นที่แบ่งกลุ่มในการจัดระเบียบ โดยกลุ่มที่ไม่มีคุณสมบัติที่เข้าไปอยู่คือ กลุ่มที่ไปซื้อกิจการหรือนายทุนตรงนี้เราไม่ให้ ก็ต้องเข้าไปสู่กระบวนการดำเนินคดี แล้วก็อาจจะมีการขอให้รื้อถอนออก ส่วนที่สอง เป็นส่วนของประชาชนเดิมที่เขาทำกิน แต่ว่าพัฒนาจนกลายมาเป็นรีสอร์ต ก็จะขอให้มีการปรับปรุง รื้อถอนในบางส่วนที่ไม่เหมาะสม หรือไม่ปลอดภัย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการร่วมกันหลายๆ ฝ่าย ช่วยกันพิจารณาว่าควรจะต้องปรับปรุงแค่ไหน รื้อออกแค่ไหน แต่รีสอร์ตที่มีอยู่ จะไม่เพิ่มขึ้นแน่นอน มีแต่จะลดลง หลังจากนี้ก็จะมีการขยายการสำรวจพื้นที่ทั้ง 13,000 ไร่ หากพบผู้กระทำบุกรุกป่า จึงจะดำเนินคดี

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า